'สมยศ' แฉเอง! ตม. แดนผลประโยชน์ ย้ายอีกทีมสระแก้วรับเงิน 'ยูซูฟู'

ผบ.ตร.ขอแฉเอง ตม. เป็นหน่วยงานที่เต็มไปด้วยการเรียกรับผลประโยชน์ ส่งผลต่อความมั่นคง เตรียมย้ายล้างบาง รวมทั้ง ตม.สระแก้ว อีกชุด ระบุ รับเงิน 'ยูซูฟู' 600 เหรียญต่อครั้ง ส่วน 'อีซาน' หนีไปบังกลาเทศหรือไม่ อย่าเพิ่งด่วนสรุป...

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 58 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ได้เตรียมเซ็นคำสั่งย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วเพิ่มอีก หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินจาก นายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ จำนวน 600 เหรียญต่อครั้ง โดยทำมาแล้ว 4-5 ครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย แต่ยังไม่ระบุว่า จะสั่งย้ายทั้งหมดกี่นาย ขณะที่ยังพบอีกว่าผู้ต้องหารายนี้ มีการเดินทางจากประเทศเวียดนาม ผ่านกัมพูชาก่อนเข้าไทย ซึ่งมีการจ่ายเงินมาตลอดเส้นทาง


ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการกำชับมาโดยตลอด แต่ยังคงเกิดปัญหา ตนจึงได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี โดยระบุถึงปัญหาภาพรวมทั้งหมด 6 ประเด็น หลังมีประชาชนและผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้าให้เบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับผลประโยชน์ เพราะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ  ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีในฐานะผู้มีอำนาจสูงจะสามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน ส่วนจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ไขหรือไม่ เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะมีหน่วยงานความมั่นคงที่เข้าตรวจสอบได้ดีอยู่แล้ว และดีกว่าการตรวจสอบของตำรวจ จึงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44

นอกจากนี้ ยังได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จเรตำรวจ ตรวจสอบการทำหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ ทั้งเรื่อง คดีระเบิด และค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ โดยรายงานกลับมาภายในวันที่ 23 กันยายนนี้ เพราะขณะนี้ต่างชาติยังคงจับตาดูการเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด และหลังจากนี้ตนจะดำเนินการสั่งโยกย้ายตำรวจออกจากพื้นที่ทั้งหมด

ขณะที่ ผบ.ตร. ยอมรับว่า ในช่วงที่ตนเองดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมืองเมื่อปี 2546 พบว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองส่วนใหญ่มีการรับผลประโยชน์จริง โดยผู้บังคับบัญชามีการแต่งตั้งคนของตนเองให้เข้าไปดำรงตำแหน่ง และรับผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ยืนยันว่าตนไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง และได้แสดงจุดยืนขอย้ายตนเองจากหน่วยงานมาดำรงตำแหน่งในจเรตำรวจ

ต่อข้อซักถามว่า การออกมาเปิดโปงในช่วงใกล้เกษียณอายุราชการจะทำให้สังคมมองว่า เป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองหรือไม่ ผบ.ตร. ตอบว่า แล้วประชาชนคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ทำให้ประเทศเสียหาย หากการออกมาเปิดโปงเป็นสิ่งไม่ดีตนจะหยุดพูดเรื่องนี้

ส่วนเบาะแสที่ระบุว่า นายอีซาน หลบหนีไปยังประเทศบังกลาเทศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า อย่าด่วนสรุปว่าหลบหนีไปประเทศใด รวมถึงที่ว่าเป็นผู้สั่งการหรือไม่ ซึ่งต้องให้เวลาตำรวจในการสืบสวนอย่างละเอียดทุกมิติ ส่วนกรณีสื่อต่างประเทศนำเสนอว่า นายเมียไรลี ยูซูฟู เป็นสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในต่างประเทศ ตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่สื่อต่างประเทศอาจจะมีข้อมูลมากกว่าในการนำเสนอก็ได้.

ที่มา:thairath