Wednesday, May 4, 2016

Tagged Under:

ราชันปาดเหงื่อ! เฉือนหืด 'เรือใบ' 1-0 ทะลุชิงดำ ชปล. ชนตราหมี

By: news media On: 6:59 PM
  • Share The Gag
  • พลพรรคราชันชุดขาวอาศัยจังหวะเกมรุกที่เฉียบคมกว่า ได้ประตูชัยในช่วงครึ่งแรก เฉือนเอาชนะผู้มาเยือนอย่าง "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ไปได้แบบหวุดหวิด 1-0 ลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับคู่ปรับร่วมเมือง แอตเลติโก มาดริด ในช่วงปลายเดือนนี้...

    วันที่ 5 พ.ค. การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2015-16 ในรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ซึ่งเป็นการดวลกันระหว่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เปิดบ้านที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาเบว พบกับพลพรรค "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยในเกมแรกทั้งสองทีมเสมอกันมา 0-0

    เปิดฉากครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังตัว สู้กันอยู่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ และไม่ค่อยมีโอกาสทำประตูที่จะแจ้งมากนัก จนมาถึงนาที 12 เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อนจากลูกเปิดของ ดานี การ์บาฆาล ไปหน้าประตูให้กับ คริสเตียโน โรนัลโด ขึ้นโขกเน้นๆ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ  

    แต่แล้วในนาที 20 เรอัล มาดริด ก็ได้ประตูขึ้นนำสมใจ 1-0 ดานี การ์บาฆาล ไหลทะลุช่องให้กับ แกเร็ธ เบล หลุดเข้าไปยิงมุมแคบแฉลบขา แฟร์นานโด เข้าประตูไป  


    ผู้เล่น เรอัล มาดริด เข้ามาร่วมแสดงความดีใจกับ "แกเร็ธ เบล" ที่ทำให้ทีมได้ประชัย
    ถัดมาในนาที 36 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสขยับสกอร์อีกครั้ง เมื่อ เปเป้ แตะบอลเข้ากลางให้กับ เซร์คิโอ รามอส ได้ชาร์จจ่อๆ หน้าประตู แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน  

    กระทั่งในช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 44 ทีมเรือใบสีฟ้า พลาดโอกาสตีเสมอ จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรุน ใส่พานให้กับ แฟร์นานดินโญ ตะบันเต็มข้อด้วยขวา บอลพุ่งเลียดชนโคนเสาแรกกระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังนำอยู่เพียงแค่ 1-0 เท่านั้น  


    "เซร์คิโอ รามอส" พลาดโอกาสมีชื่อบนสกอร์บอร์ด เมื่อไลน์แมนปฏิเสธลูกชาร์จจ่อ ๆ ในครึ่งแรก
    เริ่มเกมในครึ่งหลัง ยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่เปิดเกมรุกเข้าใส่คู่ต่อสู้อยู่เป็นส่วนใหญ่ และมาได้ลุ้นอีกครั้งในนาที 52 เมื่อ แกเร็ธ เบล วางบอลเข้าแนวรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้กับ ลูกา โมดริช หลุดเข้าดวลเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท แต่จังหวะสุดท้ายกลับถูกเซฟเอาไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ  

    ในนาที 63 ลูคัส วาสเกวซ เปิดเตะมุมทางฝั่งซ้ายไปหน้าประตูให้กับ แกเร็ธ เบล สะบัดเปลี่ยนทางเต็มหน้าผาก แต่บอลเจ้ากรรมไปชนสามเหลี่ยมกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย


    "คริสเตียโน โรนัลโด" แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ในครึ่งหลัง แต่ก็คงอันตรายอยู่เสมอ
    ท้ายเกมนาที 84 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ฟรีคิกจากบริเวณริมเส้นฝั่งขวา เควิน เดอ บรุน ลักไก่ยิงอัดเข้าไปที่เสาแรก แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

    และในช่วงท้ายเกมนาที 88 แซร์คิโอ อเกวโร ลากบอลหลบกองหลังเจ้าถิ่นเข้ากลาง ก่อนตัดสินใจบรรจงปั่นด้วยขวาแต่บอลเฉียดคานบนออกไปอย่างน่าเจ็บใจ


    "เซร์คิโอ อเกวโร" กับสีหน้าแห่งความผิดหวังหลังจบเกมนี้
    ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบหวุดหวิด 1-0 รวมผลสองนัด ทีมราชันชุดขาว เข้ารอบด้วยสกอร์ 1-0 ลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปทำศึกแห่งศักดิ์ศรีกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ที่สังเวียนซาน ซิโร เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี.

    11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

    เรอัล มาดริด : เคย์เลอร์ นาบาส, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, มาร์เซโล, ดาเนียล การ์บาฆาล, ลูกา โมดริช, แกเร็ธ เบล, โทนี โครส, อิสโก, คริสเตียโน โรนัลโด, เฆเซ

    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, บาการี ซาญา, แวงซองต์ กอมปานี, กาแอล กลีชี, นิโคลัส โอตาเมนดี, ยาย่า ตูเร่, เฆซุส นาบาส, แฟร์นานโด, แฟร์นานดินโญ, เควิน เดอ บรุน, เซร์คิโอ อเกวโร

    ที่มา: thairath

    0 comments:

    Post a Comment