Sunday, August 30, 2015

Tagged Under:

คุก 5 ปี ปรับ 5 แสน พรบ.ทวงหนี้ สะเทือนคนมีสีรับจ๊อบ

By: news media On: 7:13 PM
  • Share The Gag

  • กฎหมายเอาใจคนจนมาแล้ว พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ เริ่มบังคับใช้วันที่ 2 ก.ย.นี้ ลูกหนี้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานคอยหลบซ่อนจากการถูกนักเลง ผู้แทนไฟแนนซ์ แม้กระทั่งทนายความทวงถามหนี้สินอย่างบ้าเลือด ใช้คำพูดและกิริยาข่มขู่คุกคาม ประจานให้อับอายด้วยจดหมายเปิดผนึก บัดนี้ถึงเวลาลืมตาอ้าปาก ชดใช้หนี้จำนวนตามความจริงและไม่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไป เผยตำรวจทหารรับจ๊อบทวงหนี้เจอคุกแน่

    รัฐบาลเตรียมคลอดกฎหมาย พ.ร.บ.ทวงถามหนี้เอาใจคนจน เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 30 ส.ค. มีรายงานจากสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ถนนราชดำเนิน ว่ากฎหมาย พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 จะออกมาบังคับใช้วันที่ 2 ก.ย.นี้ มีสาระสำคัญดังนี้ มาตรา 5 บุคคลผู้ประกอบธุรกิจทวงหนี้ ต้องจดทะเบียนประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต่อนายทะเบียน มาตรา 6 กรณีผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ที่เป็นทนายความ ให้จดทะเบียนกับสภาทนายความ มาตรา 29 ให้ที่ทำการปกครอง หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ มีอำนาจรับร้องเรียนการทวงหนี้ผิดกฎหมาย ติดตามพฤติกรรมของผู้ทวงถามหนี้ มาตรา 39 ผู้ฝ่าฝืนไม่ไปจดทะเบียนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

    ในส่วนของวิธีการทวงนี้มี มาตรา 11 ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ใช้วาจาดูหมิ่น แจ้ง หรือเปิดเผยตัวลูกหนี้ ใช้ข้อความสื่อความหมายในการทวงถามไม่เหมาะสม มาตรา 12 ห้ามทวงถามหนี้ที่เป็นเท็จ อ้างว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ ทนายความ สำนักงานกฎหมาย อ้างว่าถ้าไม่จ่ายจะถูกดำเนินคดี หรือถูก อายัดเงินเดือน มาตรา 13 ห้ามทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินกำหนด มาตรา 14 ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ไปทวงถามหนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง มาตรา 23 ให้ลูกหนี้ที่เดือดร้อนจากพฤติกรรมดังกล่าวไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการติดตามการทวงถามหนี้ หากถูกละเมิดสิทธิ์ และหากผู้ทวงหนี้ฝ่าฝืนกฎหมายฉบับนี้ต้องระวางโทษจำคุก 3-5 ปี หรือปรับ 300,000-500,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบทห้ามทวงหนี้นอกเวลาทำการเป็นต้น

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ได้มีการจัดอบรมทนายความทุกภูมิภาคเพื่อทำความเข้าใจ โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ จ.อุดรธานี ได้ร่วมกับผู้ประกอบการทวงหนี้ที่มิใช่ทนายความ อบรมเรื่อง “ทวงหนี้อย่างไรไม่ติดคุก” เป็นการป้องปรามการทวงถามหนี้ที่เกินความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ การยึดทรัพย์สิน เช่น รถที่เช่าซื้อ บางรายถึงขนาดกระโดดเกาะรถ หรือใช้อำนาจบาตรใหญ่ โดยหลักการของการทวงถามหนี้ทางแพ่งจะใช้มาตรการทางอาญามาบังคับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทางศาลในการทวงถามหนี้ การข่มขู่ทุกรูปแบบ ถือว่าเป็นการกระทำความผิดอาญา เป็นการละเมิดสิทธิลูกหนี้ การทวงถามหนี้ที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาก็เป็นเหตุหนึ่งที่นำมาบรรจุไว้ในกฎหมายฉบับนี้ เพราะฉะนั้น การทวงถามหนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบอาชีพทวงถามหนี้ที่ไม่ใช่ทนายความหรือเป็นทนายความ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของสภาทนายความที่ต้องอยู่ในกรอบ ไม่เช่นนั้นแล้วหากมีการฝ่าฝืนก็จะมีโทษทางอาญา โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงกับหนี้นอกระบบ กฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้สังคมเข้าสู่การบังคับใช้กฎหมายด้วยหลักนิติธรรมที่แท้จริง

    นายวีระศักดิ์ โชติวานิช ทนายความชื่อดังในคดีหมอวิสุทธิ์ วิทยากรอบรมทนายความ เรื่อง พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ กล่าวว่า กฎหมายแบ่งเป็นสองส่วนส่วนแรก ใช้กับคนทั่วไป ส่วนที่สองใช้กับทนายความ ส่วนแรกบังคับบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพทวงหนี้เปิดบริษัทรับติดตามหนี้สิน รับคดีมาจากสถาบันการเงินเป็นลอตๆ การทวงหนี้ต้องไปขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของมหาดไทย ส่วนทนายความต้องไปขึ้นทะเบียนกับสภาทนายความ กรณีเปิดสำนักงานและรับติดตามหนี้สิน และมีขั้นตอนปฏิบัติการติดตามทวงถามแตกต่างไปจากบุคคลทั่วไป และไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือทนายความต้องไปขึ้นทะเบียน หากฝ่าฝืน หรือไปทวงหนี้ขัดต่อกฎหมายฉบับนี้มีโทษจำคุก 3-5 ปี ถ้าเป็นทนายความติดคุกจริงก็ต้องถูกลบชื่อ หากศาลรอการลงโทษ ก็ดูเป็นรายๆ อาจจะถูกพักใบอนุญาตก็ได้

    ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายฉบับนี้คุ้มครองใครบ้าง นายวีระศักดิ์กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วคุ้มครองประชาชนที่เป็นลูกหนี้ ไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนจากการทวงหนี้ทั้งนอกระบบและในระบบ การทวงหนี้ต้องไม่กระทำเปิดเผย การใช้ซองจดหมายจะเปิดผนึกไม่ได้ ใช้ไปรษณียบัตรหรือมีข้อความให้รู้ว่าเป็นการทวงหนี้ไม่ได้ การทวงหนี้ต้องกระทำภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เกินเวลา 18.00 น. ทวงไม่ได้ ต้องใช้กิริยาสุภาพ ส่วนจะมองว่ากฎหมายฉบับนี้ไปส่งเสริมลูกหนี้ จะทำอย่างไร นายวีระศักดิ์กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง อย่างที่บอก กฎหมายฉบับนี้ดีต่อสุภาพชน แต่เป็นปัญหาเพิ่มภาระเพิ่มการสุ่มเสี่ยง กับทนาย ส่วนพวกทวงหนี้นอกระบบก็อยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ และนอกจากกฎหมายจะคุ้มครองลูกหนี้แล้ว ยังคุ้มครองผู้ค้ำประกันด้วย

    “นอกจากมี พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ที่พูดกันอยู่นี้ ยังมีกฎหมายเก่าที่แก้ไขใหม่ คือกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 686 เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ให้เจ้าหนี้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด เจ้าหนี้จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวจะไปถึงผู้ค้ำประกันไม่ได้ หมายความว่าถ้าทนายความหรือเจ้าหนี้ทำหนังสือทวงหนี้ส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ ต้องตรวจสอบให้ดีว่าฝ่ายผู้ค้ำประกันได้รับหนังสือทวงหนี้หรือยัง ถ้ายังไม่ได้รับแล้วเกิดไปทวงก่อนกำหนดก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีผลกระทบตามมา ต่อไปนี้ไฟแนนซ์จะทวงหนี้นอกเวลา กระโดดเกาะรถ ดึงกุญแจ ทำไม่ได้ บางทีผู้ใหญ่บ้านตามต่างจังหวัดปรารถนาดีออกเสียงตามสายว่า ให้นาย ก ลูกหนี้ ซึ่งเป็นหนี้ธนาคารหรือไฟแนนซ์อยู่ให้รีบไปเคลียร์เสีย อย่างนี้ก็ไม่ได้ ส่วนทหาร ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รับจ๊อบติดตามทวงหนี้ ก็จะทำไม่ได้อีกต่อไปเพราะเป็นการขัดต่อกฎหมายฉบับนี้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับถึง 5 แสนบาท” นายวีรศักดิ์กล่าว

    ที่มา,thairath.co.th

    0 comments:

    Post a Comment