สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์สำคัญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ที่กำลังจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ แต่ก็อาจเป็นสัปดาห์ที่สาหัสสำหรับนายทรัมป์ เพราะเขาต้องเจอทั้งเรื่องคณะรัฐมนตรีและทีมงานใหม่ การยกเลิกนโยบายโอบามาแคร์ และศึกปะทะคารมกับดารารุ่นเก๋าในวงการฮอลลีวูดอย่างเมอริล สตรีป
ศึกใหญ่ที่สุดของสัปดาห์นี้ก็คือ การรับรองรายชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลของนายทรัมป์ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้พรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์คุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมและผลประโยชน์ทับซ้อนของรายชื่อเหล่านั้น โดยมีการเปิดเผยว่า มีการรวบรวม 2,600 คำถามในการซักถามคณะรัฐบาลชุดใหม่
มีการคาดการร์ว่า นายเจฟฟ์ เซสชันส์ ส.ว.แอละบามาก็อาจถูกซักถามอย่างละเอียด หลังที่ถูกเลือกให้เป็นอัยการสูงสุด แต่เคยถูกปฏิเสธสิทธิ์การเป็นผู้พิพากษา เพราะเคยมีพฤติกรรมเหยียดผิว ส่วนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ผู้บริหารบริษัทเอ็กซอนส์ที่ถูกเลิกเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งอาจถูกพรรคเดโมแครตโจมตีเกี่ยวกับความสัมพันธ์แน่นแนบกับรัสเซีย และซักถามถึงจุดยืนในประเด็นสำคัญต่างๆที่นายทิลเลอร์สันไม่เคยพูดถึง
นอกจากนี้ ช่วงนี้นายทรัมป์และพรรครีพับลิกันยังเดินหน้าแผนยกเลิกระบบประกันสุขภาพโอบามาแคร์อย่างแข็งขัน แม้ไม่มีแผนใดๆมาทดแทน ซึ่งพรรคเดโมแครตก็น่าจะสู้ยิบตาเพื่อรักษาโอบามาแคร์ ซึ่งเป็นนโยบายที่โดดเด่นที่สุดนโยบายหนึ่งของรัฐบาลที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันนายทรัมป์ก็จะยกเลิกข้อตกลงต่างๆและธรรมเนียมทางการทูตที่ก่อรูปร่างขึ้นมาเป็นนโยบายต่างประเทศที่สหรัฐฯใช้มาหลายสิบปี เช่น การไม่สนใจนโยบายจีนเดียวและหันไปเจรจากับไต้หวันโดยตรง ซึ่งอาจทำลายความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด และสถานการณ์อาจเลวร้ายลงอีกเมื่อเกาหลีเหนือประกาศว่า จะทดสอบการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งอาจเป็นการทดสอบวิกฤตนโยบายต่างประเทศอันดับแรกของรัฐบาลนายทรัมป์
แม้ศึกปะทะคารมระหว่างทรัมป์กับเมอริล สตรีปอาจดูไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร แต่ก็แสดงให้เห็นว่า นายทรัมป์ไม่มีความพยายามที่จะควบคุมการใช้โซเชียลมีเดียแม้แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และจะตอบโต้ทุกเสียงวิจารณ์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการสื่อสารระหว่างประธานาธิบดีกับประชาชน แต่ก็แสดงว่า เขาจะไม่รักษาท่าทีเมื่อเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน
ที่มา: voicetv
0 comments:
Post a Comment