จากกรณีน.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ก่อนพ่อแม่ของน.ส.จุฑาภรณ์จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยติดตาม กระทั่งพบเบาะแสเป็นรถยนต์ที่ถูกนำไปขายหลายทอด จึงนำมาสู่การสอบและแจ้งข้อหากับร.อ.ศุภชัย ภาโส ที่สนิทสนมกับน.ส. จุฑาภรณ์ ฐานปลอมแปลงเอกสาร พร้อมเร่งติดตามหาตัวน.ส.จุฑาภรณ์ ทั้งในจ.ศรีสะเกษ และอ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ล่าสุด นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี แม่พร้อมญาติเข้าร้องทุกข์กับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ตร.เช็กแช็ตผอ.สาว พบตรงมือถือ”ร.อ.” พ่อแม่ร้องตร.-ยธ.หวั่นคดีไม่คืบ เผยลูกมาเข้าฝัน!!
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่บ้านเลขที่ 65 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ของลาวได้แจ้งว่า พบศพหญิงผมยาวถูกห่อด้วยพลาสติกถูกทิ้งลงมาจากผานางอิงลงมาไว้ที่บริเวณชั้นที่ 3 ของผานางอิง ซึ่งตนและญาติพี่น้องบุกป่าภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ. อุบลราชธานี เพื่อเข้าไปที่บริเวณผานางอิง แต่ว่าไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากว่าไม่ได้รับการอนุญาตจากทางการของลาวนั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าศพดังกล่าวเป็นของใคร ดังนั้นเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องจำนวน 4 คน จึงเข้าไปในเขตประเทศลาว โดยผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ทางช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี
นายก อบต.เสาธงชัย กล่าวต่อว่า จากนั้นตนว่าจ้างรถของชาวลาว เดินทางไปที่อ.กุสุมา แขวงจำปาสัก โดยผ่านช่องเม็กอ.ตาอู อ.มน ถึง อ.กุสุมา รวมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร และว่าจ้างรถไถนาเดินตามเพื่อเข้าไปที่บ้านเข็ม ประมาณ 10 กิโลเมตร และจะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จึงจะถึงผานางอิง แต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้านของอ.กุสุมาแจ้งว่า หากจะเดินเท้าเข้าไปที่ผานางอิงคงจะกลับออกมาไม่ทัน
ดังนั้นตนจึงขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาว ให้จัดคนเข้าไปช่วยบันทึกภาพศพออกมาให้ด้วย ซึ่งตนจะจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไว้ให้จำนวนหนึ่งด้วย แต่ว่ายังไม่ทราบผลแต่อย่างใด และขณะนี้ตนประสานงานเพื่อจะนำญาติพี่น้องของผอ.อ้อยเข้าไปในประเทศลาว เพื่อเดินทางไปยังบริเวณที่พบศพอีกครั้ง
นายโชคชัย กล่าวว่า สภาพล่าสุดของศพที่ถูกทิ้งอยู่ที่ผานางอิงทราบว่า สวมกางเกงสามส่วน มีผ้ายางคล้ายกับเปลนอนสีดำติดอยู่บนต้นไม้และคาดว่า เมื่อมีการโยนศพลงมา ทำให้ศพหลุดจากผ้ายางตกลงมาที่บริเวณชั้นที่ 3 ของหน้าผา และศพติดค้างอยู่บริเวณหน้าผาดังกล่าว แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าเป็นศพของผู้ใด ซึ่งจะต้องนำเอาศพออกมาเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ จึงจะทราบผลว่าศพดังกล่าวเป็นใคร
ด้าน นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ ผอ.อบต.สาว กล่าวว่า “ขณะนี้ตนมาที่บ้านพักในตัวอ.กันทรลักษ์ เพื่อนำเส้นผมรวมทั้งหลักฐานหลายส่วนที่เป็นของผอ.อ้อยมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาขอเส้นผมรวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องของอ้อย เพื่อนำเอาไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับศพที่พบถูกทิ้งอยู่ที่ผานางอิงชายแดนลาว ซึ่งแม้ว่าอ้อยจะอยู่ในสภาพใด ตนก็ขอให้ได้พบ และแม้ว่าตนจะเหน็ดเหนื่อยมากกับการเดินป่าตามหาอ้อย แต่ว่าก็ไม่ท้อ จะยังคงตามหาตลอดไปจนกว่าจะพบอ้อย แม่ที่ดีของลูกที่ผมรักมาก”
ที่มา: khaosod
0 comments:
Post a Comment