Wednesday, September 23, 2015

Tagged Under:

จับแล้ว‘หมอผีอ๋อง’แก๊งฉกกระโหลกทำคุณไสย จับแล้ว‘หมอผีอ๋อง’แก๊งฉกกระโหลกทำคุณไสย เพื่อเอาไปตัดแบ่งขาย ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์

By: news media On: 7:40 PM
  • Share The Gag
  •  วันที่ 24 กันยายน  2558  พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.ต.มานิตย์ วงศ์เส สว.สส. , ร.ต.อ.วิบูลย์ นนทะแสง รอง สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ได้เข้าจับกุม นายอาทิตย์ คงกะเรียน หรืออาจารย์อ๋อง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319/153 หมู่ 7 บ้านเก่าน้อย ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะนั่งรอพี่สาวของนายอาทิตย์ ทำผมที่ร้านเสริมสวย บริเวณสี่แยกธิเบต ถ.อดุลเดช เทศบาลนครอุดรธานี ตามหมายจับของศาล จ.อุดรธานี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” หลังจากที่ช่วงบ่ายวันนี้ตำรวจ สภ.นาด้วง จ.เลย และ สภ.น้ำโสม และตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ได้ทำการจับกุม นายณรงค์ ภูมิภูชิต หรือ อาจารย์อึ่ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 6 บ้านนาต้อง ต.นายูง อ.นายูง จ.อุดรธานี ขณะหลบซ่อนตัวที่บ้านภรรยาที่อยู่ในเขต อ.นาด้วง จ.เลย

              จากการสอบสวนนายอาทิตย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายณรงค์ หรืออาจารย์อึ่ง ขโมยตัดส่วนกะโหลกศีรษะ จากสุสานป่าช้าวัดนาเมืองไทย ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมาจริง โดยตนได้กะโหลกส่วนหน้าผาก และแบ่งส่วนผ่าครึ่ง แบ่งกันกับนายอาทิตย์ โดยกะโหลกส่วนหน้าผากได้นำมาทำปั่นเหน่ง และซ่อนเก็บไว้ที่ต้นรักซ้อนภายในบ้านพักที่เป็นอาศรมที่บ้านเก่าน้อย ส่วนเศษกะโหลกที่เหลืออีก 2 ชิ้น ได้ห่อใส่ผ้าขาว พร้อมมีดไปวางไว้ที่คอสะพานข้ามลำห้วยบ้านหวาย ต.หนองบัว ส่วนค้อนที่ใช้ทุบเบ้าบรรจุศพและใช้ทุบกะโหลกได้นำไปพาดรางรถไฟใกล้กับจุดที่นำกะโหลกไปวางไว้


              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจนำตัวนายอาทิตย์ ไปตรวจค้นได้ของกลางที่เป็นกะโหลกส่วนหน้าผากที่นายอาทิตย์ นำมาตัดเป็นวงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ซม. และเศษชิ้นส่วนกะโหลกด้านขวาอีก 2 ชิ้น จึงนำตัว พร้อมของกลางกลับมาทำการสอบสวนอีกครั้ง โดยนายอาทิตย์ ให้การว่า ได้เรียนวิชาเรื่องไสยศาสตร์มากับอาจารย์หมอไสยศาสตร์ชาวเขมร ที่ไปรู้จักกันที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นได้เดินทางกลับมาตั้งตัวเป็นอาจารย์สักยันต์ให้กับผู้ที่นับถือ พร้อมรับทำมนต์ดำต่างๆ จนเมื่อประมาณ 2 เดือน ที่ผ่านมา น.ส.บังอร หรือออม ศรีนานาม สาวทอมที่ถูกจับก่อนหน้านี้ได้มาขอเป็นลูกศิษย์ โดยต้องการเรียนวิชาพรายกระซิบ ซึ่งตนบอกต้องใช้กะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากมาทำปั้นเหน่ง จึงติดต่อให้นายณรงค์ หรือ อาจารย์อึ่ง ที่เป็นอาจารย์ของตนอีกคน ให้หากะโหลกผีตายโหง  กระทั่งพบศพของนายธีระพงษ์ ที่ตายโหงฝังอยู่ที่สุสานวัดป่านาเมืองไทย อ.น้ำโสม

              “หลังจากนั้นผมมีธุระที่ต้องไปแถวนั้น ก็เลยบอก น.ส.ออม ให้ไปด้วย โดยมีหญิงสาวอีกคนที่จะมาทำพิธีกับผมติดรถมาสด้า 2 สีขาวของผมไปด้วยเพื่อไปขโมยกะโหลกศีรษะ และได้ไปรับนายณรงค์ พร้อมค้อน และมีดสั้นพับ ไปลงมือขโมยตัดกะโหลกศีรษะศพ โดยมีผมกับนายณรงค์ และ น.ส.ออม ลวงไปก่อเหตุ เมื่อได้กะโหลกศีรษะศพ ก็ขับรถไปที่สำนักฤาษีบ้านนาต้อง ของนายณรงค์ เพื่อแบ่งชิ้นส่วนกะโหลก โดยผมนำส่วนหน้าผากมาทำปั้นเหน่งให้ น.ส.ออม และเอาเศษกะโหลกที่ได้มาห่อผ้าขาวไปวางที่คอสะพานที่เป็นทางสามแพร่ง เพื่อให้วิญญาณได้ออกมาหลอกผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้น จะได้ให้พิธีเกิดความขลังมากขึ้น” นายอาทิตย์ กล่าว

              นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า จากนั้นตนได้ให้คาถาใบลานกับ น.ส.ออม เพื่อนำไปสวดทำพิธีพรายกระซิบ โดยทำพิธีสวดในวันอังคารขึ้น 3 ค่ำ ที่จะเป็นวันที่ทำพิธีขลังที่สุด แต่ น.ส.ออม สวดทำพิธีไม่สำเร็จ วิญญาณที่อยู่ในปั้นเหน่งไม่สามารถเรียกวิญญาณอื่นที่มีคาถาแก่กล้ามาทำพรายกระซิบได้ ซึ่งการทำพรายกระซิบ เพื่อให้วิญญาณบอกหวยได้ แต่เมื่อทำไม่สำเร็จ จึงเก็บปั้นเหน่งไว้ที่ต้นรักซ้อน เพื่อให้วิญญาณแก่กล้าขึ้น ก่อนจะรอทำพิธีใหม่อีกครั้ง แต่ก็มาถูกจับกุมกันเสียก่อน ซึ่งเมื่อไปนำกะโหลกคืนมา ตนได้เชิญวิญญาณให้กลับมาด้วยแล้ว เพื่อให้ได้กลับไปอยู่ที่บ้านของเขา

              ด้าน พ.ต.ท.มานิตย์ วงศ์เส สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายอาทิตย์ ยังอยู่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมตามหมายศาล ซึ่งให้การซัดทอดว่า น.ส.บังอร หรือ ออม เป็นต้นคิดที่จะทำพิธี ซึ่งวันก่อเหตุมี น.ส.ออม นายอาทิตย์ และนายณรงค์ เป็นผู้ลงมือขโมยกะโหลกศีรษะศพ ส่วนหญิงสาวอีกคนรออยู่บนรถ ไม่ได้ร่วมก่อเหตุ โดยนายณรงค์ ทางตำรวจ สภ.น้ำโสม ถูกจับกุมตัวมาจาก สภ.นาด้วง ส่วนรถยนต์ของกลางที่นายอาทิตย์ ขับไปจอดซ่อนไว้ที่ อ.คำตะกร้า จ.สกลนคร ได้ติดตามคืนมา และจะนำตัวนายณรงค์ และนายอาทิตย์ ไปให้ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี มาแถลงข่าวในเวลา 10.00 น. นี้อีกครั้ง

    ที่มา:komchadluek

    0 comments:

    Post a Comment