ทธิฤทธิ์เณรคำ!! สาวกเผยนาทีเสกฝนดับร้อนชี้ถูกจับ สาวกยังศรัทธาเชื่อเป็นโพธิสัตว์

ล่าสุด (18 ก.ค.) พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธัมโม พระที่เคยสนิทเณรคำ ได้เล่าถึงเรื่องราวของเณรคำ ผ่านรายการต่างคนต่างคิด เวลา 18.45 น. ว่า รู้จักกับพระเณรคำตั้งแต่ปี  2555 โดยตกลงกันว่าจะซื้อที่ดิน ในมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท เพื่อสร้างวัดพุทธชยันตี ต่อมาได้นำเงิน 5 แสนบาทที่ได้จากการบริจาคของญาติโยมไปค้ำประกันกับธนาคาร ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน แต่เมื่อติดต่อไปหาพระเณรคำอีกปรากฎว่าถูกบ่ายเบี่ยง

ทั้งนี้ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา ได้เล่าปรากฎการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อครั้นที่เณรคำได้เดินทางมาที่วัดพุทธชยันตี ขณะนั้นมีแดด แต่ทันทีที่รถของเณรคำมาถึงฝนกลับตกลงมา


ขณะนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงสำหรับประเด็นต่างๆ ว่ามีข้อมูลเป็นเช่นไร แต่เชื่อว่าสังคมวันนี้คนที่ศรัทธานั้นยังมีอยู่ โดยพระอาจารย์เองก็ต้องวางใจไว้เป็นกลาง เพราะกระบวนการทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดี ส่วนการนั่งเครื่องบินเจ็ท คิดว่าท่านมีสิทธิ์เลือกพาหนะในการเดินทาง จึงไม่ได้ติดปัญหาตรงนั้น ส่วนตัวพระอาจารย์คิดว่า เณรคำคือพระโพธิสัตว์ เพราะเณรคำคอยช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ส่วนตัวมองว่าหากเณรคำจะเดินทางในทางที่ผิดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากมันเป็นเรื่องธรรมชาติ อาจมีผิดพลั้งกันบ้าง

จุดเริ่มต้นของที่มาเรื่อง เณรคำ มาจากการร้องทุกข์กล่าวโทษของนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับสอบสวนเป็นคดีพิเศษ เนื่องจาก “เณรคำ” มีพฤติการณ์อวดอุตริ อภินิหารเพื่อฉ้อโกงเงินบริจาคจากประชาชน และต้องอาบัติปาราชิก จากการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว โดยคดีนี้ถูกมอบหมายให้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักคดีความมั่นคง และเรื่องเงินล้นต้นกฐินยักษ์ 36 ต้น รวมกว่า 100 ล้าน “หลวงปู่เณรคำ” ระบุ ต้องใช้เงินก่อสร้างทั้งสิ้น 500 ล้าน เผยชฎาพระแก้วมรกตจำลองทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ แต่ผลปรากฎว่า อดีตช่างสิบหมู่บอกว่าไม่ใช่หินหยก จึงมีคนตั้งประเด็นว่าถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือไม่ และในวันพรุ่งนี้ต้องรอดูว่าเณรคำจะได้รับการคัดค้านการประกันตัวหรือไม่คุณยายลอน มนัส กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่าจะมีการส่งตัวอดีตหลวงปู่เณรคำกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว โดยส่วนตัวก็รู้สึกเฉยๆ เนื่องจากทราบข่าว และทราบพฤติกรรมของอดีตหลวงปู่เณรคำมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ ตนได้อโหสิกรรมให้กับอดีตหลวงปู่เณรคำ เกี่ยวกับการที่ทำให้วัดป่าขันติธรรมเสื่อมเสียหายหมดแล้ว ตนเห็นว่าวัดก็ยังคงอยู่เช่นเดิม แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นมานี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลใครทำกรรมอะไรไว้ก็ให้รับกรรมกันไปตนไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวบุคคลแต่ว่าตนเชื่อมั่นในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่มา:postjung