หากพิจารณาจากรายหลังก่อน เพราะล่าสุดปรากฏภาพในโลกโซเชียลฯเผยแพร่ออกมาให้เห็นว่า องอาจ ธรรมนิทา พร้อมด้วยพระสงฆ์จำนวนสองรูปและฆราวาสอีกจำนวนหนึ่งนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส จนมีการวิจารณ์และตั้งคำถามว่าเป็นภาพเก่าหรือไหม่ หากเป็นภาพใหม่ก็หมายความว่า"หนี"ไปแล้วและหนีออกนอกประเทศไปได้อย่างไร
สำหรับฝ่ายที่เชื่อว่า องอาจ ธรรมนิทา หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว เช่น นพ.มโน เลาหวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นานาชาติ จุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตศิษย์เอกของวัดพระธรรมกาย มั่นใจว่าหลบหนีไปแล้วและแถมยังให้รายละเอียดแบบน่าทึ่งอีกว่ามีนายตำรวจระดับยศพันตำรวจเอกที่เป็นศิษย์วัดคนหนึ่งเป็นผู้พาหลบหนีไปต่างประเทศโดยข้ามชายแดนไปทางประเทศลาว และต่อเครื่องบินไปสิงคโปร์ ไปแฟรงก์เฟิร์ตเยอรมันนีแล้วต่อไปประเทศฝรั่งเศสในที่สุด หากเป็นแบบนี้ก็หมายความว่าภาพที่ปรากฏในโลกโซเชียลฯดังกล่าวเป็นภาพจริง
หากเป็นแบบนั้นก็ต้องมาถึงคำถามว่า"แล้วเป็นแบบนี้ได้อย่างไร"และถามต่อว่า "แล้วอย่างนี้คนอย่างธัมมชโยจะยังนอนกระดิกเท้ารอให้จับกุมอยู่ในวัดพระธรรมกายเรอะ" ต้องหลบหนีออกไปก่อนตั้งนานแล้วแน่นอน
ขณะเดียวกัน นพ.มโน เลาหวณิช ยังให้ข้อมูลอีกว่า พระธัมมชโย ก็หลบหนีไปต่างประเทศแล้วเช่นกัน โดยอาจหลบหนีไปในช่วงก่อนวันสิ้นปี นั่นคือราววันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยเชื่อว่าหลบไปทางด้านชายแดนกัมพูชาแล้วต่อไปยังต่างประเทศที่มีวัดสาขาของวัดพระธรรมกาย ซึ่งยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นวัดสาขาในประเทศใดกันแน่ เนื่องจากมีสาขาในต่างประเทศรวมกันถึง 81 แห่ง
ทั้งนี้สาเหตุที่ นพ.มโน เลาหวณิช ปักใจเชื่อว่า ธัมมชโย หลบหนีออกจากวัดพระธรรมกายไปแล้ว เนื่องจากจากการสังเกตอาคารดาวดิงส์ที่เคยเป็นที่กบดานของ ธัมมชโย ที่เคยมีการวางเวรยามอย่างเข้มงวด ต่างจากปัจจุบันนี้นั่นคือหลังวันที่ 27 ธันวาคมที่ไม่มีการวางเวรยามเข้มงวดเหมือนเช่นที่ผ่านมา
นอกจากนี้จากคำพูดของเจ้หาน้าที่ตำรวจอย่าง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่รับผิดชอบเกี่ยวกับคดีนี้ก็กล่าวในทำนองว่ากรณีภาพถ่ายของ องอาจ ธรรมนิทา ที่เผยแพร่ในโลกโซเชียลฯต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นภาพเก่าหรือไหม่ และย้ำว่าจากการรายงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่พบว่า องอาจ เดินทางเข้าออกตามด่านตรวจคนเข้าเมือง หากมีการออกนอกประเทศจริงก็อาจผ่านทางช่องทางธรรมชาติ นั่นก็หมายความว่าไม่ได้ยืนยันว่าองอาจยังอยู่ภายในประเทศ เพียงแต่ว่าหากหลบหนีก็หลบหนีไปทางชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ ธัมมชโย นั้นเขาก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่ายังไม่พบข้อข้อมูลหลบหนีออกนอกประเทศและตามข้อมูลยังเชื่อว่ายังอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย
หากพิจารณาจากคำพูดของ "บิ๊กตำรวจ"คนดังกล่าวมันก็มีความเป็นไปได้สูงที่ทำให้เชื่อได้ว่าทั้งคู่คือ ธัมมชโย และ องอาจ ธรรมนิทา ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เพราะคำพูดที่ว่าจากการรายงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ยืนยันไม่มีข้อมูลการเดินทางเข้าออกผ่านด่านตรวจ ยกเว้นในเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งก็คือตามแนวชายแดน
เอาเป็นว่าหากให้เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเวลานี้ทั้งคู่"เผ่นไปแล้ว" ซึ่งหากพิจารณากันตามสถานการณ์กลับเชื่อว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายรัฐนั่นแหละ"หรี่ตา"ให้หลบหนีไป ด้วยเหตุผลเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีความจำเป็นที่ต้องบุกเข้าไปตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เพราะประเมินแล้วว่า "ธัมมชโย"คงไม่ยอมให้จับกุมแน่ เพราะถ้าถูกจับนั่นหมายถึงต้องถูกสึกจากความเป็นพระทันที เนื่องจากเลยขั้นตอนเรื่องการประกันตัวแล้ว
ดังนั้นเวลานี้ก็ปล่อยให้บรรยากาศอึมครึมน่าสงสัยแบบนี้เรื่อยๆ นั่นคือไม่บุกเข้าไปตรวจค้น อ้างว่าเกรงเกิดเหตุไม่คาดหมาย เกิดการปะทะเลือดตกยางออกอะไรประมาณนี้ เพราะเมื่อยังไม่เข้าไปก็ยังพูดันได้ต่อไปว่า"ตามข้อมูลด้านการข่าวยังไม่พบว่าผู้ต้องหาหลบหนีออกไปนอกวัด เชื่อว่ายังอยู่ในวัด" เชื่อว่าทุกอย่างคงปล่อยให้อยู่ในสภาพคาราคาซังกันอยู่แบบนี้ต่อไป ที่สำคัญฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ยังปฏิบัติตามกฎหมายที่สามารถอ้างอิงได้ เพราะคดียังอยู่ในอายุความ 15 ปี ซึ่งตอนนี้เพิ่งผ่านมาแค่4-5 เดือนเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดีสำหรับชาวบ้านทั่วไปมั่นใจว่า ทั้งธัมมชโย และองอาจ ธรรมนิทา ได้หลบหนีออกไปตั้งนานแล้ว และปัญหาก็คือหากไปอยู่ต่างประเทศจริงก็ต้องจับตาดูว่าจะมีการแถลงท้าทายหรือไม่ หากกบดานเงียบๆก็ถือว่านี่คือรายการ"ขยิบตา"รู้เห็นกันหรือเปล่า !!
ที่มา: manager
0 comments:
Post a Comment