Tuesday, July 18, 2017

Tagged Under:

ปีที่22แล้ว! 'หมอใจบุญ' เปิดคลีนิครักษาฟรีถวายสมเด็จย่า

By: news media On: 7:42 PM
  • Share The Gag

  • "นพ.สนธยา" ใจบุญปีที่22 ยังคงเปิดคลินิกรักษาโรคฟรีผู้ยากไร้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่าต่อเนื่อง เผยเด็ก คนชรา ผู้ยากไร้เข้าคิวรอตรวจยาวเหยียด ทั้งมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมตั้งโรงทานกว่า40โรง แจกจ่ายอาหารน้ำดื่มฟรีแก่ผู้มาตรวจรักษาด้วย
    บรรยากาศที่คลินิก “สนธยาการแพทย์” ของนายแพทย์ สนธยา วัฒนโกศล ตั้งอยู่เลขที่21 ถนนนิวาศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อดีตแพทย์โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ที่ได้ขนานนามว่า “หมอใจบุญ” ได้ร่วมกับคณะแพทย์-พยาบาลจากทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดรวมกว่า10จังหวัด ได้เปิดให้บริการตรวจรักษาโรคฟรี ทุกวันที่18กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือ“สมเด็จย่า”เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่าที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งปีนี้ได้เปิดบริการตรวจรักษาฟรีต่อเนื่องเป็นปีที่22แล้ว


    ซึ่งตั้งแต่ช่วงเข้าก็ได้มีประชาชน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนชราและผู้ยากไร้มาเข้าคิวเพื่อรอรับการตรวจรักษาโรคกันเป็นจำนวนมากซึ่งส่วนมากเป็นชาวบ้าน เกษตรกร และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่มีอาการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานหนัก นอกจากนั้นยังมีผู้มีจิตศรัทธา และห้างร้านต่างๆ มาร่วมเปิดโรงทานกว่า40โรงทาน โดยนำอาหารคาว หวาน น้ำดื่ม แว่นตา มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ที่มารับบริการตรวจรักษาโรคฟรีในครั้งนี้ด้วย รวมถึงยังให้บริการตัดผมชาย-หญิงฟรี และบริการนวดแผนโบราณฟรีอีกด้วย

    สำหรับนายแพทย์สนธยา วัฒนโกศล เป็นอดีตเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ได้ลาออกมาเปิดคลินิกนานกว่า10ปีแล้วหลังจากที่สมเด็จย่าสวรรคต เมื่อปี2539และได้เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรีให้กับประชาชนที่เจ็บป่วย และมีฐานะยากจน ติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี ปีละ2ครั้ง คือทุกวันที่18กรกฎาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า และวันที่5ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติโดยใช้งบประมาณส่วนตัวและเพื่อนแพทย์-พยาบาล รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนในการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์

    นายแพทย์สนธยา ปีนี้เป็นปีที่22แล้วที่เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรี ทั้งยังได้ปณิธานไว้ว่าจะเปิดให้บริการตรวจรักษาโรคฟรีแก่ประชาชนไปตลอดเป็นประจำทุกปีจนกว่าจะหมดลมหายใจเพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่าและพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย โดยหวังว่าการทำความดีในครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายให้คนไทยทั้งประเทศได้หันมาร่วมกันทำความดีเพื่อพ่อหลวงในรูปแบบต่างๆ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

    ที่มา: bangkokbiznews

    0 comments:

    Post a Comment