จากกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้งบประมาณเพื่อนำประชาชนเดินทางไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตจำนำข้าว นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในฐานะกำกับดูแล อปท.ได้มีการตรวจสอบแล้ว แต่ขอเวลาในการดำเนินการก่อน เนื่องจากข้อมูลจาก สตง.ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ใด พร้อมกำชับข้าราชการในส่วนของ อปท.แต่ละพื้นที่ให้ใช้งบประมาณไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม
ทั้งนี้ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ข้อมูล อปท.ใช้งบประมาณขนมวลชนไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ได้มาจากญาติของคนที่ถูกพาไปที่หน้าศาลฎีกาครั้งที่ผ่านมา โดยคนที่นำมาได้อ้างว่าจะพามาทำกิจกรรมอื่น แต่เมื่อไปถึงกลายเป็นไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามี อปท.ที่ดำเนินการลักษณะนี้หลายจังหวัด แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นพื้นที่ใด แต่ได้แจ้งเตือนไปแล้วเพื่อไม่ให้ทำอีกในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ส่วนที่เกิดขึ้นแล้ว สตง.จะตรวจสอบเพื่อเรียกงบประมาณส่วนนั้นคืน รวมถึงดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
แห่เบิร์ดเดย์”บิ๊กป้อม”วัย72ปี
เช้าวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมครอบครัว เดินทางไปทำบุญที่วัดพระศรีมหาธาตุวรวรมหาวิหาร บางเขน เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 72 ปี ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ามายังบ้านพักรับรองมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยมีนายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักธุรกิจ เข้าอวยพร รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.
โดยนายกฯกล่าวสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับว่า “ผมอวยพร พล.อ.ประวิตร มาตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งยืนยันว่า ท่านแข็งแรงดี แม้จะพึ่งเข้ารับการรักษาตัวมาไม่นาน ส่วนได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร ในการทำงานเพื่อประเทศชาติในอนาคตหรือไม่นั้น ท่านอยู่กับผมทั้งชาติแหละ ทั้งนี้ไม่ได้มีการหารือกับ พล.อ.ประวิตร เรื่องโผทหาร”
อยากให้บ้านเมืองสงบ-ก้าวหน้า
ส่วนพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ซึ่งวันนี้มีน้องๆเดินทางมา อวยพรและตนก็อายุ 72 ปีแล้วอยากให้ขาของตนเดินได้ปกติ และอยากให้บ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้ามีความสงบเลิกขัดแย้งกันซึ่ง รัฐบาล และ คสช.อยู่ทำงานมา 3 ปีแล้ว ความขัดแย้งน่าจะลดน้อยไป ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2560 ภายหลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายไปเมื่อวานนี้(10 ก.ค.)ทุกอย่างจบไปแล้ว และไม่มีปัญหาอะไร เรียบร้อยดี
เมื่อถามว่า ตำแหน่งที่มีการนำเสนอข่าวไปถูกต้องหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีคนอยู่แค่ 3-4 คน สลับกันไปมา จะให้ไปอยู่ที่ไหน ตำแหน่งก็มีเพียง 2-3 ตำแหน่ง และนำโผทหารส่งให้นายรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว
เชื่อมต่อรถไฟฟ้าเตาปูน-บางซื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานในเวลาต่อมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-บางซื่อ เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วง เตาปูน-บางซื่อ ภายใต้แนวคิด”ร่วมใจ เชื่อมสุข เพื่อประชาชน” โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ผู้บริหารบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารรฟม. และผู้บริหารบีอีเอ็มเข้าร่วมพิธี
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิรูปจำเป็นต้องทำตั้งแต่วันนี้ บางคนบอกไม่ต้องใช้กฎหมาย ซึ่งเดิมมีกฎหมายแต่บังคับใช้ไม่ได้ ดังนั้นทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เอาแต่สบายไม่ได้ เพราะทำให้การปฏิรูปมีปัญหา จึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ
บอกทุกคนต้องเคารพกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีคนกว่า 67 ล้านคน มีทั้งคนดีและไม่ดี ตนไม่ได้ว่าใคร แต่ถ้าไม่ทำตอนนี้ในขณะที่ตนยังอยู่จะไปทำตอนไหน ทุกคนต้องการสิทธิ เสรีภาพ แต่ไม่สนใจอย่างอื่น ซึ่งรัฐบาลนี้ยอมไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และคดีความขึ้นกับศาลและกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องของตน เพราะตนไม่ใช่เปาบุ้นจิน ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย ขอย้ำว่า ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้เขียนบังคับ แต่เขียนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรกันนักหนา
น้อมนำพระราชดำรัสมาปฎิบัติ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวในช่วงท้ายว่า เนื่องในปีมหามงคลและวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 12 ส.ค. วันแม่แห่งชาติ และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทั้ง 2 พระองค์พระราชทานความห่วงใยในทุกเรื่อง ซึ่งรัฐบาลได้น้อมนำพระราโชบาย ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ จึงขอให้คนไทย ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขอให้เพิ่มรัฐบาลคือการทำเพื่อประชาชน โดยขอให้ข้าราชการคิดว่า แต่ละวันจะทำอะไรเพื่อประชาชน ทั้งนี้ตนแบกรับภาระหลายเรื่องไว้ แต่ไม่เคยกลัว เพราะทำเพื่อชาติ และประชาชน จึงหวังว่ากุศลที่ทำจะช่วยปกป้องตนเองบ้างในวันหน้า เพราะหวังให้ใครช่วยเหลือตนไม่ได้อยู่แล้ว
‘ศุภชัย’ขอบคุณโดน’เซ็ตซีโร่’
ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่ากรณีที่ กรธ.มีแนวคิดให้ผู้สมัคร ส.ส.จับเบอร์รายเขต ทำให้จับสลากหมายเลขจะเกิดความยุ่งยาก เพราะจะต้องดำเนินการทั้ง 350 เขต ทำให้การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ไม่เป็นความลับ เพราะต้องไปแยกพิมพ์ในโรงพิมพ์แต่ละจังหวัด กลายเป็นบัตรโหลอาจจะทำให้เกิดการปลอมแปลงบัตรขึ้นได้ เพราะโรงพิมพ์ในต่างจังหวัดมีศักยภาพในการพิมพ์ไม่เทียบเท่าโรงพิมพ์ส่วนกลาง ว่า เบื้องต้นยังเป็นเพียงแนวคิดของ กรธ.ยังไม่ได้ข้อยุติ
แต่หากมีข้อยุติแล้ว กกต.ก็อาจจะมีการทำหนังสือ เพื่อเสนอความเห็นไปยัง กรธ. เพราะหากเห็นว่าสิ่งใดส่อไปในทางไม่สุจริต เราก็ต้องเสนอความเห็น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง
ไม่ต้องรับผิดชอบลต.ส่อวุ่นวาย
“ขอบคุณ สนช.ที่เซ็ตซีโร่พวกผม ขอบคุณจากใจริง ไม่เป็นการประชดประชัน เพราะพวกผมจะได้ไม่ต้องมาจัดการเลือกตั้งที่วุ่นวายในอนาคต เพราะกติกาใหม่จะทำให้ฝ่ายปฎิบัติตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ทำงานยาก การจับเบอร์รายเขต การพิมพ์บัตรใบเดียว จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาก อีกทั้งการที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ.ระบุว่า หากมีปัญหา กกต.ต้องรับผิดชอบ ซึ่งการให้พวกเราพ้นจากตำแหน่งก็ไม่ต้องมารับผิดชอบ ไม่ต้องมาเสี่ยง” นายศุภชัย กล่าว
หนุนปลดล็อคพรรคการเมือง
นายศุภชัย ยังกล่าวถึงการที่พรรคการเมืองเสนอให้มีการปลดล๊อคพรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้ ว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะพรรคการเมืองจะได้ไปเตรียมการ เช่น ระบบไพรมารี่โหวตที่จะต้องหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด แต่ทั้งนี้ก็เป็นดุลพินิจของ คสช.ที่จะพิจารณารความเหมาะสมว่าจะปลดล๊อคได้เมื่อใด กกต.ไม่ขอไปก้าวล่วง แต่หาก คสช.มองว่าการปลดล็อกพรรคการเมืองจะทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองนั้น ขณะนี้ก็ยังมีกฎหมายห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ควบคุมอยู่ และตนมองว่าพรรคการเมืองคงไม่ไปก่อความวุ่นวาย แต่การปลดล็อกครั้งนี้เพื่อให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เตรียมตัวรับการเลือกตั้ง และกติกาใหม่ๆ
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment