สายถิ่น ผบก.ภ.จ.อุดรฯ พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรฯ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมือง อุดรฯ พ.ต.ท.ไกรสร พาน้อย รอง ผกก.สส.ภ. จว.อุดรฯ พ.ต.ต.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส.ภ.จว.อุดรฯ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกมล พลขยัน ฉายา “โอลาย” หัวหน้าแก๊งวัดเส อายุ 20 ปี อยู่ ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรฯ พร้อมของกลางปืนลูกโม่ขนาด .22 ปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด.22 จำนวน 6 นัด รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีแดง ทะเบียน 1กญ 7122 อุดรธานี กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล 1 ใบ หมวก 1 ใบ เสื้อยืดที่ใส่ในวันก่อเหตุ 1 ตัว โดยกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาและยิงอาวุธปืนไปในถนน หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ท.ปัญญา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ขณะที่ พ.ต.ต.มานิตย์ แก้วเจริญ สว.สส.ภ.จ.อุดรฯ ออกตรวจที่เกิดเหตุได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรฯ ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี ไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างของนายวรรณชาติ จันมดัน อายุ 18 ปี อยู่ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณขา จนตกลงจากรถ จยย. ลงมาคอหักเสียชีวิต และพบผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายธนพล แซ่งั้น อายุ 19 ปี อยู่ ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 คน ถูกเด็กแว้นคู่อริไล่ยิง ตำรวจจึงออกสืบสวนและจับกุมนายกมล ได้พร้อมอาวุธปืน ได้ที่บ้านเช่าในซอยประชาสันติ เขตเทศบาลนครอุดรธานี
จากการสอบสวนนายกมล ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างกับพ่อ และยังเป็นสมาชิกแก๊ง “วัดเส” มีสมาชิกกว่า 100 คน มักจะรวมตัวกันที่หน้าวัดธรรมเสนา เขตเทศบาลนครอุดรฯ เมื่อปี 2557 เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาบ้า และอยู่ในระหว่างประกันตัวชั้นศาล รับว่าเป็นคนยิงนายวรรณชาติ จนตกรถลงมาเสียชีวิตจริง เพราะถูกผู้ตายและเพื่อนไล่ทำร้ายก่อน โดยก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่ได้เปลี่ยนยางรถ จยย.แล้ว ได้นำรถไปทดลองขี่บนถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรฯ
เมื่อมาถึงหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ก็พบกับกลุ่มผู้ตายสมาชิกแก๊ง “ผีบ้านนอก” ซึ่งเป็นคู่อริ มาด้วยกัน 5 คน ขี่รถไล่ทำร้าย ตนที่มาคนเดียวสู้ไม่ได้ พยายามขับขี่รถหนี แต่กลุ่มผู้ตายได้ไล่ติดตามถึงสามแยกซอยจินตคาม และรถได้ติดสัญญาณไฟแดง ผู้บาดเจ็บได้ขี่รถมาจอดประกบ ผู้ตายซึ่งนั่งซ้อนท้ายใช้กำปั้นชกหน้าตน 1 ครั้ง
ตนจึงชักปืนที่เหน็บเอวออกมาขู่ กลุ่มผู้ตายขี่รถหลบหนี ตนได้ขี่รถตามไปไล่ยิงใส่ขาผู้ตาย 1 นัด เห็นผู้ตายตกลงจากรถ ตนจึงขี่รถหลบหนี นำปืนไปฝากไว้กับเพื่อน และกลับไปทำงานตามปกติ กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม จึงทราบว่าคนที่ตนยิงใส่ขา ตกรถคอหักเสียชีวิตดังกล่าว
ที่มา,www.khaosod
0 comments:
Post a Comment