เมียนมาได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ‘ทิน จ่อ’ รับตำแหน่ง 1 เมษายนนี้

นายทิน จ่อ วัย 69 สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเมียนมาสังกัดพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี)ที่มีนางอองซาน ซูจี เป็นประธานพรรคได้รับการลงคะแนนในรัฐสภาเมียนมาให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ตามความคาดหมาย ด้วยคะแนน 360 จากคะแนนเสียงทั้งหมด 652 คะแนน ซึ่งมากกว่า 1 ใน3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเขาจะเป็นประธานาธิบดีพลเรือนคนแรกที่ไม่เคยมีตำแหน่งทางทหารมาก่อน และจะเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายเต็ง เส่ง ที่กำลังจะหมดวาระลงในวันที่ 30 มีนาคมนี้

กำหนดการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของนายทิน จ่อ ประธานาธิบดีคนใหม่ คือวันที่ 1 เมษายน 2559 ส่วนนายขิ่น อ่อง มินท์ และนายเฮนรี่ วาน ติโอ ผู้ถูกเสนอชื่อโดยกองทัพและสภาสูงตามลำดับ จะเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ 1 และคนที่ 2 เนื่องจากนายขิ่น อ่อง มินท์ ได้รับคะแนนเสียง 213 คะแนน มากกว่านายเฮนรี่ วาน ติโอ ที่ได้ 79 คะแนน เขาจึงได้รับตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนที่ 1

สื่อเมียนมารายงานว่า ทิน จ่อ นั้นเป็นคนสนิทของนางอองซาน ซูจี ประธานพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งไม่สามารถขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้เองเนื่องจากติดขัดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะขึ้นเป็นประธานาธิบดี ห้ามมีสมาชิกครอบครัวเป็นชาวต่างชาติ (กรณีของซูจี เธอแต่งงานกับชาวอังกฤษ และบุตรชายทั้งสองก็มีสัญชาติอังกฤษ) ดังนั้น ทิน จ่อ ที่เป็นคนสนิทจึงนับเป็นตัวแทนที่เหมาะสม เพราะก่อนหน้านี้ นางอองซาน ซูจี เคยประกาศไว้แล้วว่า เธอจะอยู่เหนือประธานาธิบดี หรืออีกนัยยะคือเธอจะเป็นผู้กำกับควบคุมการทำงานของประธานาธิบดี ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงมองว่า การจะทำเช่นนั้นได้ ผู้ที่จะมาเป็นหุ่นชักให้เธอจะต้องเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีอย่างเปี่ยมล้นและมั่นคง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่านางอองซาน ซูจี จะได้รับตำแหน่งใดๆในคณะรัฐบาลอย่างเป็นทางการหรือไม่ นอกเหนือไปจากตำแหน่งผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยชักใยหุ่นเชิดอย่างที่สื่อและนักวิเคราะห์เรียกขาน

ทิน จ่อ อาจจะไม่มีชื่อเสียงหรือถูกกล่าวถึงมากนัก แม้กระทั่งในช่วงเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับความเคารพนับถืออยู่มาก โดยเฉพาะในแง่ที่บิดาของเขาเป็นกวีที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ มีการศึกษาสูงและสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ เขารู้จักกับนางอองซานตั้งแต่สมัยวัยเรียน โดยทิน จ่อ เป็นนักเรียนรุ่นน้องของนางอองซานที่โรงเรียนเดียวกัน นอกจากนี้ เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในประเทศแล้ว เขายังไปศึกษาต่อด้านคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากกลับมาบ้านเกิด ทิน จ่อ ได้เข้าทำงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาก่อนที่จะลาออกจากราชการในปี 2535 เพื่อมาร่วมต่อสู้กับพรรคเอ็นแอลดีเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาเนื่องจากรัฐบาลทหารของเมียนมาในเวลานั้นไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่พรรคเอ็นแอลดีเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ

ต่อมาในสมัยที่นางอองซาน ซูจี ถูกรัฐบาลทหารสั่งกักบริเวณในบ้านตัวเอง ทิน จ่อ ทำหน้าที่เสมือนผู้เชื่อมการติดต่อระหว่างเธอกับโลกภายนอกปัจจุบัน เขายังดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิที่จัดตั้งในนามมารดาของนางอองซาน และสมรสแล้วกับภรรยาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดียวกัน

ที่มา:thansettakij