(25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. นช.ธวัชชัย แหวนทอง อายุ 27 ปี นักโทษชายคดีร่วมกันครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่าย 1,959 เม็ด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.59 ขณะที่ นช.ธวัชชัย ขี่รถจักรยนต์พา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปีแฟนสาวหนีออกจากงานคอนเสิร์ต ไปรับยาบ้าจากชายชาวลาวเพื่อนำไปส่งลูกค้าชาวไทย แต่ถูกตำรวจ ตชด.ร่วมกับทหารพรานสะกดรอยติดตามจับกุมได้ นช.ธวัชชัยรับสารภาพ ส่วน น.ส.บี แฟนสาวให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับแฟนหนุ่ม พร้อมกับติดตามจับกุมผู้ให้การสนับสนุนในการพาหลบหนีก่อนขึ้นรถกลับเรือนจำบึงกาฬ
โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นช.ธวัชชัย มาเบิกความเป็นพยานศาลคดีเด็กและเยาวชนให้กับ น.ส.บี(นามสมมติ) อายุ 17 ปีแฟนสาวในคดีร่วมกันครอบครองยาบ้า 1,959 เม็ด จนถึงช่วงเวลาเย็น ร.ต.ท.สุพิน ศรีคำภา ตำรวจประจำศาลกับพวกได้ควบคุมตัว นช.ธวัชชัยออกจากห้องขังใต้ถุนศาลจะมาขึ้นรถกลับเรือนจำจังหวัดบึงกาฬ
ระหว่างนั้นนช.ธวัชชัย ได้ทำการรูดโซ่ตรวจออกจากข้อเท้าด้านซ้ายและถือเอาโซ่ตรวจวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิกสีดำ-ขาว ทะเบียน ษทร 741 กรุงเทพมหานคร ที่มีผู้หญิงสวมเสื้อคลุมและหมวกกันน็อคขี่มารับถึงในบริเวณศาล แล้วขับพาหนีเจ้าหน้าที่จึงออกติดตามไล่ล่าไปอย่างกระชั้นชิด พบเพียงรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะข้างหนองโง้งห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาหลังจากมีการประชุมวางแผนจับกุม พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา รอง ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬและ ร.ต.อ.รามสูรย์ บุญข่าย รอง ผบ.ตชด.244 พร้อมพวก เข้าจับกุมนางสาวโสภิญ อายุ 18 ปี แฟนเพื่อนของนช.ธวัชชัย ที่เช่าอยู่หอพัก ในต.วิศฺิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ได้พร้อมของกลาง มีเสื้อลายดอกไม้สีฟ้าขาวที่ใส่ไปรับนช.ธวัชชัย และหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำ
จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 118 หมู่ที่ 11 บ้านแสนสุข ต.บึงกาฬ ที่ นช.ธวัชชัยหนีมากบดานอยู่กับ นายชัยมงคล อายุ 25 ปี เพื่อนอีกคน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้กระโดดหน้าต่างบ้านวิ่งหลบหนีจะเข้าไปในป่าละเมาะหลังบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ซุ่มรออยู่จับกุมตัวไว้ได้ เข้าตรวจค้นในบ้านพบโซ่ตรวนกองอยู่พร้อมอุปกรณ์คีมไขควงใช้ในการตัดโซ่ตรวนและชุดนักโทษจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นช.ธวัชชัย เผยวิธีการรูดโซ่ตรวนซึ่งไม่มีวิชาอาคมอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องว่า ขณะอยู่ในเรือนจำได้ใช้สายเชือกผ้ารัดหัวกางเกงสอดเข้าไปในวงห่วงโซ่ตรวน จากนั้นใช้เสื้อบิดเป็นเกลียวแล้วขันชะเนาะให้ห่วงโซ่ตรวนง้างออก จากนั้นก็ทำตัวเป็นปกติรอเวลามาขึ้นศาล ขณะที่ขังอยู่ใต้ถุนศาลจังหวัดบึงกาฬรอรถมารับกลับเรือนจำในช่วงเย็น จึงได้บอกให้ น.ส.โสภิญติดเครื่องรถรอจะวิ่งไปซ้อนรถให้พาหลบหนี จึงแจ้งข้อหาเป็นผู้ต้องขังหลบหนีจากการควบคุมระหว่างอยู่ในอำนาจควบคุมของศาล
ส่วน น.ส.โสภิน และ นายชัยมงคล ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ต้องขังหลบหนีจากการควบคุมระหว่างอำนาจควบคุมของศาล ควบคุมตัวทั้ง 3 คนส่ง ร.ต.อ.เจริญ แก้วแสนคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: sanook
0 comments:
Post a Comment