ปภ.ออกโรงเตือน 10 จว.อีสาน-ใต้ เฝ้าระวังฝนถล่มระลอกใหม่ 17-19 สิงหาคม เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม “นครพนม”อ่วมสุดในรอบ 50 ปี นาข้าวยับ 2 แสนไร่ ส่วนภาคใต้ ตรัง-สตูล ฝนยังตก มีน้ำท่วมหนักหลายแห่ง
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่จากการติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศและปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรพบว่าในช่วงวันที่17-19ส.ค.บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้
โดยแยกเป็นช่วงวันที่ 17-18 สสิงหาคม จะมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม วันที่ 19 สิงหาคม มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจส่งผลให้บริเวณพื้นที่ที่มีน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังอยู่เดิมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ทั้ง 10 จังหวัด เตรียมเฝ้าระวังและรับมือ
วันเดียวกัน จ.นครพนม ได้สำรวจความเสียหายหลังสถานการณ์น้ำท่วมลดพบว่ามีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด11อำเภอ คือ อ.นาแก อ.วังยาง อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม อ.เรณูนคร อ.โพนสวรรค์ อ.ท่าอุเทน อ.ธาตุพนม อ.นาทม อ.ปลาปาก และ อ.เมืองนครพนมรวมมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 82 ตำบล 677หมู่บ้าน22,555 ครัวเรือน พื้นที่นาข้าวเสียหายเกือบ 2 แสนไร่ พื้นที่ อ.นาแก ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีพื้นที่นาข้าวเสียหายกว่า 75,000ไร่ รองลงมาคือ อ.ศรีสงครามนาข้าวได้รับความเสียหายกว่า25,000ไร่ซึ่ง ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ได้รับผลกระทบหนักสุดในรอบ50ปี มีน้ำท่วมขังนานเกือบ1เดือน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านและเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่เริ่มปักดำได้ 2เดือนต้นข้าวเน่าเสียหาย
ส่วนที่ จ.ตรัง ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในทะเลตรังมีคลื่นไหลซัดเข้าบริเวณชายหาดล่าสุด เรือชาวประมงพื้นบ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ที่ออกวิ่งเรือหาปลา ถูกคลื่นซัดสูงกว่า2เมตรซัดจมหายไปกับคลื่น เป็นเรือจับปลาทูของนายบุญฉง อ่องไหว อายุ56ปีชาวประมงพื้นที่บ้านพร้อมลูกชายและลูกเรือคนรวมทั้งหมด 5คน ถูกคลื่นซัดเรือประมงที่มีปลาเต็มลำเรือพลิกคว่ำ ระหว่างเดินทางกลับจากไปวางอวนจับปลาทู บริเวณเกาะเหลาเหลียงขณะเรือเข้าใกล้ถึงบ้านหาดยาวห่าง1กิโลเมตร ถูกคลื่นสูงซัดเรือจนเรือพลิกคว่ำทั้งนายบุญฉงกับลูกเรือหนีตายเกาะกราบเรืออยู่1คนอีก4คนหนีขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังเรือที่จมลอยกลางทะเลชาวบ้านมองเห็นเหตุการณ์รีบนำเรือฝ่าคลื่นออกไปช่วยเหลือจนทุกคนปลอดภัย
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ภาวะน้ำท่วมหนักของหมู่ที่ 2 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน มีหมู่บ้านจำนวน 147 หลังถูกน้ำท่วม 131 หลังคาเรือน และติดเกาะกลาง ซึ่งมีน้ำล้อมรอบกว่า 30 หลังคาเรือน เรียกว่ายกหมู่บ้านเลยทีเดียว เป็นภาวะน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 7 ปีนับตั้งแต่ปี 2553 มีเพียงกำนันผู้ใหญ่บ้านและนายอำเภอ ที่เข้ามาดูแลชาวบ้าน พร้อมนำเรือรับส่ง
ด้าน นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือสำรวจ ต้องมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในเรือด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่นเจ้าท่าฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่เกี่ยวข้องต้อง แจ้งเตือนให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้นโดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้านอย่านำเรือเล็กออกทะเลหาปลาในช่วงนี้เนื่องจากทะเลยังมีกระแสสมแรง คลื่นสูง อาจเกิดอันตรายได้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้เฝ้าระวังพื้นที่ไปจนถึงวันที่ 20 สิงหาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สตูล ว่า สภาพอากาศในพื้นที่ยังคงแปรปรวน ฝนตกลงเป็นระยะๆป้องกันบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)สตูล สรุปว่า สถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้มี7 อำเภอ 18 ตำบล 65 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ อ.ควนโดน หลังน้ำลดช่วงหนึ่งแต่กลับมาท่วมอีกครั้ง หลังฝนตกซ้ำ โดยที่ อ.ละงู อ.ท่าแพและ อ.เมือง ยังคงมีสภาพหนัก โดยที่ อ.ละงู น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต.น้ำผุด แล ะต.เขาขาว และน้ำกำลังไหลเข้าสู่เขตเทศบาล ต.กำแพง มีโอกาสท่วมได้ ส่วนอ.เมือง น้ำท่วมครอบคลุมพื้นที่ ต.ฉลุง ต.บ้านควน ต.เกตรี ต.คลองขุด ต.ควนขันและเขตเทศบาลเมืองสตูล ชาวบ้านเริ่มทยอยขนของและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงรวมทั้งเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ออกมาไว้ในที่ปลอดภัย
ส่วน ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง เกิดพายุลมแรงต้นไม้ล้มทับบ้าน นายมูเส็น ยะระ เสียหาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนในพื้นที่เกาะสาหร่าย ไฟฟ้ายังดับทั้งเกาะ และมีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมได้ ปิดการเรียนการสอน2แห่ง คือ ร.ร.อนุบาลเมืองสตูลและร.ร.บ้านเกาะบูโหลนและที่โรงเรียนบ้านวังพระเคียน เกิดพายุพัดอาคารเรียนเสียหาย 4 ห้องเรียน ล่าสุด น้ำในลำคลองมำบัง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนบริเวณซอยร่วมวารินทร์ในเขตเทศบาลต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเร่งอพยพหนีออกจากบ้านกันอย่างทุลักทุเล ในขณะตชด.436 จ.สตูล เร่งนำน้ำดื่มไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment