‘บังฟัต’โดนฟ้องปมอมที่ดิน
ไม่คืนโฉนดแม้จ่ายครบ
ชาวบ้านโดนหลายราย
ทนายเผยพ่อตาแม่ยาย “ผู้ใหญ่วรยุทธ” ยื่นฟ้อง “บังฟัต” หลังถูกโกงที่ดิน ไม่ยอมคืนโฉนดให้แม้จ่ายเงินชำระหนี้สินครบแล้ว ศาลนัดไต่สวน 21 สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย ขณะที่หัวหน้าชุดสอบสวนสั่งเก็บหลักฐานเพิ่มเติมคดีสังหารหมู่ให้แน่นที่สุด คาด 19 ก.ค.นี้ ออกหมายจับได้ทุกคน พร้อมสาวมีผู้บงการเบื้องหลังอีกหรือไม่
ความคืบหน้าคดีสังหารโหด นายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัวและญาติเสียชีวิต 8 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 3 คน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงพื้นที่บัญชาการคลี่คลายคดีด้วยตัวเอง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ยกแก๊ง นำโดย นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต อายุ 41 ปี นายทุนเงินกู้ และใช้อำนาจตาม ม.44 ควบคุมตัวทั้งหมดไว้ที่ค่ายทหารกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งจะครบกำหนด 7 วัน ในวันที่ 21กรกฎาคม นอกจากนี้ ยังได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหารตาม ม.44 ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้าเกิน 80% แล้ว และมั่นใจว่าไม่เกินวัน 19 กรกฎาคม จะสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดกระบี่ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ทั้งนี้ ได้กำชับให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจค้นสถานที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำของผู้ต้องสงสัยทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อให้พยานหลักฐานครอบคลุม ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ตลอดจนขยายผลว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยการลงพื้นที่ไม่มีปัญหาหรืออุปสรรค
สำหรับประเด็นสังหารยังคงเป็นเรื่องการรับจำนองที่ดินระหว่างนายวรยุทธกับนายซูริก์ฟัต ส่วนรายละเอียดว่านายซูริก์ฟัตมีศักยภาพเพียงพอในการรับจำนองที่ดินหรือไม่ เป็นรายละเอียดสำนวนการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พยานหลักฐานยังไม่ปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับการนักการเมืองท้องถิ่นเกี่ยวข้อง แต่ยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หน้าบ้านผู้ใหญ่วรยุทธซึ่งเป็นที่เกิดเหตุสังหารหมู่ในคดีดังกล่าวว่า ยังคงมีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปเฝ้าหน้าบ้าน เนื่องจากต้องการที่จะเห็นหน้าฆาตรกรที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม หากเจ้าหน้าที่นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
สำหรับรายชื่อผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้ง 8 คน ประกอบด้วย นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต, น.ส.ชลิตา สังขโชติ, นายประจักษ์ บุญทอย, นายคมสรรค์ เวียงนนท์, นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ, นายธวัฒชัย บุญคง, นายอรุณ ทองคำ และ นายธนชัย จำนอง ส่วน นายอรุณ ทองคำ ที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าใช้อาวุธปืนยิงนายวรยุทธ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 4 คน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ภายในอาคารของค่ายทหารกองร้อยที่ 1-3 โดยแยกแต่ละคนไปยังแต่ละห้อง พร้อมกำลังตำรวจและทหารคอยเฝ้าผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.
แหล่งข่าวจากค่าย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัว ดูดีขึ้นตามลำดับ คลายความกังวล เริ่มทำใจรับสภาพได้แล้ว โดยเฉพาะ นายซูริก์ฟัต ที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ พบว่ามีการระบายความคับแค้นใจที่ถูกนายวรยุทธ ขู่ฆ่า เนื่องจากปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับการขายฝากที่ดิน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม แต่ใช้วิธีพูดคุยกับญาติแทน เพื่อให้ความมั่นใจถึงความปลอดภัยในการควบคุมตัว
ทางด้าน นางพรรัตน์ สุขสวัสดิ์ ทนายความเปิดเผยว่า ตนเป็นทนายความในคคีที่ดินของพ่อตาและแม่ยายของนายวรยุทธ หลังนายวรยุทธเป็นคนกลางนำที่ดินของไปขายฝากให้นายฟูริก์ฟัต แต่กลับมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้นายฟูริก์ฟัตด้วย โดยได้เงินมาประมาณ 750,000บาท และนายวรยุทธได้ทยอยใช้หนี้จนหมดแล้วเมื่อประมาณปลายปี 2558 มีเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินครบ แต่นายฟูริก์ฟัตได้นำที่ดินไปจำนองกับธนาคารแห่งหนึ่งได้เงินมาประมาณ 10 ล้านบาท ทำให้พ่อตาของนายวรยุทธได้ฟ้องเพิกถอนนิติกรรมการทำสัญญาเพราะได้รับความดือดร้อนเนื่องจากที่ดินผืนนั้นเป็นที่อยู่อาศัย และศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 21 สิงหาคมนี้
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีชาวบ้านหลายรายในพื้นที่ที่ถูกกระทำในลักษณะคล้ายกันและได้ฟ้องร้องนายฟูริก์ฟัตเช่นกัน ส่วนจะมีนายทุนอยู่เหนือบังฟัตหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า พบข้อมูลว่า นายฟูริก์ฟัต มีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้และทวงหนี้ในพื้นที่ จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต และนครศรีธรรมราชมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งหากลูกหนี้รายใดไม่ยอมจ่ายหนี้จะนำลูกน้องเข้าทวงหนี้ โดยสวมเครื่องแบบชุดลายพรางติดอาวุธครบมือ และยังมีพฤติกรรมไม่คืนโฉนดที่ดินหลังลูกหนี้นำเงินมาไถ่ถอนอยู่หลายครั้ง จนทำให้มีฐานะร่ำรวยขึ้นมาก โดยมีทั้งเงินสด ที่ดิน และบ้านอยู่ในหลายจังหวัดทางภาคใต้
ขณะที่ ผลชันสูตรศพเหยื่อสังหารหมู่พบว่า ผู้เสียชีวิตรายหนึ่งถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 ถึง 4 นัด ซึ่งเป็นไปได้ว่านายฟูริก์ฟัตมีความแค้นส่วนตัวหรืออาจมีการต่อสู้ขัดขืน และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้คุมตัวสาวคนสนิทของนายฟูริก์ฟัต และน้องชายไปสอบสวนว่าเกี่ยวโยงกับเหตุฆ่ายกครัวหรือไม่ เบื้องพบข้อมูลว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นผู้ร่วมวางแผนและสนับสนุนในการก่อเหตุ
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment