แต่เหมือนโชคร้าย ซ้ำเติม เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าน้องเมย์ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะก่อนหน้านี้น้องเมย์ซึ่งเป็นเด็กเรียนดีได้รับทุนการศึกษาจาก มูลนิธิอาสาสมัครนานาชาติช่วยงานสังคมสงเคราะห์ ไปจนจบปริญญาตรี แต่จากอาการป่วยที่เริ่มรุนแรง ร่างกายมีแผลพุพองเต็มตัว ต้องนำผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ตลอดเวลา เพราะถ้าแผลแห้งน้องจะเจ็บมาก โดยเฉพาะช่วงที่อากาศหนาวเย็น อีกทั้งมีอาการคันผิวหนังอยู่ตลอดเวลา และเริ่มลุกลามไปถึงดวงตาทำให้เริ่มมองไม่เห็น น้องเมย์จำเป็นต้องหยุดเรียนเอาไว้ก่อนเพื่อรักษาอาการป่วย
นางวรรณา ช้างมาก อายุ 40 ปี ป้าของน้องเมย์บอกว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นอน โดยหากวันที่มีคนจ้างก็จะได้ค่าแรง 300 บาท แต่ถ้าไม่มีงาน สองป้าหลานก็ต้องเจียดเงินที่มีอยู่มาใช้จ่ายอย่างแร้นแค้น ช่วงแรกที่น้องเมย์ป่วย ได้ไปรับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ทำให้เงินเก็บที่พอมีอยู่จำนวน 18,000 บาทของครอบครัวหมดลง ทำให้ต้องย้ายตัวน้องเมย์มารักษาต่อที่โรงพยาบาลสรรคบุรี และโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐ
และต่อมาได้มี หนังสือส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กที่กรุงเทพ แต่ด้วยความยากจนไม่มีเงินค่าเดินทาง จึงไม่ได้พาน้องไปรักษาต่อ ทำให้ปัจจุบันอาการของน้องเมย์ยิ่งทรุดลงทุกวัน จึงอยากวอนขอให้ผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องเมย์ด้วย เพราะน้องเมย์มีความฝันที่จะทำให้สิ่งที่รักมากที่สุดคือการเรียนให้จบ ปริญญาตรี เพื่อหางานทำเลี้ยงดูครอบครัว
สำหรับผู้มีจิตเมตตาที่ ต้องการช่วยเหลือครอครัวของน้องเมย์ สามารถโอนเงินได้ที่บัญชีธนาคารออมิน สาขาสรรคบุรี ชื่อบัญชี นางวรรณา ช้างมาก เลขที่บัญชี 020005097249 หรือโทรสอบถามและให้กำลังใจน้องเมย์ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 061-594-0857
ที่มา: banmuang
0 comments:
Post a Comment