ชั้นอุทธรณ์8เดือนไม่รอลงอาญา
เปิดเวทีถล่มรบ.สมัคร
ศาลชี้ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ยื่นประกันขอสู้ชั้นฎีกา
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ ลดโทษ เหลือจำคุก คนละ 8 เดือน 6 แกนนำพันธมิตรฯ บุกทำเนียบรัฐบาลถล่มอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี’51 เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โทษจำคุกไม่รอลงอาญา ทนายยื่นประกันคนละแสนสู้ศาลฎีกา
ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. วันที่ 24 ก.ค.นี้ ศาลอออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีพันธมิตรฯ บุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อปี 51 หมายเลขดำ อ.4925/55 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ฐานร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้เสียทรัพย์
กรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 จำเลย ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรฯ (ขณะนั้น)กับพวกได้ปราศรัยชักชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพื่อกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออก แล้วเข้าปิดล้อมควบคุมทำเนียบรัฐบาล ห้ามข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าปฏิบัติงาน ทำลายทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหาย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจีง พิพากษาจำคุกคนละ 3 ปี คำเบิกความจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้1ใน3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
จำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผอ.ฝ่ายสถานที่ สำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เข้าเบิกความถึงรายละเอียดและเหตุการณ์ที่กิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งการกระทำของจำเลยทั้งหก ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรฯ และกลุ่มผู้ชุมนุม ที่บุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล โดยนำรถบรรทุก 6 ล้อตั้งเป็นเวทีปราศรัย หน้าบริเวณสนามหญ้าทำเนียบรัฐบาล ตัดโซ่คล้องประตู รวมทั้งผลักดันแผงเหล็กกั้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดไว้ เพื่อรักษาความปลอดภัย ส่งผลทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบรดน้ำ หญ้าในสนามตาย ระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหาย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของพวกจำเลยนั้น มีความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานบุกรุกฯนั้นชอบแล้ว ส่วนที่พวกจำเลยขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ โดยอ้างว่า พวกจำเลยเป็นผู้มีการศึกษา มีสถานะทางสังคม และได้ทำงานเพื่อสังคม ทั้งไม่เคยต้องโทษในคดีอาญามาก่อน ซึ่งกับการชุมนุมนั้นก็เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันบุกรุกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ การที่จำเลยจะใช้สิทธิเสรีภาพนั้นก็จะต้องไม่กระทบต่ออำนาจหน้าที่ผู้อื่น แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของพวกจำเลยมิได้เพื่อเป็นประโยชน์แก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ตนเอง จึงเห็นควรพิพากษาลงโทษให้เหมาะสมกับพฤติการณ์
ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้ โทษจากเดิมที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี เหลือโทษจำคุกคนละ 1ปี โดยลดโทษให้ 1ใน3 คงจำคุกจำเลยทั้งหกไว้คนละ 8 เดือน และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง โทษจำคุกจึงไม่รอลงอาญา
ภายหลังนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า เตรียมยื่นหลักทรัพย์คนละไม่เกิน 1แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว5 แกนนำพันธมิตรฯ ระหว่างฎีกา ส่วนนายสนธิ ไม่ได้ยื่นประกันเนื่องจากถูกจำคุกในคดีอื่นก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ อดีตแกนนำ พันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน เดินทางมาศาล ยกเว้นนายสนธิที่ถูกเบิกตัวจากเรือนจำ โดยมีประชาชนกว่า 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจจนล้นห้องพิจารณา.
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment