สงกานต์-คุณหญิงพรทิพย์-อ.เสรี-วันชัย” เข้าร่วมด้วยวาระงาน 5 ปี คาด 8 เดือนแผนปฏิรูปชาติเสร็จ
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงรวมถึง กกล.รส.
4 กองทัพภาค และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประเมินสถานการณ์ กรณีศาลจะมีการคำพิพากษาตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ได้เน้นย้ำ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองให้เกิดความสงบเรียบร้อย เหมือนเช่นที่เคยปฏิบัติมา ควบคู่ไปกับการเดินหน้าทำความเข้าใจกับประชาชนต่อกรณีดังกล่าว
ผบ.ทบ.สั่งอารักขา9ตุลาการ
ในที่ประชุมมีการประเมินว่า จะมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจประมาณ 1-2 พันคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากจังหวัดปริมณฑล อาทิ จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ อยุธยา ส่วนพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน หน่วยงานด้านความมั่นคงให้มีการจับตามกลุ่มแกนนำในพื้นที่ ที่อาจจะมีการเคลื่อนไหวชักชวนคนมาให้กำลังใจ นส.ยิ่งลักษณ์ โดยพิจารณาว่า หากพื้นที่ไหนมีท่อน้ำเลี้ยง ซึ่งจะมาในรูปแบบของการเดินทางอาศัยโดยรถตู้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเกือบ 1 แสนบาทต่อ 1 คัน และอีกช่องทางหนึ่งจะมาจากรถไฟฟรีที่จะเดินทางมาก่อนวันตัดสินอย่างน้อย 2-3 วัน โดยจะมีการนัดการบริเวณดอนเมือง และ หลักสี่ ทั้งนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้เป็นห่วงถึงจำนวนคนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ แต่ห่วงมือที่สามจะมาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย โดยเฉพาะตัวบุคคล
สำหรับการดูแลพื้นที่บริเวณหน้าศาลฎีกา จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบหลัก พร้อมให้ส่งกำลังไปดูแลอารักบ้านพักของคณะตุลาการฎีกาทั้ง 9 คน ทั้งก่อนที่จะมีคำตัดสิน และ หลังคำตัดสินไปแล้ว โดยเบื้องต้นจะยังคงใช้แผนกรกฎ 52 ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า พล.อ.เฉลิมชัย จะเรียกหน่วยงานความมั่นคง ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
“บิ๊กป้อม”ปัดสกัดกองเชียร์
ประเด็นดังกล่าวทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ให้ตำรวจในท้องที่ดูแลเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลังคน แต่จะไม่มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังไม่ใช้เจ้าหน้าที่ทหาร ขณะเดียวกันได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยของตัวผู้พิพากษาด้วย โดยจะใช้กฎหมายปกติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งหมด
“ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีขบวนการใดหวังนำเรื่องนี้มาสร้างสถานการณ์ คงไม่มีอะไร และไม่น่าจะมีมือที่ 3 เกิดขึ้น แต่ผมอยากให้แฟนคลับของน.ส.ยิ่งลักษณ์คอยให้กำลังใจอยู่ที่บ้านจะดีกว่า ผมไม่ได้สกัดใคร เพียงแต่พูดจากัน หากมาจำนวนมากก็ไม่มีที่ยืน” พล.อ.ประวิตร กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ระบุมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ใช้งบประมาณเพื่อขนมวลชนมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 25 ส.ค.นั้น ยืนยันว่าไม่มี เป็นการพูดกันไป เมื่อถามว่า ด้านแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ก็ออกมาระบุจะซื้อตั๋วรถทัวร์เพื่อให้มวลชนมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังมีการสกัดไม่ให้นำรถตู้ขนคนมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “มาได้ อยากมาก็มา ไม่เป็นอะไร”
เลขาฯสมช.มั่นใจไม่วุ่นวาย
ด้านพล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า สมช.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง มีการพูดคุยทำความเข้าใจในทุกภาคส่วนของแต่ละจังหวัด ไม่น่าจะมีอะไรเป็นกรณีพิเศษ ส่วนกระแสข่าวองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขนคนมากทม.นั้น จะต้องพิสูจน์ทราบก่อน เราพยายามอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความเหตุการณ์ความวุ่นวาย ขณะที่การเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มการเมืองทั้งในและต่างประเทศนั้น ตอนนี้ยังมีแต่การแสดงความคิดเห็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง
พท.บอกเป็นสิทธิ์ประชาชน
นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ชาวบ้านที่มีความรักและสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปที่ศาลในวันดังกล่าว ก็เพื่อให้กำลังใจเท่านั้น เนื่องจากมองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเพียงให้นโยบาย และคนที่ปฏิบัติคือข้าราชการ
“การเดินทางไปศาลของประชาชน ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เพราะต่างคนต่างไป ไม่มีการขนกันไป จึงไม่ควรสกัดกั้น เพราะเมื่อให้กำลังใจเสร็จ ก็จะเดินทางกลับเหมือนที่ผ่านมา ไม่ได้ก่อความวุ่นวายอะไร เพราะทุกฝ่ายยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่า อดีต ส.ส.ของพรรค ก็จะพร้อมใจกันเดินทางไปให้กำลังใจด้วยเช่นกัน ซึ่งน่าจะไม่น้อยกว่า 150 คน” นายอำนวย กล่าว
สำหรับกรณีที่มีรายงานว่า มีการใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดรถให้ประชาชนเดินทางมากรุงเทพฯ ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น นายอำนวย ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน เพราะการใช้งบประมาณของ อปท.มีระเบียบในการใช้เงิน ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินต้องตรวจสอบ
’นักการเมืองก็ไม่มีการจัดรถให้กับประชาชน เพราะไม่อยากขัดแย้งกับรัฐบาล และ คสช. ที่ไม่ให้มีการดำเนินการดังกล่าว แต่ทราบว่าประชาชนจะเดินทางไปศาลกันเอง โดยรถสาธารณะกันมาก ไม่สามารถคำนวณได้ว่า จำนวนเท่าไร เพราะต่างคนต่างไป ถือเป็นการไปกันเองโดยธรรมชาติ” นายอำนวย กล่าว
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเรียกร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย คนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะนั่นถือเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มวลชนไม่ได้ยกกำลังมากดดันศาล ดังนั้นจึงอยากให้ทางคสช.เข้าใจถึงเสรีภาพของประชาชนด้วย สำหรับตนยืนยันว่าจะไปให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างแน่นอน จะกั้นรถหรือปิดถนน ก็จะเดินไป มันเป็นเสรีภาพ ทำไมจะไปไม่ได้
‘แดงเชียงใหม่’ถูกบล็อคแล้ว
แหล่งข่าวระดับแกนนำกลุ่มสมัชชาคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่หลักที่ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวว่าจะมีการเคลื่อนกำลังเข้ากรุงเทพ
อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่เองส่วนใหญ่ไม่ได้มีรายได้มากนัก คาดว่าจะไม่เดินทางเข้าไปให้กำลังใจในกรุงเทพฯ แต่จะอยู่ส่งกำลังใจไปให้จากที่บ้านมากกว่า เนื่องจากการเดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ ต้องเสียทั้งเวลาและเงินทองจำนวนมาก
ประกอบกับขณะนี้แต่ละพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหว เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เฝ้าระวังอย่างเต็มที่อยู่แล้ว การเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใหญ่จึงทำได้ยาก โดยเฉพาะในระดับแกนนำแต่ละพื้นที่เจ้าหน้าได้เข้าดูแลอย่างใกล้ชิด มีการเข้ามาสอบถามบ้างว่าช่วงนี้จะเดินทางไปไหนหรือไม่ ซึ่งได้ตอบไปตามความเป็นจริงว่าไม่ไปไหน แต่อยู่บ้านส่งกำลังใจให้
มท.สั่งสอบถลุงงบเชียร์’ปู’
มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า ภายหลัง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทราบและกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณของอปท.ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 104/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค.2557 อย่างเคร่งครัด นั้น
ล่าสุดวันนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือเวนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ดำเนินการดูแลการใช้จ่ายงบประมาณของ อปท.อย่างใกล้ชิด
กระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของ อปท. เกิดความคุ้มค่าและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงข้อให้จังหวัดดำเนิน 1.กำชับ ให้ อปท.ที่จัดฝึกอบรมและเดินทางไปศึกษาดูงานถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้จ่ายในการฝึกอบรมและการเข้ารับการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ.2557 โดยโครงการหรือหลักสูตรการฝึกอบรมที่ อปท. จัดหรือร่วมกับหน่วยงานอื่น ต้องเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งการเข้ารับการฝึกอบรม การเดินทางไปดูงานทั้งในหรือต่างประเทศ ให้พิจารณาอนุมัติเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวจ้องต่อ อปท.
2.ให้ผู้ว่าฯและนายอำเภอ กำกับดูแลมิให้ อปท. จัดทำโครงการศึกษาดูงานในลักษณะมีเจตนาแอบแฝงเพื่อนำประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง และ 3. ให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอ กำกับดูแล อปท.ในเขตจังหวัด ถือปฏิบัติตามระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด หากพบว่า อปท.ใดจงใจหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหนังสือสั่งการ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 104/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค.2557 มีรายงานว่า ล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแล อปท.ได้มีการตรวจสอบข้อมูลจาก สตง.แล้ว เพื่อเสนอ รมว.มหาดไทย พร้อมกำชับข้าราชการในส่วนของ อปท.แต่ละพื้นที่ให้ใช้งบประมาณไปในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม
’บิ๊กตู่’เยือนสหรัฐตค.นี้ถกรอบด้าน
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของพล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในเดือนตุลาคมนี้ว่ายังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนวันใด แต่ได้มีหารือเบื้องต้นว่าจะหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯทั้งด้านการค้า การลงทุน ความมั่นคง การทหารรวมถึงสถานการณ์ในภูมิภาค กรณีปัญหาเกาหลีอีกเหนือ เชื่อว่ายังพูดคุยกันอีก เชื่อท่าทีสหรัฐฯคงจะไม่เปลี่ยน ทางออกที่ดีคือการพูดคุย โดยอาเซียนพร้อมสนับสนุน และเชื่อว่าการเยือนครั้งนี้ จะได้ประโยชน์ทั้งความสัมพันธ์ การค้าการลงทุน เพราะไทยมีการค้าที่เกินดุลกับสหรัฐฯอยู่จึงจะทำอย่างไรให้การค้าการลงทุนนี้ อยู่ในตัวเลขที่สมเหตุสมผลโดยไทยอาจลงทุนกับสหรัฐฯมากขึ้น
’ไผ่ ดาวดิน’รับสารภาพผิดม.112
วันเดียวกัน เวลา 09.00น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่นได้เบิกตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112และพรบ.คอมพิวเตอร์ จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดขอนแก่น เข้ารับการพิจารณาไต่สวนครั้งที่ 2 โดยมีทีมทนายความ พร้อมด้วย นายวิบูลย์และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของผู้ต้องหา เดินทางมาร่วมรับฟังในการพิจารณาไต่สวนอย่างพร้อมเพรียง โดยเป็นการพิจารณาคดีทางลับ ไม่ให้สื่อมวลชนหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังการพิจารณา
หลังนำจำเลยเข้าห้องพิจารณาคดีเพียงไม่นาน ทนายได้ออกมาแจ้งกับทางญาติๆ และทางพยานโจทก์ ว่า ช่วงบ่ายศาลจะอ่านคำพิพากษา เนื่องจากจำเลยได้ให้การรับสารภาพ โดยยังไม่ได้มีการสอบพยานโจทก์แต่อย่างได ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ นางพริ้ม ที่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ไดๆและนางพริ้ม มีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างมาก ส่วนทีมทนายแจ้งว่า จะขอให้สัมภาษณ์หลังจากได้ฟังคำพิพากษาแล้ว
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment