Tuesday, March 31, 2015

Tagged Under:

บีบแตรขอทาง+แท็กซี่รุ่นใหญ่ฉุนจอดรถแทงยับ

By: news media On: 8:09 PM
  • Share The Gag
  • เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" รายงานว่าบนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ก มีผู้ใช้ชื่อว่า "Poungthep Lappanapongpan" โพสต์รูปภาพตัวเอง ซึ่งได้รับบาดเจ็บเป็นแผลเหวอะข้างลำตัว คล้ายกับถูกของมีคมกรีดเป็นแนวยาวลักษณะขวางกับลำตัว บริเวณใต้รักแร้ด้านซ้าย พร้อมกับมีเลือดไหลท่วมตัว โดยอ้างว่าบาดแผลดังกล่าว โดนแท็กซี่ใช้มีดคัตเตอร์ไล่ฟัน ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ได้บีบแตรเพื่อที่จะแซงแท็กซี่ แต่แล้วแท็กซี่คันดังกล่าวกลับขับปาดหน้า และบีบแตรไล่ พร้อมกับจอดรถลงมาถือมีดคัตเตอร์มาทำร้าย

    ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าของเฟสบุ๊กดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนถูกคนขับรถแท็กซี่ซึ่งมีอายุมากใช้มีดคัตเตอร์ฟันที่ร่างกาย จนต้องเย็บถึง 30 เข็ม โดยแท็กซี่คันดังกล่าวพกอาวุธมีดคัตเตอร์ขนาดใหญ่ไว้ที่รถ สาเหตุที่แท็กซี่ขับรถปาดหน้าตนอย่างกระชั้นชิด เพราะตนขี่รถจักยานยนต์อยู่ในเลนซ้าย แท็กซี่อยู่เลนขวา ขณะที่ตนขอทางเพื่อจะแซงโดยบีบแตรให้คู่กรณีรับทราบ แต่แท็กซี่คันดังกล่าวไม่พอใจกลับบีบแตรแช่ยาว ก่อนจะขับไล่ตาม ตนเห็นท่าไม่ดีจึงหยุดรถเพื่อพูดคุย คนขับแท็กซี่เปิดประตูก่อนจะเดินตรงลงมาในมือถือมีดคัตเตอร์ กรีดเข้ามาที่ชายโครงจากล่างขึ้นบนจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลเหวอะโดยไม่พูดไม่จา ตนพยายามหนีเอาตัวรอด โชคดีมีพลเมืองดีแถวนั้นมาช่วยไว้ทัน ส่วนแท็กซี่หลังก่อเหตุได้ขับหนีไปทันที ตนจึงโทรฯแจ้ง 191 ต่อมาป้อมตำรวจแถวประชานุกูลสกัดจับผู้ก่อเหตุเอาไวได้ที่ใต้ทางด่วน ตนต้องการโพสต์เตือนพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ใช้รถใช้ถนน เพราะแท็กซี่คันดังกล่าวปิดบังทะเบียน พรางจากตัวอักษร “ล” เป็น “ส” และเอากระดาษมาปิดเลข 5 ไว้

    ท้ังนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสุขชัย จินดาบรรเจิด คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับผิดทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่ขณะนั้นจำเป็นต้องขับรถไปส่งผู้โดยสาร ซึ่งเกิดจากอารมณ์ร้อนของตน ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ และพลาดไปโดนเป็นแผลยาว โดยขณะนี้รอใบตรวจร่างกายของคู่กรณีว่าอาการหนักหรือไม่ ตำรวจจึงจะเรียกเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

    ด้านนายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า กตส.โดยชุดตรวจการ 11 ได้ดำเนินการติดตามตัวโชเฟอร์คนดังกล่าวแล้ว พบว่าไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงเปรียบเทียบปรับฐานไม่แสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถ (มาตรา 11) เป็นเงิน 500 บาท และเปรียบเทียบปรับฐานฝ่าฝืนกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในการรับจ้างบรรทุกคนโดยสารตามมาตรา 5 (15/1) ประกอบมาตรา 58 / 1 เป็นเงิน 500 บาท ส่วนกรณีผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ได้รับไปดำเนินการแล้ว พร้อมทั้งคดีอาญาในส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วย สำหรับกรณีเจ้าของรถยนต์ให้ผู้ขับรถที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะมาขับรถของตนนั้น ฝ่ายเปรียบเทียบจะได้ดำเนินการเรียกตัวเจ้าของรถมาดำเนินการต่อไป.

    ที่มา,http://www.dailynews.co.th/

    0 comments:

    Post a Comment