จับไอ้หื่นบุกปล้ำแม่เฒ่า โยงคดีฆ่าข่มขืนต่อเนื่อง

รวบหลานชายกามวิปริตปีนบ้านบุกปล้ำแม่เฒ่าวัย 81 ปี เหยื่อสู้สุดฤทธิ์พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ โดนไอ้หื่นอัดน่วม ชาวบ้านได้ยินเสียงรีบพังประตูช่วยรอดหวุดหวิด ก่อนระดมกำลังตามล่าจนพบตัว รุมตื้บอ่วมก่อนจับส่งตำรวจ พอเห็นหน้าถึงอึ้ง เชื่อว่าไอ้หื่นรายนี้เชื่อมโยงคดีข่มขืน-ฆ่าหญิงชราในพื้นที่ภาค 7 มาหลายราย ด้านรอง ผบช.ภ.1 รุดสอบปากคำและเก็บดีเอ็นเอ ส่งตรวจทันทีว่าตรงกันหรือไม่ พร้อมส่งรูปคนร้ายให้ทุก สน.ที่เกิดเหตุตรวจสอบรูปพรรณกับเหยื่อด่วน



เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 ส.ค.58) พ.ต.อ.พีระพันธ์ จันทร์เทียน ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ภ.จว.อ่างทอง เข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.ตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เพื่อเก็บหลักฐานหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นายไพฑูรย์ ปุยเงิน อายุ 32 ปี ได้ปีนเข้าไปทำร้ายร่างกาย และพยายามข่มขืนนางปุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 81 ปี ซึ่งหลังจากเข้าตรวจสอบ พบภายในบ้านมีร่องรอยการต่อสู้ ที่นอนกระจัดกระจาย นอกจากนั้นยังพบเส้นผมของนางปุ้ยตกอยู่หลายจุด และมีดพร้าตกอยู่อีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจึงเก็บลายนิ้วมือเพื่อเป็นหลักฐาน


จากการสอบสวนนางปุ้ย ที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ พบว่านางปุ้ยอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ดวงตาทั้ง 2 ข้างเขียวช้ำ ลำคอมีร่องรอยถูกปีบ ซึ่งนางปุ้ยได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปอยู่กับลูกสาวที่จังหวัดจันทบุรีและเพิ่งกลับมาอยู่บ้านเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา พอมาถึงบ้านก็พบว่าที่บ้านมีขโมยเข้ามาขโมยของตนจึงไปแจ้งความไว้โดยยังไม่ได้โทษใคร แต่พอมาเมื่อคืนเวลาประมาณ 03.30 น. ตนสังเกตว่ามีคนพยายามเข้ามาในบ้านจึงลุกเปิดไฟก็พบว่าเป็นนายไพฑูรย์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานห่างๆ จึงร้องขอความช่วยเหลือ แต่นายไพฑูรย์วิ่งเข้ามาคร่อมร่างตนและบีบคอ พร้อมพูดว่า เมื่อ 2 วันทำอะไรไว้ และขอมีอะไรด้วย จากนั้นตนพยายามต่อสู้ดิ้นรน และร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย โดยตนใช้มือฟาดหน้าคนร้ายหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ถูกคนร้ายทุบตี ก่อนคนร้ายคว้ามีดขึ้นมา จึงคว้ามือแย่งมีดกัน ก็พอดีเป็นจังหวะที่นายหนึ่ง เพื่อนบ้านได้ยินเสียงตนพังประตูเข้ามาช่วย คนร้ายจึงกระโดดบ้านหนีไป


ด้าน พ.ต.อ.พีระพันธ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งตำรวจรีบนำตัวนางปุ้ยส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายนั้นในเวลา 05.00 น. ของวันเดียวกัน ชาวบ้านได้ไปพบนอนอยู่ใต้ต้นตะขบห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไม่ไกล จึงรุมซ้อมและจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นนายไพฑูรย์ยังให้การปฏิเสธโดยบอกว่าได้ไปดื่มเหล้าและเสพยามา กลัวตำรวจจับเลยไปนอนใต้ต้นตะขบ จึงนำตัวนายไพฑูรย์ไปตรวจร่างกายหาร่องรอยขีดข่วน อย่างไรก็ตาม มีพยานหลักฐานที่มั่นใจว่านายไพฑูรย์เป็นคนลงมือ แต่ก็ต้องหาหลักฐานให้รัดกุม สำหรับบ้านนายไพฑูรย์และบ้านของนางปุ้ยนั้นอยู่ติดกันมีเพียงสังกะสีกั้นเท่านั้น


ความคืบหน้าเหตุการณ์นี้โดยเมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ศรนิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1.ได้เดินทางมาสอบสวนนายไพฑูรย์ด้วยตนเอง เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนหญิงชราในท้องที่ จ.สมุทรสาคร จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสงคราม หลังจากสอบปากคำและดูภาพสเกตช์พบว่ามีลักษณะคล้ายกันมาก แต่นายไพฑูรย์มีหนวดเท่านั้น จึงสั่งให้นายไพฑูรย์ไปโกนหนวดเคราออก เพื่อมาเปรียบเทียบกับภาพสเกตช์และพอมาเปรียบเทียบก็มีลักษณะคล้ายมากขึ้น



พล.ต.ต.ศรนิตย์ กล่าวว่า หลังรับรายงานจากทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทองว่า ในท้องที่ สภ.วิเศษชัยชาญ มีเหตุพยายามข่มขืนหญิงชราและสามารถจับตัวผู้ต้องหาได้ และที่สำคัญมีลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในท้องที่หลายจังหวัดในภาค 7 และเท่าที่ตรวจสอบประวัติของนายไพฑูรย์ก็พบว่า นายไพฑูรย์เคยโดนจับกุมข้อหาลักทรัพย์เมื่อปี 2550 ท้องที่ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง และได้ถูกปล่อยตัวออกไปเมื่อปี 2552 และไปเช่าห้องอยู่ที่วัดตึกมหาชัย โดยพักอาศัยอยู่กับภรรยา โดยทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งเกี่ยวกับธุรกิจแพปลา ทำงานอยู่ได้ปีเศษก็ออกจากงานไปขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่วินหมวดหมึกได้ 4 เดือน แล้วไปทำงานรับจ้างบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.มหาชัย จ.สมุทรสงคราม โดยทำได้แค่ปีเดียวก็เลิกอีก และมาอยู่เช่าบ้านที่ใกล้กับวัดม่วงใน จ.อ่างทองเพื่อทำงานร้านส่งหินทราย โดยพักอยู่กับภรรยาและลูกได้ 2 ปี ก็ออกมาอยู่บ้านของตนเองใน ต.ตลาดใหม่ อ.วิเศษชัยชาญ เพราะได้เลิกกับภรรยา


จากข้อมูลดังกล่าวได้สอดคล้องกับคดีในท้องที่สมุทรสาคร ในวันที่ 26 ก.ย.53 ที่หญิงชราวัย 70 ปี ถูกข่มขืน วันที่ 10 พ.ย.53 ท้องที่ จ.นครปฐม หญิงชราวัย 71 ปี ถูกข่มขืน วันที่ 8 ม.ค.55 ท้องที่ สภ.สมุทรสงคราม หญิงชราวัย 70 ปี ถูกข่มขืน วันที่ 23 มี.ค.56 ท้องที่ จ.นครปฐม หญิงชราวัย 75 ปี ถูกข่มขืน และอีกหลายท้องที่มีลักษณะเดียวกัน จึงต้องทำการสอบสวนและนำดีเอ็นเอไปตรวจสอบหากตรงกันถือว่าโชคดีมาก ตอนนี้ได้ส่งภาพคนร้ายไปยังท้องที่ต่างๆ แล้วเพื่อให้ทำการเปรียบเทียบ และผู้ใดที่เคยถูกก่อเหตุก็สามารถมาดูตัวคนร้ายได้ที่ สภ.วิเศษชัยชาญ

ที่มา,banmuang.co.th