เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เปิดเผยว่าพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการ คสช.เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติในการดูแลความเรียบร้อยในการอ่านคำพิพากษาคดีสำคัญในโครงการรับจำนำข้าวและสังคมให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง พล.อ.เฉลิมชัยได้กำชับให้แต่ละหน่วยงานกำกับดูแลให้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกส่วนเป็นไปตามแนวทาง ซึ่งได้กำหนดไว้แล้วในการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการปฏิบัติและดูแลในภาพรวมภายใต้การใช้กฎหมายปกติซึ่งมีกระทรวงมหาดไทยและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.)จะเป็นส่วนให้การสนับสนุน
ประเมินกองเชียร์มา3,500คน
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าจะมีประชาชนมาร่วมรับฟังความคืบหน้าของคดีในวันดังกล่าวประมาณ 3,000-3,500คน อาจจะทำให้พื้นที่โดยรอบเกิดความไม่สะดวกในบางเรื่องอาทิ ปัญหาการจราจร สภาพอากาศ ความแออัดของพื้นที่ รวมทั้งกระบวนการอ่านคำพิพากษาอาจต้องใช้ระยะเวลานานซึ่งเลขา คสช.มีความห่วงใยในข้อจำกัดดังกล่าว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเตรียมการรองรับให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ รวมทั้งการกำกับดูแลไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายในทุกด้านเพื่อให้ภาพรวมของเหตุการณ์ มีความเรียบร้อยที่สุด ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ทางสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะไม่มีการจัดประชุมเรื่องดังกล่าวอีกแล้ว
จัดระเบียบกองเชียร์หวั่นทำผิดกม.
แหล่งข่าวจากคสช.เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธานประชุมสำนักงานเลขาธิการคสช.เรื่องการรับมือสถานการณ์วันตัดสินคดีรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีวันที่25สิงหาคมนี้ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลสถานการณ์ทั้งการจัดระเบียบประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์บริเวณหน้าศาล เพื่อไม่ให้เกิดบรรยากาศการกดดันการทำหน้าที่ของศาลและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการกระทำผิด พร้อมอำนวยความสะดวก 9 ตุลาการ ในการทำหน้าที่และดูแลรักษาความปลอดภัย
สั่งเช็ควงจรปิดรวบศาลต้องพร้อม
แหล่งข่าว คสช.ยังเผยว่าในส่วนของการทำหน้าที่ของ กกล.รส.ทั้ง 4 กองทัพภาคนั้น พล.อ.เฉลิมชัย เน้นย้ำให้ดูแลความสงบเรียบร้อยตามความรับผิดชอบ ส่วนที่มีกระแสข่าวทหารบังคับให้ประชาชนเซ็นหนังสือยินยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ไม่ให้นำมวลชนไปให้กำลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ในพื้นที่ภาคเหนือนั้น พล.อ.เฉลิมชัย ไม่ได้ติดใจอะไร และทางกองทัพภาคที่ 3ชี้แจงว่าไม่มีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เป็นเพียงข่าวโคมลอย เพื่อจุดประเด็นให้คนเดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 เชื่อว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือมีความเข้าใจต่อเหตุการณ์ต่างๆเป็นอย่างดี
นอกจากนี้พล.อ.เฉลิมชัย ยังสั่งการให้ประสานงานกับ กทม.ในการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าศาลและพื้นที่ใกล้เคียงให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อผู้ฝ่าฝืนและทำผิดกฎหมายในวันที่ 25 สิงหาคมนี้
บชน.จัดกำลังตร.4พันชี้ขาดคดีปู
วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)รับผิดชอบงานความมั่นคงกล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในวันที่25สิงหาคมนี้ที่คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษา คดีโครงการรับจำนำข้าวที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยว่ากำลังที่ใช้รักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก แยกเป็นกองร้อยควบคุมฝูงชน จาก กองบัญชาการต่างๆจำนวน 24 กองร้อย กองร้อยละ 155 นาย รวม 3,700นาย รวมทั้งฝ่ายสืบสวน(นอกเครื่องแบบ)และฝ่ายจราจร รวม 4,000 นาย
คาดกองเชียร์มา3พัน/เข้มมือที่3
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวอีกว่าสำหรับพื้นที่กำหนดเขตศาลจำนวน ประมาณ15,995 ตารางเมตร ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่เปิดโล่ง เปิดเป็นพื้นที่สำหรับประชาชนที่มาให้กำลังประมาณ 1,500ตารางเมตร ประเมินประชาชนที่มาให้กำลังใจประมาณ 3,000คน ส่วนที่เหลือทางเจ้าหน้าที่ จึงต้องจัดวางกำลังนำแผงเหล็กมากั้นไว้ขอบเขต เพื่อมิให้รุกล้ำเข้าไปในเขตอำนาจศาลจึงต้องมีการวางกำลังไว้จำนวนมากควบคู่กับแผงเหล็กเนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งเพื่อรักษาความปลอดภัยสถานที่มากที่สุด พึงระวังบุคคลที่สามและเป็นการป้องกันเหตุจากผู้ไม่หวังดี
ติดวงจรปิด40ตัว/เตรียมฮ.เสริม3ลำ
ทั้งนี้ รอง ผบช.น.ระบุว่าในวันดังกล่าวโดยรอบจุดที่ประชาชนมารอให้กำลังใจและรอบๆตัวอาคารศาลจะติดตั้งกล้องวงจรปิด( CCTV )จำนวน 40 ตัว เพื่อบันทึกภาพหากมีบุคคลบุกรุกและฝ่าฝืนยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย ก็จะมีหลักฐานเพื่อออกหมายจับภายหลัง ส่วนในด้านของการรักษาความปลอดภัยได้นำเครื่องวอล์กทรู จำนวน 3 เครื่อง มาติดตั้งบริเวณจุดคัดกรองโดยรอบ พร้อม รถควบคุมฝูงชน จำนวน 20 คัน เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ รถพยาบาล 4 คัน เป็นต้น
ตร.วางกำลังคุมเข้มปลอดภัยศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวก่อนวันที่ 25สิงหาคมที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาคดียิ่งลักษณ์ และคดีนายบุญทรง กับพวกนั้น วันที่ 25 สิงหาคม เวลา09.00น.ตำรวจได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลไว้แล้ว จะมีการเปิดให้นำรถเข้าบริเวณศาลเพียงทางเดียวคือทางเข้าหลักศูนย์ราชการฯ บริเวณข้างศาลปกครอง
ส่วนทางเข้าอื่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะกั้นทางไว้เพื่อการตรวจสอบโดยรถข่าวของสื่อมวลชนที่ไม่ใช่รถโมบายถ่ายทอดสด ที่จะนำเข้ามาบริเวณศาล จะต้องมีการ แจ้งทะเบียนรถโดยส่งเฟ็กซ์มายังหมายเลข 02-143-7814 เพื่อ เจ้าหน้าที่ศาลส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบ พร้อมกับรายชื่อผู้สื่อมวลชนที่ได้ยื่นกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้สื่อมวลชนที่ส่งรายชื่อจะเข้าฟังในห้องพิจารณารวมประมาณ70รายจะได้เข้าห้องพิจารณา หากระหว่างนี้มีรายชื่อเพิ่มเติมเกินพื้นที่รองรับเพื่อให้สื่อทุกแขนงได้เข้าฟังจะพิจารณาจำกัดให้สื่อสำนักละ1คน เข้าฟังจากเดิมให้สื่อสำนักละ2คน
เริ่มอ่านคดีระบายข้าวจีทูจีก่อน
แหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมระบุว่าในวันดังกล่าวตามที่มีการนัดคู่ความของทั้งสองคดีมาในช่วงเช้า ซึ่งจำเลยทั้งหมด จะต้องเข้าห้องพิจารณาคดีโดยองค์คณะผู้พิพากษาจะเริ่มอ่านคดีการระบายข้าวจีทูจี ที่มีนายบุญทรง กับพวกเป็นจำเลยก่อน ส่วนปัญหาที่ในคดีระบายข้าวจีทูจีมีจำเลยจำนวนมาก หากวันดังกล่าว มีจำเลยไม่ได้มาฟังคำพิพากษานั้น องค์คณะสามารถที่จะอ่านคำพิพากษาได้ในวันนั้นเลยเนื่องจากคดีนี้มีจำเลยที่ไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวอยู่ สามารถอ่านคำพิพากษาเฉพาะที่มีตัวได้เลย ส่วนเวลาในการเริ่มอ่านและความยาวของคำพิพากษา ไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากในวันดังกล่าวองค์คณะจะทำคำวินิจฉัยส่วนตนมาและประชุมทำคำพิพากษากลาง ในวันที่อ่านคำพิพากษาเลย
แหล่งข่าวกล่าวว่าปกติแล้วหลายคดีส่วนใหญ่ จะเลื่อนคดีออกไป หากไม่มีตัวจำเลยแต่เหตุที่จะต้องอ่านคำพิพากษาในวันนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีจำเลยที่ถูกคุมขังอยู่ ย่อมสามารถอ่านได้เลย เมื่อมีการอ่านคำพิพากษาในจำเลยที่ถูกคุมขังอยู่แล้วก็ย่อมสามารถอ่านให้จำเลยที่มีตัวมาแสดงได้หมด ส่วนจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษา ก็เท่ากับหลบหนี ขั้นตอนจะออกหมายจับปรับนายประกันตามสัญญาประกันที่เคยทำไว้
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment