คึกคัก!ต่างด้าวแห่ลงทะเบียน ‘บิ๊กบี้’โวทั่วปท.1.5แสนคน/วัน

เปิดศูนย์รับลงทะเบียนแรงงานต่างด้าววันแรกทั่วประเทศคึกคัก นายจ้าง-ลูกจ้างแห่มายื่นเรื่องเพียบ “บิ๊กบี้”มั่นใจทุกศูนย์ทั่วประเทศ ให้บริการได้วันละ 1.5 แสนคน นายจ้างปลื้มดำเนินการไวเพียง 10 นาทีเสร็จ

ความคืบหน้าหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งผ่อนปรนการลงโทษตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 โดยกระทรวงแรงงานเปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ไร้เอกสารมายื่นพิสูจน์ความเป็นนายจ้างลูกจ้างจริง ก่อนออกเอกสารให้ไปพิสูจน์ตัวตนและทำใบอนุญาตทำงานให้เรียบร้อย ก่อนที่กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงแรงงานได้เปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวจำนวน 101 แห่งทั่วประเทศเป็นวันแรก ซึ่งบรรยากาศของศูนย์รับแจ้งฯหลักที่กระทรวงแรงงานเป็นไปอย่างคึกคัก ตลอดทั้งวันมีนายจ้างและแรงงานต่างด้าวเดินทางมารอยื่นเอกสารจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าและกัมพูชา

โดยนายจ้างรายแรกเดินทางมาตั้งแต่ช่วง 06.00 น. เจ้าหน้าที่จึงเปิดให้บริการเร็วกว่ากำหนดเดิม ที่ให้รับบัตรคิวเวลา 07.30 น. และให้ยื่นเอกสาร 08.00 น. เป็นให้ยื่นเรื่องดำเนินการในเวลา 07.30 น. โดยทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งแต่ละรายใช้เวลายื่นเอกสารไม่นาน ทั้งนี้ระหว่างดำเนินการพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และม.ล.ปุณทริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงานลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อย

พล.อ.ศิริชัยกล่าวว่า ศูนย์รับแจ้งฯทั้งประเทศมีความพร้อม โดยแต่ละศูนย์ฯสามารถให้บริการได้วันละ 1,500 คน คาดว่าแต่ละศูนย์ทั่วประเทศน่าจะสามารถให้บริการได้วันละ 1.5 แสนคน ดังนั้น ระยะเวลา 15 วันที่เปิดให้บริการคิดว่าน่าจะเพียงพอต่อการเปิดแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณนายจ้างและแรงงานในกลุ่มอื่นๆด้วย เพราะหลังจากพ.ร.ก.ฯ บังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็รีบมาดำเนินการให้ถูกกฎหมายแล้วมากกว่า 2 แสนคน


สอบถามน.ส.ชมพูนุท บุศยพงศ์ชัย นายจ้างที่มารับบัตรคิวคนแรกเปิดเผยว่า ตนจ้างแรงงานชาวพม่า 1 คน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน แต่เป็นแรงงานที่ไม่มีเอกสารอะไรเลย พอกฎหมายบังคับใช้ก็กังวล เพราะจ้างแรงงานผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้กังวลเรื่องค่าปรับที่แพง เพราะทำให้คนตระหนักไม่ทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ช่วงแรกคิดว่าจะส่งตัวกลับประเทศ แต่เห็นว่ารัฐบาลเปิดศูนย์รับแจ้งฯจึงลองมาดำเนินการ ซึ่งถือว่าให้บริการได้รวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการยื่นเอกสาร ที่ใช้เพียงสำเนาบัตรประชาชนนายจ้าง รูปถ่ายแรงงานต่างด้าว 2 นิ้ว 3 รูป และเอกสารของแรงงานเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องลางานครึ่งวันอย่างที่คาดไว้

ขณะที่นายจ้างเอ (นามสมมติ)กล่าวว่า ตนจ้างแรงงานชาวพม่า 1 คน ตอนแรกที่กฎหมายบังคับใช้ กังวลว่าต้องไปใช้บริการนายหน้าจัดหาแรงงานหรือไม่ หรือต้องมีใต้โต๊ะ และไม่มั่นใจว่าพอขึ้นมาบนดินแล้วจะเคลียร์ได้จริง แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว เพียงแต่มายื่นเรื่องแจ้งการทำงานที่ศูนย์ฯ และรอทำเรื่องให้ถูกกฎหมายเท่านั้น ต้องขอบคุณกระทรวงแรงงาน และรัฐบาลที่จัดระบบ อำนวยความสะดวกให้ เช่นเดียวกับที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดระนอง มีนายจ้างทุกประเภทกิจการนับหลายร้อยคนนำแรงงานต่างด้าวมาขอขึ้นทะเบียนจ้างงาน ตามนโยบายผ่อนปรนของรัฐบาล โดยนายไพบูรณ์ วังสนตระกูล จัดหางานจังหวัดระนองกล่าวว่า เปิดให้นายจ้างได้กรอกแบบฟอร์มยื่นความประสงค์จ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารแสดงตน หรือลูกจ้างที่มีใบอนุญาตแต่หมดอายุแล้ว โดยที่นายจ้างไม่ต้องนำตัวแรงงานต่างด้าวมาก็ได้ โดยทางสำนักงานจัดพื้นที่ไว้รองรับคนได้มากกว่าหนึ่งพันคนต่อวัน โดยขั้นตอนดำเนินการนั้น นายจ้างต้องคีย์ข้อมูล พร้อมทั้งสแกนเอกสารด้วยตัวเอง จากนั้นระบบจะพิมพ์ใบรับและใบนัดออกมาให้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไปอีกครั้ง หลังวันที่ 8 สิงหาคม

สำหรับการยื่นคำขอจ้างต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารแสดงตน จะเปิดให้บริการระหว่างตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 สิงหาคม ไม่เว้นวันหยุดราชการ และเจ้าหน้าที่จะนัดหมายนายจ้างให้นำคนต่างด้าวมาพบอีกครั้ง ซึ่งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวต้องมาด้วยตนเอง

ที่สำนักจัดหางาน จ.ขอนแก่น มีนายจ้างและแรงงานต่างด้าวสัญชาติต่างๆ เดินทางมาขอรับการขึ้นทะเบียน และรับแจ้งการทำงานจำนวนมาก ซึ่งในระยะนี้เป็นช่วงของการขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จในภาพรวม ขณะที่ขั้นตอนของการตรวจสอบความสัมพันธ์ และการตรวจพิสูจน์ต่างๆ จะเริ่มระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม-6กันยายน เป็นไปตามระยะเวลาที่ คสช.และรัฐบาลกำหนด

โดยนายอนันต์ กลั่นขยัน แรงงานจ.ขอนแก่นกล่าวว่า ย้ำให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวเร่งดำเนินการตามคำสั่งของคสช.ให้ถูกต้อง เพราะหลังวันที่ 1 มกราคม 2561แล้วจะเป็นการตรวจสอบ จับกุมและดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะนายจ้างมีอัตราโทษปรับสูงสุดที่ 800,000 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน ขณะที่แรงงานเองจะถูกปรับคนละ 400,000 บาท

 ที่มา: naewna