Wednesday, March 16, 2016

Tagged Under:

แบงก์รับบริหารเงินคนรวยหย่อนเป้าแต่ไม่ขาดทุน

By: news media On: 6:28 PM
  • Share The Gag
  • แบงก์ปรับกลยุทธ์บริหารเงินลูกค้าเศรษฐีรับตลาดผันผวน “กสิกรไทย” เผยเห็นสัญญาณนักลงทุนหน้าใหม่โยกถือเงินสด-เงินฝากพุ่ง ยอมรับผลตอบแทนระยะสั้นหย่อนเป้าจาก 6-7% เหลือ 4-5% ด้าน “กรุงไทย” ชูกลยุทธ์กระจาย Wealth Hub 82 เขต ดูดลูกค้าใช้บริการ ตั้งเป้าโตฐานลูกค้า-สินทรัพย์ AUM 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.5 แสนล้านบาท ส่วน “ไทยพาณิชย์” ชี้ลูกค้าระวังตัวมากขึ้น แต่โอกาสโตอีกเพียบ แนะลงทุนตลาดที่ให้ปันผลคงที่


    นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวตแบงก์ สายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทิศทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างผันผวนและมีทิศทางไม่ชัดเจน จะเห็นว่าในช่วงเดือนมกราคมตลาดหุ้นผลงานออกมาแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี จากสัญญาณดังกล่าวทำให้ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์การบริหารพอร์ตลงทุนกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง หรือกลุ่มไพรเวตแบงก์เป็นหมวดระมัดระวังและแนะนำหันมาถือเงินสดมากขึ้น ขณะเดียวกัน จากแนวโน้มตลาดหุ้นที่ผันผวน อาจส่งผลให้การสร้างผลตอบแทน (Yield) จากการลงทุนปีนี้ในระยะสั้น 1-2 ปี จากเดิมที่วางกรอบไว้ที่ระดับ 6-7% อาจจะปรับลดลงเหลือ 4-5% ส่วนกรอบค่าเฉลี่ยผลตอบแทนระยะยาวยังอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ตามกรอบที่ตั้งเป้าไว้ 6-7%

    ทั้งนี้ ภายใต้การปรับพอร์ตการลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงสู่สินทรัพย์ปลอดภัย หรือ (Risk Off) ธนาคารแนะนำการลงทุน แบ่งเป็น ตราสารหนี้ประมาณ 50% เงินสด 10% และปรับการถือหุ้นต่ำกว่า 30% โดยหันมาถือทองคำในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวถือว่าเป็นหมวดระวังภัย อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์หุ้นที่ไม่ค่อยดีในช่วงต้นปี ทำให้นักลงทุนเกิดความตกใจ โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่ลองเข้ามาลงทุนในช่วงต้นปีหรือกลางปีก่อน ซึ่งไม่เคยจัดพอร์ตการลงทุนมาก่อน แต่เข้ามาลงทุน เนื่องจากต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ดังนั้น เมื่อเกิดสถานการณ์ความผันผวนจะเห็นลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 50% ทิ้งพอร์ตลงทุนหันไปฝากเงินเหมือนเดิม และอีกประมาณ 50% ที่ถือพอร์ตต่อเพราะทนรับการขายขาดทุนไม่ได้ ส่วนนักลงทุนสถาบันรายใหญ่จะมีลักษณะการปรับพอร์ตการลงทุนสู่หมวดปลอดภัยแทนการทิ้งพอร์ต เนื่องจากรับความเสี่ยงได้มากกว่านักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนหน้าใหม่

    ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่มีสามารถรองรับเข้ากับสถานการณ์ความผันผวนได้ดี ภายใต้กองทุน K-SGM จะมีกลไกปรับพอร์ตต่อเนื่อง โดยจะมีการจับสัญญาณทุกสัปดาห์จากข้อมูลเศรษฐกิจจำนวน 2 ชุด เป็นข้อมูลนำและข้อมูลตาม ที่จะมีการวิเคราะห์เศรษฐกิจตามดัชนีชี้วัดต่างๆ ซึ่งเหมาะสมกับภาวะตลาดมีความไม่แน่นอนและผันผวนสูง จะเห็นว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากมีการเปิดตัวเพียง 2 เดือน ปัจจุบันมีเงินลงทุนในกองทุนดังกล่าวแล้วกว่า 3 พันล้านบาท และคาดว่ากองทุนจะเติบโตได้เพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาทในระยะเวลาอันสั้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดโดยรวมและความเข้าใจของลูกค้าด้วย

    ที่มา:thansettakij

    0 comments:

    Post a Comment