300ไอเอสข่มขวัญ
บุกรร.จับตัวประกัน
ยังไม่รู้ชะตากรรม
กลุ่มติดอาวุธบุกค่ายทหาร จับนักเรียนเป็นตัวประกัน บนเกาะมินดาเนา ฟิลิปปินส์ ก่อนล่าถอย คลี่คลายแล้ว โดยไร้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ ได้แถลงความคืบหน้าของปฏิบัติการด้านความมั่นคง ที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ในเมืองปิกกาวายัน จังหวัดโกตาบาโตเหนือ บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ โดยกลุ่มมือปืนที่มีจำนวนหลายร้อยคนที่รวมถึงกลุ่มกบฏนักรบเสรีภาพอิสลามิกบังซาโมโร (บีไอเอฟเอฟ) ซึ่งเป็นแนวร่วมของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เริ่มต้นด้วยการโจมตีค่ายทหารแห่งหนึ่งที่มีกำลังทหารอยู่ไม่มากนัก เมื่อตอนรุ่งเช้าวันพุธที่ 21 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นได้ถอนกำลังออกไปเหลือเพียงราว30 คน เข้ายึดโรงเรียนและจับเอาพลเรือนในบริเวณนั้นไว้เป็นโล่มนุษย์ ในขณะเดียวกันกลุ่มมือปืน ได้วางระเบิดแสวงเครื่องไว้รอบๆโรงเรียนอีกด้วย
โฆษกของหน่วยทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันกี่คนและไม่แน่ชัดว่ามีเด็กๆ รวมอยู่ด้วยหรือไม่ แต่เผยว่ากลุ่มคนร้ายลักพาตัวพลเรือนไปด้วย 5 คนเพื่อใช้เป็นโล่มนุษย์ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจน
รายงานข่าวระบุว่าเหตุการณ์ยึดโรงเรียนและจับตัวประกันครั้งนี้เกิดขึ้นที่ที่เมืองปิกกาวายัน จังหวัดโคตาบาโต เป็นเมืองเกษตรกรรมที่อยู่ห่างจากเมืองมาราวีราว160 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นกล่าวว่าการโจมตีของกลุ่มบีไอเอฟเอฟอาจจะมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มนักรบมุสลิมในเมืองมาราวี ด้วยการดึงความสนใจของทหาร ขณะที่โฆษกกลุ่มติดอาวุธอ้างว่าทางกลุ่มไม่มีเจตนาที่จะจับพลเมืองไว้เป็นตัวประกันเพียงแต่ต้องการพายังไปที่ปลอดภัย หลังเกิดการยิงปะทะกันกับทหาร แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของพลเรือนทั้งหมด
ด้านพลจัตวาเรสติตูโต พาดิลลา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์แถลงว่าสถานการณ์จับตัวประกันในเมืองปิกกาวายัน จังหวัดโคตาบาโตได้คลี่คลายลงแล้ว หลังกลุ่มนักรบเสรีภาพอิสลามบังซาโมโร(บีไอเอฟเอฟ) ที่จับนักเรียนเป็นตัวประกัน ยอมล่าถอยออกไป ทำให้ขณะนี้พื้นที่บริเวณโรงเรียนมีความปลอดภัยอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต กล่าวระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจชาวเมืองมาราวี ตามค่ายผู้อพยพที่อยู่ชนเมือง กล่าวขอโทษประชาชนที่ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้เมืองมาราวีเสียหายราบเป็นหน้ากลองและพลเรือนมากกว่า300,000 คนต้องอพยพ แต่ยืนยันว่าเป็นความจำเป็นเนื่องจากต้องกำจัดผู้รุกรานให้ออกไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด แม้ยอมรับว่ากลุ่มคนร้ายยังคงพยายามก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้นำฟิลิปปินส์ให้คำมั่นว่าภาครัฐจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการบูรณะซ่อมแซมเมืองมาราวีขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งยืนยันว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถในการให้การสู้รบยุติก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอนหรือภายในวันเสาร์ที่ 24 มิ.ย.นี้
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment