จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครไทย ได้ควบคุมตัวนายสน ขึ้นรถเพื่อไปฝากขังส่งฟ้องที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกต่อไป เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสนว่า ยอมรับสารภาพหรือไม่ว่าได้ข่มขืนน้องพิ้งค์ด้วย นายสนตอบว่า ยอมรับ หลังจากก่อนหน้านี้ยอมรับแค่ว่า ใช้เชือกรัดคอฆ่าน้องพิ้งค์เท่านั้น
โดยเจ้าหน้าได้นำนายสนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการส่งฟ้องใน 4 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดอาญา, ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้เด็กนั้นถึงแก่ความตาย, บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ลักทรัพย์ในเคหสถาน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เข้าไปตรวจหลักฐานเพิ่มเติมและสามารถค้นหา เชือกที่ใช้ก่อเหตุรัดคอได้ พร้อมโน้ตบุ๊คของ ด.ญ. และยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลูกซองสั้นได้ ทำให้สำนวนคดีมีความรัดกุมมากขึ้น
ทั้งนี้ การที่ให้นายสนขอขมาต่อหน้ารูปน้องพิ้งค์ เพื่อเป็นการลดกระแสมวลชน และเป็นการทำตามความต้องการของประชาชน โดยจำเป็นต้องให้ทำพิธีขอขมาที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพราะถ้าไปยังบ้านผู้เสียชีวิต เกรงว่าจะเกิดความรุนแรง
ที่มา: sanook
0 comments:
Post a Comment