จากการเปิดเผยว่าเมื่อวันที่14มี.ค.ที่ผ่านมาบริเวณป่าช้าวัดป่าโคกอุดมหมู่ 11 ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำร่างที่มีแต่ซากโครงกระดูกบรรจุไว้ในท่อคอนกรีต ของนายสุธี ปานศิริ หรือ “น้องกบ” ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน ทางญาติได้นำขึ้นมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีอีกครั้ง ก่อนที่จะนำศพไปเผาที่เมรุชั่วคราวของวัดป่า ในช่วงเย็นของวันเดียวกันท่ามกลางญาติๆ ของผู้เสียชีวิตที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเสร็จพิธีจึงแยกย้ายกันกลับ ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำภาพถ่ายที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายพบว่ามีภาพๆหนึ่งมีเงาภาพชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของเตาเผาจึงเป็นที่ฮือฮาว่าเงาภาพดังกล่าวน่าจะเป็นวิญญาณของนายสุธีปานศีริหรือ“น้องกบ” มายืนดูร่างของตัวเองที่กำลังถูกเผา
ด้านนางรัศมีปานศิริอายุ 42 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และได้นำศพมาฝังไว้ บริเวณป่าช้าวัดป่าโคกอุดม ต่อมาฝันว่าลูกชายมาเข้าฝันว่าอึดอัดให้นำออกจากท่อ ด้วยความฝันคิดว่าลูกชายมาบอกให้นำร่างที่ถูกฝังไว้ในท่อคอนกรีตออกมา จึงได้จัดพิธีเผาศพของลูกชายเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่มาเข้าฝันให้เป็นอิสระต่อไป
นางรัศมีแม่ของน้องกบผู้เสียชีวิตเปิดเผยด้วยว่า ลูกชายเรียนอยู่ที่โรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กทม. หลังจากสอบติด และเป็นนักกีฬาของโรงเรียนที่ถูกคัดตัวได้ส่งไปแข่งขันที่ต่างประเทศ แต่ในครั้งนี้เป็นคิวของนักกีฬาชุดอื่นที่เดินทางไปก่อน ส่วนลูกชายทางโรงเรียนให้กลับมาพักที่บ้านก่อน 10 วัน
ในวันเกิดเหตุนายคำนนท์ ปานศรี ผู้เป็นพ่อ ได้ใช้ให้ไปซื้อหมูย่างกับข้าวเหนียวที่ตลาดบ้านโคกอุดม โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ขณะที่ขับรถจักรยานยนต์กลับ ได้มีรถยนต์กระบะของเพื่อนบ้านขับย้อยศรจึงเกิดชนกันขึ้น ส่วนลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนในวันเกิดเหตุ ตนไม่ได้อยู่ที่บ้านไปทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด และได้รับแจ้งจากทางญาติพี่น้องว่าลูกชายถูกรถชน จึงรีบเดินทางกลับ แต่ลูกชายได้เสียชีวิตก่อน
จากนั้นจึงได้เก็บศพไว้ที่วัดป่าโคกอุดม เพื่อรอคดีเสร็จสิ้นก่อนที่จะนำศพขึ้นมาบำเพ็ญกุศลต่อไป จากนั้นก็มีเพื่อนๆ ของผู้ตายมาบอกว่าลูกชายมาเข้าฝันว่าอึดอัดอยากจะออกจากท่อเพื่อเป็นอิสระ จนมาถึงวันนี้จึงได้นำศพขึ้นมาเผาตามประเพณี ส่วนภาพถ่ายที่ปรากฏในคลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่นั้น ตนขอยืนยันว่ามีส่วนคล้ายลูกชายจริง ดูลักษณะจากทรงผมตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนกล้องโทรศัพท์ของตนเองที่ถ่ายไว้ก็ติดเหมือนกันแต่ไม่ชัดเท่านี้
นางรัศมีกล่าวอีกว่าภาพถ่ายที่ติดวิญญาณ ลูกชายคงจะมาลาพ่อและแม่ รวมทั้งพี่และน้อง ที่เขาต้องมาจากไปก่อนเวลาอันควร ตนขอให้วิญญาณของลูกไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ไปอย่างสงบ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้กลับมาเกิดเป็นแม่ลูกกันอีก
ที่มา,www.khaosod.
0 comments:
Post a Comment