Friday, April 17, 2015

Tagged Under:

สาวโรงงานน้อยใจแม่ห้ามคบทอมขียนจดหมายตัดพ้อผูกคอลาโลก

By: news media On: 6:53 PM
  • Share The Gag

  • เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ร.ต.ท.อนุรักษ์ มุ่งชัยภูมิ ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 21.30 น. (วันที่ 17 เม.ย.) ได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตในหอพักแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 7 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง โดยที่เกิดเป็นหอพักสูง 5 ชั้น บริเวณชั้นที่ 2 ห้องเลขที่ 202 มีกลิ่นเหม็นลอยอบอวนออกมา เมื่อเปิดประตูเข้าไปทางด้านหลังหน้าห้องน้ำ ก็พบศพนางสาวกฤษณา มาป้อง อายุ 30 ปี ชาว จ.ขอนแก่น สภาพศพใช้เชือกรองเท้าผูกคอตนเองอยู่กับเหล็กดัดหลังห้อง ภายใน ห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นข้าวของแต่อย่างใด และที่โต๊ะรีดผ้าพบจดหมาย 2 ฉบับ ภายในจดหมายเขียนตัดพ้อถึงแม่ที่ดุด่าไม่ยอมให้คบกับเพื่อนสาวที่เป็นทอม และเมื่อเวลาโทรศัพท์หาทางเพื่อนสาวที่เป็นทอม ก็มักจะไม่ค่อยรับโทรศัพท์ จากการตรวจสอบตามร่างกาย ไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด ทางแพทย์ระบุว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน

    ร.ต.ท.อนุรักษ์ เผยต่อว่า จากการสอบถามนางสางสุจิรา เทศทองดี อายุ 28 ปี เพื่อนสาวทอม เล่าว่า ผู้ตายทำงานอยู่โรงงานย่านซอยคุณพระ เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 58 ที่ผ่านมา ตนยังไปส่งผู้ตายที่บ้านแม่ จ.สระบุรี จากนั้นตนจึงรีบกลับมาเพราะต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อผ่าตัดไส้ติ่ง ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น ทางผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตน และเล่าให้ฟังว่า ผู้ตายถูกแม่ด่า และตอนนี้ได้มาอยู่ที่ห้องแล้ว ให้ตนไปหา แต่ตนบอกไปว่า ตนไปหาไม่ได้ เพราะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล จนกระทั่งเช้าวันที่ 13 เม.ย. 58 ตนได้โทรศัพท์ไปหาผู้ตายอีกครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย และในวันนี้ ตนได้ออกจากโรงพยาบาลมา จึงรีบมาดูที่ห้องและได้กลิ่นเหม็นออกมาจากห้อง จึงได้เดินไปดูที่ห้องน้ำ ก็พบว่าแฟนสาวได้ผูกคอเสียชีวิตที่หน้าห้องน้ำแล้ว

    ร้อยเวร สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ในเบื้องเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนถึงสาเหตุ คาดว่าผู้ตายคงจะน้อยใจแม่ที่ให้เลิกคบหากับทอม ประกอบกับทางทอมที่เป็นแฟนกันมักจะไม่รับโทรศัพท์ จึงเกิดน้อยใจ และเขียนจดหมายลาตายดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง นำส่งชันสูตรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ (ศูนย์รังสิต) เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป.

    ที่มา,http://www.dailynews.co.th/

    0 comments:

    Post a Comment