
ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนนี้ พ.ร.บ.ทวงถามหนี้จะมีผลบังคับใช้ เพื่อคุ้มครองลูกหนี้ และช่วยไม่ให้เกิดการทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม โดยกำหนดโทษจำคุก 5 ปี และปรับสูงสุด 5 แสนบาท
รัฐบาลเตรียมบังคับใช้ พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนนี้ โดยแบ่งเป็นสองส่วน คือใช้กับบุคคลทั่วไป ที่ประกอบอาชีพทวงหนี้เปิดบริษัทรับติดตามหนี้สิน รับคดีมาจากสถาบันการเงิน และส่วนที่สองใช้กับทนายความ
สาระสำคัญ คือ บุคคลผู้ประกอบธุรกิจทวงหนี้ ต้องจดทะเบียนประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต่อนายทะเบียน คือ กระทรวงมหาดไทย ส่วนผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ที่เป็นทนายความ ให้จดทะเบียนกับสภาทนายความ ผู้ฝ่าฝืนไม่ไปจดทะเบียนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ให้ที่ทำการปกครอง หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ มีอำนาจรับร้องเรียนการทวงหนี้ผิดกฎหมาย ติดตามพฤติกรรมของผู้ทวงถามหนี้
ส่วนวิธีการทวงหนี้ ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ใช้วาจาดูหมิ่น แจ้ง หรือเปิดเผยตัวลูกหนี้ ใช้ข้อความสื่อความหมายในการทวงถามไม่เหมาะสม ห้ามทวงถามหนี้ที่เป็นเท็จ อ้างว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ ทนายความ สำนักงานกฎหมาย อ้างว่าถ้าไม่จ่ายจะถูกดำเนินคดี หรือถูก อายัดเงินเดือน ห้ามทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินกำหนด ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ไปทวงถามหนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง
และให้ลูกหนี้ที่เดือดร้อนจากพฤติกรรมดังกล่าวไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการติดตามการทวงถามหนี้ หากถูกละเมิดสิทธิ์ และหากผู้ทวงหนี้ฝ่าฝืนกฎหมายฉบับนี้ต้องระวางโทษจำคุก 3-5 ปี หรือปรับ 300,000-500,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบทห้ามทวงหนี้นอกเวลาทำการด้วย หรือ เกินเวลา 18.00 น.
นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความฯ ระบุว่า หลักการของการทวงถามหนี้ทางแพ่ง จะใช้มาตรการทางอาญามาบังคับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทางศาลในการทวงถามหนี้ การข่มขู่ทุกรูปแบบ ถือว่าเป็นการกระทำความผิดอาญา เป็นการละเมิดสิทธิลูกหนี้ การทวงถามหนี้ที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาก็เป็นเหตุหนึ่งที่นำมาบรรจุไว้ในกฎหมายฉบับนี้ และ กฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้สังคมเข้าสู่การบังคับใช้กฎหมายด้วยหลักนิติธรรมที่แท้จริง
ด้านนายวีระศักดิ์ โชติวานิช ทนายความ ระบุว่า ปัจจุบันยังมี กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 686 เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ให้เจ้าหนี้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด และ เจ้าหนี้จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวจะไปถึงผู้ค้ำประกันไม่ได้ รวมทั้งการทวงหนี้นอกเวลา กระโดดเกาะรถ ดึงกุญแจ ทำไม่ได้ รวมทั้งทหาร ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รับงานติดตามทวงหนี้ จะทำไม่ได้อีกต่อไป
ที่มา ,news.voicetv.co.th
0 comments:
Post a Comment