เด็กสาววัย 18 สุดทรมาน แบกก้อนมะเร็งบนไหล่ไร้เงินรักษา

เด็กสาว 18 ปี ยากจนป่วยมะเร็งมีก้อนเนื้อหนักกว่า 1 กิโลกรัมบนไหล่ พบอาการหนักไม่มีเงินรักษา พี่สาวยอมลาออกจากงานมาดูแล

(4 ก.ค.) นายมงคล แสนสุภา อายุ 60 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม นำสื่อมวลชน และผู้ใจบุญ เข้าไปตรวจสอบให้การช่วยเหลือ น.ส.ศศินา พิมพ์แพง หรือ น้องหนูนา อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนมหาชัยวิทยาคม ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม อยู่บ้านเลขที่ 73 บ้านมหาชัย หมู่ 2 ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม


ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเป็นเด็กกำพร้า ครอบครัวยากจน ต้องอาศัยอยู่กับป้า ซ้ำร้ายต้องทนทุกข์ทรมาน จากอาการป่วยเป็นโรคมะเร็ง มีเนื้อร้ายก้อนโตบริเวณหัวไหล่ขวา หนักประมาณ 1 กิโลกรัม และเป็นแผลเน่าเปื่อย มานานกว่า 1 ปี ล่าสุดอาการเริ่มโคม่าหนักขึ้น แผลเน่าเปื่อยเป็นหนอง เลือดไหลไม่หยุด และมีอาการเจ็บปวดทรมาน แต่ครอบครัวยากจน ไม่มีเงินรักษา จึงต้องยอมนอนทนทุกข์ทรมานตามยถากรรม

โดยที่ผ่านมา พยายามไปตรวจรักษาหลาย ครั้ง แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพียงพอ ทำให้มะเร็งร้ายลุกลาม เป็นเนื้อก้อนโต และเป็นแผลเน่าเปื่อย ซึ่งรักษาได้ตามสภาพ จนต้องหยุดเรียนกลางคันมานานนับปี ทำให้ชาวบ้านพบเห็นจึงเรียกร้องผ่านสื่อมวลชน เข้ามาตรวจสอบหาทางช่วยเหลือ เนื่องจากเคยเรียกร้องไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการดูแลให้การช่วยเหลือ

ล่าสุดทางพี่สาว คือ น.ส.ฐิติมา พิมพ์แพง อายุ 26 ปี ต้องกลับบ้านมาดูแล หลังไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด เพราะต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตกัน 2 พี่น้อง ทั้งนี้มารดาของทั้งคู่เสียชีวิตไปได้ประมาณ 10 ปี ส่วนพ่อได้ไปแต่งงานใหม่ ทำให้ 2 พี่น้อง ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต พี่สาวต้องหยุดเรียนไปทำงานรับจ้างตามโรงงานต่างจังหวัด เพื่อหาค่าใช้จ่ายมาดูแลน้องสาว

ด้าน นายมงคล แสนสุภา อายุ 60 ปี นายก อบต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม กล่าวว่า จากการสอบถามแพทย์ที่เคยตรวจรักษาระบุว่า เป็นโรคมะเร็งซาร์โคม่า ผ่าตัดรักษายากเพราะอยู่ใกล้เส้นเลือดใหญ่ และมีความเสี่ยงถึงเสียชีวิต ที่ทำได้คือรักษาตามอาการ เคยประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่เรื่องเงียบไป จนกระทั่งอาการทรุดเจ็บปวดทรมาน จึงต้องเรียกร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ

ล่าสุดภายหลังผู้ใจบุญทราบข่าว ต่างพากันบริจาคเงินสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังได้มีผู้ใจบุญบริจาคค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่เกินสิทธิการรักษาพยาบาล พร้อมได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลนครพนม มารับตำนำไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อหาทางดูแลช่วยเหลือ ส่วนการจะส่งตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องรอแพทย์ ตรวจวินิจฉัย โดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาทางรักษาต่อไป

เบื้องต้นได้มีการตั้งคณะกรรมการดูแล เปิดรับบริจาคช่วยเหลือ หากผู้ใจบุญ หรือผู้มีจิตศรัทธา ต้องการบริจาคช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ โทร.06-1473-8522 หรือ สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือ ได้ที่บัญชีเงินฝากของพี่สาวของเด็กโดยตรง เลขบัญชี 4911-129-845 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาแหลมฉบัง ชื่อบัญชี น.ส.ฐิติมา พิมพ์แพง เพื่อจะได้นำเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่อไป

ที่มา: sanook