จากกรณีข่าววันที่ 23 กรกฎาคม 2560 เจ้าสร้อยมาลาอินทร์เอี่ยม ณ จำปาสัก อายุ 79 ปี หลานของเจ้าลาวองค์สุดท้าย เกี่ยวพันกับตระกูล ณ ลำปาง รุ่นที่ 6 ได้เปิดแถลงข่าวประกาศขายสมบัติที่ตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เพื่อนำเงินไปทำบุญให้แก่วัดและช่วยผู้ยากไร้ ในโอกาสครบรอบวันจุติขององค์พระพิฆเนศ และเพื่อเป็นการทำความดีถวายแผ่นดิน โดยนำสมบัติเก่าแก่ที่เป็นมรดกตกทอด และเก็บสะสมมานับ 100 ชิ้น นำออกมาขายให้แก่ผู้สนใจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : เจ้าสร้อยมาลา ทายาทเจ้าลาวองค์สุดท้าย ขายสมบัติอีกรอบ เอาเงินไปซื้อข้าวแจก คลิก]
เกี่ยวเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์กระปุกดอทคอม เคยนำเสนอข่าวของ เจ้าสร้อยมาลาอินทร์เอี่ยม ณ จำปาสัก โดย เจ้าสร้อยมาลา ได้เปิดกรุสมบัติ นำมรดกตกทอดของตระกูลออกมาประมูล เพื่อหารายได้ทำบุญ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 [อ่านข่าว : เจ้าสร้อยมาลา เจ้าลาวองค์สุดท้าย ขายสมบัติของตระกูล ทำบุญถวายในหลวง ร.9 คลิก]
เจ้าสร้อยมาลา
ขณะที่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 คุณบัณรส บัวคลี่ สมาชิกภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Pakee Hug Chiang Mai ระบุว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อสายจำปาสักนั้น ไม่รู้จักชื่อของเจ้าสร้อยมาลา อินทร์เอี่ยม ณ จำปาสัก ซึ่งหากอ้างว่าเป็นพระญาติกับเจ้ามหาชีวิตลาวฝ่ายหลวงพระบาง ไม่เป็นความจริง และอ้างเพื่อหวังผลประโยชน์บางประการนั้น ย่อมไม่ถูกต้อง และการที่นำสินค้าขายเพื่อนำรายได้ทั้งหมดถวายเป็นพระราชกุศล ก็ควรบอกกล่าวให้ชัด แต่ถ้าหวังจะอ้างไป เพียงเพื่อตัดรายได้บางส่วน ที่ไม่รู้ว่าเท่าไร เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อด้วยศรัทธา แล้วนำรายได้ส่วนใหญ่เข้ากระเป๋าตัวเอง ย่อมถือเป็นการหลอกลวง อ้างเอาสถาบันที่เคารพบูชา มาทำมาหากิน
ทั้งนี้ เจ้าสร้อยมาลา อ้างตนว่าเป็นพระญาติ เป็นเจ้าลาว ไม่เคยถูกตรวจสอบจริงจัง หากนี่เป็นการหลอกลวง สื่อมวลชนเองก็พลอยกลายเป็นกระบอกเสียงเพื่อการหลอกลวงไปเสียเอง สื่อต้องทำหน้าที่ตรวจสอบแทนประชาชน ไม่ให้ใครมาหลอกลวงทำมาหากินด้วยข้อมูลที่กำกวม และทรัพย์สินที่นำมาขายทั้งหมดนั้นมาจากไหน หรือเป็นเพียงแค่ของเก่าทำเลียนแบบ เจ้าสร้อยมาลา ควรจะอธิบาย ที่มาของตัวเองให้แน่ชัดต่อสาธารณะเสียก่อน สื่อมวลชนก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไม่ให้ถูกใครหลอกลวงเอาเปรียบ
ที่มา: kapook
0 comments:
Post a Comment