โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีเงินออมเฉลี่ย 5,076 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็นสัดส่วนเงินออมต่อรายได้ 18.8% และเมื่อเทียบหนี้สินต่อรายได้ของครัวเรือนในรอบ 11 ปี ตั้งแต่ปี 2550-2560 พบว่าหนี้สินต่อรายได้ในปี 2554 และ 2558 ต่ำสุดคือ 5.8 เท่าแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 6.6 เท่าในปี 2560 หรือเฉลี่ย 177,128 บาทต่อครัวเรือน โดยมีข้อสังเกตว่าครัวเรือนที่มีรายได้สูงจะมีค่าใช้จ่ายและหนี้สินสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของหนี้นอกระบบของครัวเรือนในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ 4.9% และมีหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ 3.7%
"ในช่วงครึ่งปีแรกพบว่าครัวเรือนที่มีหนี้สินคิดเป็น 51% ของครัวเรือนทั้งประเทศ หรือคิดเป็น 11 ล้านครัวเรือน โดยมีจำนวนหนี้สินเฉลี่ย 177,128 บาทต่อครัวเรือน หรือประมาณ 6.6 เท่าของรายได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในครัวเรือน แบ่งเป็น การใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค 40.3% ซื้อบ้านหรือซื้อที่ดิน 34% และหนี้เพื่อใช้ในการศึกษา 1.8% และการก่อหนี้เพื่อใช้ในการลงทุนและอื่นๆ แบ่งเป็น หนี้ใช้ทำการเกษตร 12.9% และใช้ทำธุรกิจ 10.5% โดยจะเห็นว่าสาเหตุการเป็นหนี้ส่วนใหญ่นำมาใช้ในครัวเรือน ซึ่งเป็นการก่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้" นายภุชพงค์ กล่าว
ที่มา: bangkokbiznews
0 comments:
Post a Comment