วันที่ 5 ม.ค. เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รองผกก.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุม นายภาณุพล สุพรรณ อายุ 40 ปี (เบลอหน้า) อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ 3 ต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และ น.ส.นภทรพร เผ่าทหาร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 5 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง รถจักรยานปั่นแบบเมาเทนไบค์ จำนวน 2 คัน และจักรยานปั่นธรรมดา จำนวน 4 คัน โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไปให้พ้นการจับกุม โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 59 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งจาก นายอธิคม สมรรถการอักษรกิจ อายุ 42 ปี เจ้าของหอพักแห่งหนึ่ง ว่ารถจักรยานปั่นแบบเมาเทนไบค์ ยี่ห้อแพนเทอร์ รุ่นร็อคกี้ 4.9 สีขาว-แดง จอดไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้ถูกคนร้ายลักไปโดยการตัดโซ่คล้องจักรยานออก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ติดตั้งระบบแก๊ส NGV ทะเบียน 1ฒห2519 กทม. (ทราบภายหลัง)
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 60 นายอธิคม เจ้าของรถจักรยานปั่นคันดังกล่าวได้พบรถจักรยานปั่นของคันดังกล่าวพบว่ารถถูกนำไปโพสต์ขายในเว็บขายดีดอทคอม ในราคา 8,000 บาท โดยนายอธิคมจำได้ว่าเป็นรถของตนเอง เนื่องจากแตรแบบบีบสีแดงที่ติดไว้ด้นบนแฮนด์บังคับรถ และตัวปรับระดับสูงต่ำคอรถที่ติดตั้งไว้ จึงได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและร่วมวางแผนจับกุม โดยสืบทราบว่าผู้ที่ลงขายรถจักรยานปั่นคันดังกล่าวเป็นร้านรับซื้อของเก่า บริเวณถนนพหลโยธิน ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งซื้อมาจากผู้ต้องหาในราคา 5,000 บาท จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ ในระหว่างที่สอบสวนเจ้าของร้านดังกล่าว ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์เข้ามาเพื่อนำรถจักรยานปั่นมาขายเพิ่มจึงได้วางแผนรอเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด
ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 1 สามารถบันทึกภาพรถยนต์คันก่อเหตุได้เมื่อเวลา 11.49 น. วันที่ 30 ธ.ค. 59 ขับผ่านด้านหน้าสถานีรถไฟฟ้าบางกระสอ ต่อมากล้องตัวที่ 2 เป็นภาพอีกมุมหนึ่งจับภาพรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาจอดที่ด้านหน้าสถานี บริเวณที่จอดรถจักรยานปั่น หลังจากจอดอยู่ประมาณ 1 นาที รถยนต์กระบะได้เคลื่อนตัวออกไปโดยมีรถจักรยานปั่นของผู้เสียหายนอนอยู่ที่ท้ายกระบะ
จากการสอบสวน นายภาณุพล ทราบว่า ตนตกงานมีเพื่อนที่เคยก่อเหตุแบบนี้ชวนมาลักรถจักรยานปั่น เมื่อก่อนตนเป็นคนขับรถให้แต่เพื่อนคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับไป ตนจึงเริ่มก่อเหตุคนเดียวตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 โดยตะเวนลักจักรยานปั่นในพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี โดยตนจะขับรถออกจากบ้านพักที่ จ.อยุธยา แล้วตระเวนไปตามจุดที่จอดรถจักรยาน เมื่อสบโอกาสก็จะเลือกขโมยคันที่คล้องด้วยสายสลิง หรือ โซ่จากร้านทุกอย่าง 20 เพราะใช้คีมตัวเล็กตัดได้ ส่วนคันที่คล้องด้วยโซ่เหล็กจะไม่ขโมยเนื่องจากคีมตัวเล็กไป เงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายในครอบครัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนี้ จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: manager
0 comments:
Post a Comment