จุดโทษแข่งกันพลาด! ผีดวลเป้าเฮโค่นราชันศึกไอซีซีคัพหลังเจ๊า1-1

แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์ ยูโรปา ลีก เอาชนะ เรอัล มาดริด แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปในการดวลจุดโทษ 2-1 หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ศึก ไอซีซี คัพ ที่สหรัฐฯ ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย

ฟุตบอล อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2017  (โซนอเมริกาเหนือ)
วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2560
เรอัล มาดริด (สเปน) 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1
(แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ 2-1)

สนาม : ลีวายส์ สเตเดี้ยม, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา (สนามกลาง)

    เรอัล มาดริด ของ ซีเนดีน ซีดาน ไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ที่ได้พักหลังจบศึก ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ แต่ดาวดังชุดแชมป์สโมสรยุโรปยังอยู่อีกหลายรายทั้ง แกเร็ธ เบล,​มาร์เซโล่, โทนี่ โครส, คาริม เบนเซม่า และลูก้า โมดริช เจ้าของเสื้อเบอร์ 10

    ฟาก โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชนะมารวด 3 นัดในช่วงปรีซีซั่น ดร็อปหอกใหม่ โรเมลู ลูกากู จากทีมชุดแรก โดยวาง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นกองหน้าตัวเป้า ผนึกกำลังกับแข้งหนุ่ม เจสซี่ ลินการ์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ส่วน ปอล ป็อกบา จอมทัพค่าตัวแพงสำรองเช่นกัน

    เปิดฉากครึ่งแรก ทั้งสองทีมเดินหน้าลุยใส่กันทันที โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เสียวตั้งแต่นาทีที่ 7 เมื่อ ลินการ์ด สอดมาซัดเต็มข้อจากนอกกรอบเขตโทษ ติด เกย์ลอร์ นาวาส พุ่งปัดออกไป


    เกมเล่นกันเร็ว แต่โอกาสยิงมีไม่มากนัก ก่อนจะมีการพักเบรกดื่มน้ำเมื่อผ่านมาครึ่งชั่วโมง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุที่ ลีวายส์ สเเดี้ยม ใน ซานตา คลาร่า, ซาน ฟรานซิสโก

    ราชันชุดขาว พยายามขึ้นเกมบุก นาทีที่ 40 โครส วางยาวให้ เบล หลุดขึ้นทางซ้าย ก่อนเปิดหวังให้ เบนเซม่า แต่โดน ฟิล โจนส์ เคลียร์หวุดหวิด ก่อนที่ท้ายครึ่งแรก ลินการ์ด จะสอดทะลุขึ้นมาส่องด้วยขวาถากเสานิดเดียว

    เกมครึ่งแรก ทำท่าว่าจะลงเอยด้วยผลเสมอ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฟนผีได้เฮกระหึ่ม เมื่อ มาร์กซิยาล โชว์สเต็ปเทพลากหลบผู้เล่น เรอัล มาดริด สามคนเลาะเข้าในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลเข้ากลางให้ ลินการ์ด แปโล่งๆไม่เหลือซากให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทะยาน 1-0 ในครึ่งแรก


    ครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ที่มีโอกาสยิงแค่ครั้งเดียวใน 45 นาทีแรก เปลี่ยนตัวยกชุดในการเล่นปรีซีซั่นนัดแรก โดยให้ คาเซมิโร่ รับบทกัปตันทีมนำดาวรุ่งบู๊ ส่วน ปีศาจแดง เปลี่ยนไปแทบยกชุดเช่นกัน นำโดย อันเดร์ เอร์เรร่า, ดาเลย์ บลินด์, คริส สมอลลิ่ง, เฮนริค มคิทาร์ยาน, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลูกากู, ป็อกบา ​และ ดาบิด เด เคอา

    แต่เมื่อผ่านมาถึงนาทีที่ 50 เอร์เรร่า ต้องโดนเปลี่ยนตัวออก หลังจากที่มีอาการบาดเจ็บ จาการโดน ออสก้าร์ ดาวเตะ ราชันชุดขาว อัดหนักจนลงไปกอง ทำเอา มูรินโญ่ ลุกขึ้นมาคุยหน้าเครียดกับทีมงานผู้ตัดสิน ก่อนต้องส่งดาวรุ่ง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แทน

    ผ่านมาถึงนาทีที่ 69 เรอัล มาดริด ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ลินเดอเลิฟ ไปหวด เตโอ เอร์นานเดซ นักเตะใหม่ เรอัล มาดริด จนลอยเคว้ง ก่อนที่ คาเซมิโร่ จะอาสาสังหารเสยตาข่ายเฉียบขาด ขยับสกอร์เป็น 1-1


    เด เคอา หวิดเสียท่า แต่ยังดี ผวาไปปัดลูกฟรีคิกมุมแคบของ เกซาด้า ดาวรุ่ง เรอัล มาดริด หวุดหวิด ก่อนที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย จะลงมาแทน มัตเตโอ ดาร์เมียน ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย

    เฟลไลนี่ ได้ยิงโล่งๆ จากลูกเปิดทางขวาท้ายเกม แต่ข้ามคานอย่างน่าเขกกะโหลก จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะ ผลปรากฏว่า ปีศาจแดง เฉือนไป 2-1 ในการดวลเป้าที่มีการพลาดหลายลูกอย่างเหลือเชื่อ โดยฝั่งผีแดงยิงเข้าไปสองคนคือ มคิทาร์ยาน และ บลินด์ ส่วน เรอัล มาดริด ยิงเข้าแค่คนเดียวคือ เกเซด้า ซึ่งชัยชัยชนะนัดนี้ ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยของ มูรินโญ่ ก่อนเจอกันใน ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 8 ส.ค.นี้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : เกย์เลอร์ นาบาส (น.46 กีโก้ กาซีย่า) ; ดานี่ การ์บาฆาล (น.46 ฮาคิมี่) , นาโช่ เฟร์นานเดซ (น.46 เอร์นานโด้), ราฟาแอล วาราน (น.46 เกซาด้า), มาร์เชโล่ (น.46 เตเฆโร่) ; โทนี่ โครส (น.46 กาเซมิโร่) , ลูก้า โมดริช (น.46 โควาซิช), ลูคัส บาสเกซ (น.46 เอร์นานเดซ) ; อีสโก้ (น.46 อาร์เนซ ออสการ์) ; คาริม เบนเซม่า (น.46 โกเมซ) , แกเร็ธ เบล (น.46 เฟยาเซียร์)

    แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเมโร่ (น.46 ดาบิด เด เคอา) ; ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ (น.46 ดาลี่ย์ บลินด์), ฟิล โจนส์ (น. 46 คริส สมอลลิ่ง), เอริก ไบยี่ (น.46 วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ) , มัตเตโอ ดาร์เมียน (น.77 อันโตนิโอ วาเลนเซีย) ; ไมเคิ่ล คาร์ริค (น.46 เฮนริค มคิตาร์ยาน) , มารูยาน เฟลไลนี่ ; อองโตนี่ มาร์กซิยาล, อันเดรียส เปไรร่า (น.46 อันเดร์ เอร์เรร่า-น.52 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์) , เจสซี่ ลินการ์ด (น.46 ปอล ป็อกบา) ; มาร์คัส แรชฟอร์ด (น.46 โรเมลู ลูกากู)

ที่มา: siamsport