Wednesday, August 16, 2017

Tagged Under:

ไม่ให้กราบอโหสิ ‘แม่น้องพลอย’แค้นส.อ. เชื่อมีคนร่วมฆ่าอีก3

By: news media On: 6:07 PM
  • Share The Gag
  • “แม่น้องพลอย” บุกดูหน้า “ส.อ.” ฆาตกร อยากถามทำไมต้องฆ่าลูก ไม่ยอมให้กราบขออโหสิกรรมเด็ดขาด เชื่อยังมีผู้ก่อเหตุร่วมอีก 3 ราย ด้านแม่ “ผอ.อ้อย” เผยยังไม่พบลูก ขณะที่บรรดาญาติ เดินทางไปที่ “สามเหลี่ยมมรกต” จุดที่คาดว่าพบศพ แต่ถูกทหารขวาง อ้างเป็นพื้นที่อันตราย มีระเบิดฝังไว้เพียบ

    จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 23.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ ได้รับแจ้งจาก น.ส.พัชรี ปั้นทอง ว่าบุตรสาวชื่อ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือพลอย อายุ 24 ปี ได้หายไปจากหน้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีเอฟ) จำกัด อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเลิกงาน กระทั่งพบกลายเป็นศพเนื่องจากถูกฆาตกรรม โดยผู้ที่รับสารภาพคือว่าเป็นคนลงมือสังหารคือ นายพลกฤต วิเศษ หรือ เอส อดีต ส.อ. ซึ่งเป็นคนรักเก่า ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 สิงหาคม น.ส.พัชรี พร้อมด้วย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม โดยแม่ของน้องพลอยได้ถือภาพลูกสาวและกระธางธูปไว้ในมือ ขณะให้สัมภาษณ์ว่า ตนเดินทางมาเพื่อดูหน้า นายพลกฤต ซึ่งจะถามว่าทำไมถึงเลือดเย็นขนาดนี้ โดยตนได้เอาผ้าพันคอที่ลูกสาวถักเองกับมือที่ให้ไว้มาด้วย เพื่อให้เขาได้มาเจอคนที่ฆ่าเขาได้ลงคอ ซึ่งตนก็ยังเชื่อว่า เขาไม่ได้ฆ่าน้องพลอยเพียงคนเดียว เนื่องจากหลังจากที่เรื่องราวของน้องพลอยกลายเป็นข่าว ได้มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาว่า พบผู้ต้องหากับพวกอีก 3 ราย มารอน้องพลอยอยู่ที่หน้าที่ทำงาน

    “หลังเกิดเหตุ 1 เดือนกว่า ฝันเจอลูกจมน้ำยื่นมือขอให้ช่วย และมากราบเท้ากับแม่และพ่อทุกวันตั้งแต่เกิดเรื่อง ฝ่ายตรงข้ามรู้ความเคลื่อนไหวของตนตลอด ในจุดนี้แม่อยากรู้มากว่าเขารู้ได้อย่างไร หลังจากนี้แม่ไม่ให้เขาไปกราบอโหสิกรรมน้องพลอยเด็ดขาด เขาต้องกราบเท้าแม่เท่านั้น คนใจร้ายยังเป็นคนใจดีได้ แต่คนใจดำไม่มีทางที่จะเป็นคนดีได้” แม่น้องพลอย กล่าวทั้งน้ำตา

    วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ ดอกไม้ ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจนอกเครื่องแบบ และชุดคุ้มกันรวม 50 นาย เดินทางด้วยรถตู้ 3 คัน รถสายตรวจ 10 คัน เดินทางจาก จ.สระบุรี เพื่อไปรับตัว นายพลกฤต ที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหากับนายพลกฤต ตามที่ศาลออกหมายจับ คือ ฆ่าผู้อื่น ปิดบังซ่อนเร้นศพ


    ส่วนคดีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปหลังขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ไปส่งบุตรสาวที่โรงเรียนตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม โดยตำรวจได้ดำเนินคดีกับ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รวม 4 ข้อหา ต่อมา มีรายงานว่า พบจุดที่เผาศพ ผอ.อ้อย โดยศพถูกเผาจนเหลือแต่เศษเสื้อผ้าอยู่บนพื้นดินบริเวณที่เรียกกันว่า “สามเหลี่ยมมรกต” พื้นที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ระหว่างประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบนั้น

    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากบ้านเลขที่ 83/1 หมู่ 3 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ในช่วงเช้าพ่อแม่ พร้อมบรรดาญาติๆ และเพื่อนบ้าน ประมาณ 30 คน เตรียมออกติดตามค้นหา น.ส.จุฑาภรณ์ ต่อเนื่อง โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปที่ อ.น้ำยืน ส่วนนางแหลม อุ่นอ่อน มารดา จะไปที่ ห้วยตามาเรีย ฝั่งด้านภูมะเขือชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษตามที่ได้รับแจ้งจากการทำพิธีผ่านร่างทรง เพื่อร่วมพิธีเปิดป่า ขอเทวดาบอกเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอยากจะพบเจอลูกสาวโดยเร็ว ตอนนี้ยังไม่พบลูกสาวแต่อย่างใด ซึ่งจะพยายามต่อไปเพราะหายตัวนายเกินไปแล้ว



    จากนั้นญาติๆ ของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เดินทางโดยรถยนต์ปิกอัพ 2 คัน ไปที่บริเวณอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนล่าง โดยประสานงานกับทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 2308 ฐานปฏิบัติการชายชาญ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 23 เพื่อพาขึ้นไปตรวจสอบจุดที่พบศพ แต่ทหาร อนุญาตให้ขึ้นได้ ถึงแค่บริเวณฐานปฏิบัติการอนุพงษ์ ใกล้กับบริเวณสามเหลี่ยมมรกต โดยให้เหตุผลว่า พื้นที่ต้องห้ามดังกล่าว ยังคงมีอันตราย จากกับระเบิดที่อาจหลงเหลือ เนื่องจากยังเก็บกู้ไม่หมด


    ที่มา: naewna

    0 comments:

    Post a Comment