นายสุธารักษ์ ธีร์จันทึก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนรัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยว่า นายสมคิด เรียกประชุมเพื่อติดตามการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนรวมทั้งติดตามปัญหาการเบิกจ่าย เพื่อดำเนินการแก้ไขเป็นวาระเร่งด่วนให้การเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมาย 95% ของกรอบวงเงินงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในปี 2560 ทั้งสิ้น 3.7 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปี 2560
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการลงทุนเกิน 2,000 ล้านบาท ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมเม็ดเงินส่วนใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะมีการเรียกผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจที่งบลงทุนต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ต่อไป เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง แม้ว่างบลงทุนขนาดเล็กซึ่งจะต้องเบิกจ่ายให้ได้เร็วกว่างบลงทุนขนาดใหญ่
ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในปี 2559 ช่วงปลายปี โดยเฉพาะในเดือนธ.ค. 2559มีการเบิกจ่ายได้สูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากส่วนใหญ่รัฐวิสาหกิจจะมีการเบิกจ่าย และกันงบไว้เป็นจำนวนมาก โดยทั้งปีรัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง มีการเบิกจ่ายงบลงทุนมากกว่า 2.4 แสนล้านบาท จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในปี 2559 ทั้งหมด 2.97 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ที่ผ่านมา บมจ. ท่าอากาศยานไทย มีการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ต่ำกว่า 50% จากงบลงทุนทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิในเฟส 2 ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดขัดด้านการทำสัญญา ทำให้โครงการมีความล่าช้าออกไป แต่คาดว่า ทอท. จะนำแผนโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 มาดำเนินการต่อในปี 2560 นี้ ซึ่งจะมีเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังกล่าวว่า ในปี 2560 จะมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานหรือเมกะโปรเจกท์ ของกระทรวงคมนาคม 1.7 ล้านล้านบาท เดินหน้าได้ 8-9 แสนล้านบาท จะมีการเบิกเงินลงทุน 1.6 แสนล้านบาท รวมกับโครงการลงทุนอื่นๆ ทำให้มีการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้ถึง 2.2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ จะมีเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจตามแผนปกติของปีหน้าอีก 3.6 แสนล้านบาท รวมกับเม็ดเงินที่รัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนให้เร็วขึ้นอีก 6-7 หมื่นล้านบาท ทำให้มีเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจนี้อีกกว่า 4 แสนล้านบาท ที่จะลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ และระยะยาว
ขณะเดียวกัน ยังมีการลงทุนระยะกลาง และระยะสั้นจากงบเพิ่มเติมกลางปี 1.6 แสนล้านบาท ลงทุนในกลุ่มจังหวัดละ 6,000-7,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้เพิ่มขึ้น 0.3-0.4%
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเร่งลงทุนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการทำงบประมาณกลางปีเพิ่มเติม จะทำสร้างความเชื่อมั่นทำให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มในปีนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชน 2 แสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ 4%ต่อปี ซึ่งเป็นขั้นต่ำของการขยายตัวได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% ต่อปี
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment