
บางคนแคร์มากเกินไปว่าคนในสังคมมองเราอย่างไร จนลืมมองไปว่าตัวเองต้องการอะไรมากกว่า ให้เราลองถามตัวเองว่าเราต้องการอะไร ถ้ามันไม่ได้เดือดร้อนใครก็จงทำซะ” นี่เป็นประโยคที่เราประทับใจจากส่วนหนึ่งในการพูดคุยกับเขาคนนี้
กล้ามเป็นมัดๆ กับหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม บวกกับรอยสักสุดเท่ที่ประดับอยู่กลางหลังและบริเวณแขน รวมทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาจนสาวๆ เห็นต้องใจสั่นอย่างแน่นอน มองจากภายนอกเขาแทบจะดูไม่แปลกแยกกับผู้ชายอกสามศอก ถ้าไม่มีใครบอกก็คงจะไม่เชื่อว่าเขาคนนี้เป็นผู้หญิงที่กำลังดังที่สุดในนาทีนี้ “จิ๊บ-ญาณิชา มหาอุดมพร”
จิ๊บ-ญาณิชา มหาอุดมพร
สักเต็มแผ่นหลัง
เป็นอีกหนึ่งคนที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นในโลกโซเชียลฯ วันนี้เรามีนัดพูดคุยเปิดใจเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น "จิ๊บ" บอกกับเราว่าตอนนี้อายุ 26 ปี เกิดวันที่ 9 ธันวาคม 2531 เห็นหุ่นฟิตเฟิร์มแบบนี้เขาผ่านออกกำลังกายมาอย่างหนักจากคนรูปร่างผอมบางแบบผู้หญิง ตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่ 62 กก.กับส่วนสูง 166 ซม. นี่เป็นข้อมูลเรียกน้ำย่อย
ถ้าอยากรู้จักผู้หญิงอก 3 ศอกที่ ร่างกายและหัวใจแข็งแรงไม่แพ้ผู้ชายอก 3 ศอกให้มากกว่านี้ ไทยรัฐออนไลน์ มีคำตอบ
Q : ทำไมจู่ๆ ถึงได้ดังในโซเชียลฯ
เริ่มจากที่จิ๊บทำเพจ เกี่ยวกับการรับสอนออกกำลังกาย ทั้งยังให้ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และมีการโปรโมตเพจ เราก็ได้ลงรูปคนในกลุ่ม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากมีรูปร่างดีๆ ให้เพศที่สามหรือทอมหันมาออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น และทำให้คนเข้ามาเพจเรามากขึ้น จนมีรูปนึงเป็นรูปที่จิ๊บถอดเสื้อจนทำให้รูปนี้มีคนแชร์ต่อๆ กันไปเยอะมาก
แมนเกินร้อย
Q : รู้สึกอย่างไรที่คนให้ความสนใจเยอะขนาดนั้น
แรกๆ ก็ตกใจนิดนึง ว่าทำไมมันแชร์ได้เยอะขนาดนั้น จนตอนนี้เราก็ดีใจไปไหนมาไหนคนก็เริ่มจำเราได้เข้ามาขอถ่ายรูปบ้าง
Q : จำได้มั้ยว่าจิ๊บอยากเป็นผู้ชายตั้งแต่ตอนไหน
ตั้งแต่เด็กๆ แล้วน่าจะประมาณ ป.1 ตอนนั้นเราก็แบ่งแยกไม่ออกหรอกว่ามันจะเป็นยังไง “ทอม” คืออะไร แต่แค่เราชอบเล่นกับเด็กผู้ชายนะ ชอบเล่นของเล่นผู้ชาย โตขึ้นมาเริ่มแต่งตัวเหมือนผู้ชายมากขึ้น
Q : วัยเด็กของ ด.ญ.จิ๊บ
ตอนเด็กๆ เราก็ยังแต่งตัวเป็นผู้หญิง ไว้ผมยาว แต่จิ๊บมีนิสัยห้าวๆ ซนๆ ครอบครัวของจิ๊บจะค่อนข้างให้อิสระกับเรา ให้เราตัดสินใจด้วยตัวเอง อยากทำอะไรทำ อยากเป็นแบบไหนก็แล้วแต่เรา ขอแค่อย่าทำความเดือดร้อนให้ใครก็พอแล้ว จิ๊บเป็นแบบนี้พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็ยอมรับได้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว
เปลือยซิกซ์แพ็กน่าขย้ำ
Q : ผ่าตัดหน้าอกตั้งแต่เมื่อไหร่
ผ่าตัดมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ถามว่าตัดสินใจยากมั้ยก่อนที่จะผ่าตัดหน้าอก ไม่ยากเลย ในเมื่อเรามีงานทำแล้ว เงินเราพร้อมก็ทำเลย หลายคนกลัว แต่เราไม่กลัวเพราะใจเราเป็นชายแล้วเราอยากเอาหน้าอกออก ก่อนทำเราก็ศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว ดูรีวิว ดูหลาย ๆ อย่าง เข้าพบจิตแพทย์ก่อนที่จะผ่าตัด จิตแพทย์ก็จะประเมินว่าเราพร้อมที่จะเปลี่ยนไปเป็นผู้ชายมั้ย พอจิตแพทย์ผ่าน คุณหมอก็ได้นัดวันผ่า พอผ่าเสร็จแล้วก็ไม่ใช่ว่าผ่าครั้งแรกแล้วมันดีเลย ตอนนั้นผ่าแล้วมันไม่สวยเลย เนื้อตรงหน้าอกก็ดูไม่เรียบ เป็นคลื่นๆ เราก็ไปแก้กับหมออยู่ 4 ครั้งทำจนกว่าเราจะพอใจ
Q : ก่อนผ่าตัดเราปรึกษาครอบครัวมั้ย แล้วเขาว่ายังไง ?
เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่เชิงไม่ว่า คือจริงๆ เราไม่ได้บอกเขาก่อนที่จะทำ (หัวเราะ) เขามารู้อีกทีคือเราทำเรียบร้อยแล้ว พอเราทำแล้วเขาก็ว่าอะไรไม่ได้แล้ว จริงๆ แล้วท่านก็ค่อนข้างตามใจเรา อยากทำอะไรก็ทำ
Q : กรณีการอัดคลิปชี้แจงเรื่อง ‘เทคฮอร์โมน’ ออกมาโพสต์ในแฟนเพจ
ประเด็นคือหลังจากเราไปออกรายการโทรทัศน์แล้ว เกิดความเข้าใจผิดขึ้นในกลุ่มทอมๆ ที่เขาหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ตอนเราไปออกรายการแล้วมันเป็นรายการสด ทุกอย่างต้องสั้น กระชับทำเวลาที่สุด ไม่มีโอกาสได้อธิบายอะไรเท่าไหร่ ตอนนั้นพิธีการถามเราว่า “จิ๊บเทคฮอร์โมนด้วยรึเปล่า ต้องกินเวย์ด้วยมั้ย” เราก็ตอบไปว่า "จิ๊บเทคฮอร์โมน แล้วจิ๊บก็กินเวย์ด้วย" แต่สื่อเข้าใจผิดเอาไปเขียนว่า “จิ๊บกินเวย์และฮอร์โมน” มันก็เลยกลายเป็นว่าเหมือนเราไปสร้างความเข้าใจผิดๆ ว่าจิ๊บกินฮอร์โมนเหรอ กินได้เหรอ อย่างนี้ก็ปลอดภัยทอมคนอื่นๆ ไปซื้อมากินได้สิ แต่จริงๆ แล้วคำว่า "เทค" ของเราคือเราไม่ได้กินฮอร์โมน แต่เราผ่านกระบวนการของแพทย์มาหมดแล้ว เราให้คุณหมอฉีดฮอร์โมนให้ที่โรงพยาบาล
Q : การกินฮอร์โมนเพศชายมันอันตรายมั้ย เตือนคนที่กำลังเข้าใจผิดเรื่องนี้หน่อย!
จิ๊บไม่แนะนำให้ซื้อฮอร์โมนที่ขายกันในท้องตลาดซึ่งมันเป็นพิษมันอันตรายต่อร่างกายเรา จริงๆ แล้วเท่าที่จิ๊บเคยศึกษามามันมีอยู่ในตารางเป็นชื่อยาแล้วไปเสิร์ชเอา 100% ดูดซึมแค่ 70% ซึ่งมันแทบไม่ได้อะไรเลย คือมันต้องกินในปริมาณที่มาก ซึ่งเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่ายากินไปเยอะก็ทำลายตับทำลายไต แต่ว่าเวลาพ่อค้าแม่ค้าขายเขาก็จะชอบพูดว่าไม่เป็นพิษ ไม่เป็นอันตรายนะ กินแล้วสามารถหยุดได้นะ คือเขาก็เป็นโฆษณาชวนเชื่อมากกว่า ดังนั้นอย่าไปกินเพราะยาพวกนี้ที่ขายกันตามตลาดหรือในอินเทอร์เน็ตมันไม่ถูกกฎหมายด้วย ถ้าจะซื้อก็ควรจะมีใบสั่งของแพทย์
ที่มา ,thairath.co.th
0 comments:
Post a Comment