เชื่อคนร้ายมากกว่า2 คดีฆ่า’น้องพลอย’ ‘ทนาย-แม่’แจ้งเพิ่ม

ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมพาแม่น้องพลอยแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมผู้เกี่ยวข้องคดีอุ้มฆ่า ทั้งที่ร่วมลงมือสังหารและช่วยในการหลบหนี,ให้ที่พักพิง เผยเป็นคนใกล้ชิดกับอดีต ส.อ.ขณะที่ผู้เป็นแม่เชื่อคนร้ายมีมากกว่า 2 คน ขอให้ตำรวจติดตามจับกุมให้ได้ทั้งหมด

ความคืบหน้ากรณี น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย ถูก นายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก คนรักเก่าพาตัวหายไปนานกว่า 3 ปี จาก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และไม่กี่วันที่ผ่านมานายพลกฤต ถูกจับกุมตัวได้ใน จ.นครราชสีมา และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าน.ส.พลอยนรินทร์ ขณะที่ผลการตรวจสอบดีเอ็นเอในบริเวณที่พบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ถูกเผาทิ้งที่ อ.แก่งคอย  จ.สระบุรี ตรงกับดีเอ็นเอของ น.ส.พัชรี ปั้นทอง แม่ของ น.ส.พลอยนรินทร์ นั้น

เมื่อวันที่ 15สิงหาคม นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า ในฐานะทนายความผู้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.พลอยนรินทร์ ตนจะพา น.ส.พัชรี เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา) เพื่อกล่าวโทษร้องทุกข์เอาผิดเพิ่มเติมกับบุคคลที่เชื่อว่ารู้เห็นกับการเสียชีวิตของ น.ส.พลอยนรินทร์ หรือให้การช่วยเหลือนายพลกฤต หลบหนีตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นคนใกล้ชิดกับนายพลกฤต


ต่อมา เวลา 10.00 น.ที่กองกำกับการสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา นายรณณรงค์ พร้อมด้วย น.ส.พัชรี เข้าพบ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งรายละเอียดให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม น.ส.พลอยนรินทร์ โดย น.ส.พัชรี ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.สุทธิ และขอร้องว่าต้องการให้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลความปลอดภัยของตนเอง

น.ส.พัชรี กล่าวว่า ตนเองไม่เชื่อว่า นายพลกฤต จะดำเนินการได้คนเดียว เพราะตนเองไปดูที่ฝังศพ พบว่ามีความยากลำบากในการเดินทางและเป็นทางเปลี่ยว คาดว่าต้องมีคนร่วมลงมือมากกว่า 2 คน และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่พาผู้ต้องหาหลบหนีด้วย โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายพลกฤต ในข้อหาเจตนาฆ่า ปิดบังอำพรางซ้อนเร้นศพ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องต้องการให้ดำเนินคดีในข้อหาให้ที่พักอาศัยกับผู้ต้องหาและพาผู้ต้องหาหลบหนี แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะแจ้งดำเนินคดีกับใครบ้าง ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน

น.ส.พัชรี กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่ช่วยกันทำข่าวจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมกันนี้ น.ส.พัชรี ได้มอบกระเช้าให้กับ พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยติดตามคดีจนจับกุมคนร้ายได้

ด้าน พล.ต.ต.สุทธิ กล่าวว่า การดำเนินคดีที่ล่าช้าเนื่องจากผู้ต้องหามีความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างดี สามารถหลบหลีกการติดตามของเจ้าหน้าที่ได้ตลอด ซึ่งหลังจากที่ตนเองได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.พัชรี เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ก็ได้เรียกพนักงานสอบสวนทั้งหมดมาติดตามจนสามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ซึ่งใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 13 วัน ตามที่รับปากกับ น.ส.พัชรีไว้


ที่มา:  naewna