อีกแล้ว! เมืองกรุง คนร้ายใจทมิฬมีดปาดคอฆ่าเปลือยสาวฉันทนาผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังย่านแสมดำ ทิ้งศพหมกกลางซอยเปลี่ยว ขณะที่ชุดสืบสวนตรวจกล้องวงจรปิด-สอบพยานแวดล้อม จ่อออกหมายจับวันนี้ หลังพบหลักฐานชาวพม่า พาซ้อนท้ายรถ จยย.ออกจากโรงงาน ก่อนไปนั่งร้านข้าวต้มแถวซอยสะแกงามจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น หลังพบผู้ตายกดเล่นไลน์กับชายอื่น ขณะที่ “รอง ผบก.น.9” ยังไม่ฟันธงเหยื่อถูกฆ่าข่มขืน ระบุต้องรอผลผ่าพิสูจน์
เมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 8 ก.ค.59 พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบริเวณท้ายซอยสะแกงาม 26 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นพร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.สำเริง ผลรอด ผกก.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุห่างจากปากซอย 500 เมตร อยู่ในพื้นที่จัดสรรประมาณ 20 ไร่ กั้นรั้วลวดหนามยาวตลอด ภายในรั้วพบศพ น.ส.ทุเรียน รอดคำทุย อายุ 24 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี พนักงานรายวัน แผนกฉีดพลาสติก ของบริษัท วนวิทย์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อฮาตาริ สภาพศพนอนหงายเปลือยกายจมกองเลือด ร่างกายเปลือยเปล่า สวมเพียงยกทรงสีชมพู สวมถุงเท้าสีชมพู มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอถูกปาดด้วยของมีคมจนหลอดลมขาด
นอกจากนี้ยังพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่ อกซ้าย 1 แผล หน้าท้องซ้าย 2 แผล ตามร่างกายมีร่องรอยขีดข่วน แผ่นหลังลงอักขระ 9 ยอด และสาริกา 1 คู่ หน้าท้องยังพบรอยสักรอบใบไม้ ตรวจสอบใกล้เคียงพบเสื้อยืดสีน้ำเงินของฮาตาริ มีรอยถูกแทงด้วยของมีคม 3 แห่ง กางเกงยีนสีน้ำเงินเปื้อนเลือดตกอยู่ในร่องน้ำ กางเกงในสีชมพู รองเท้าผ้าใบสีชมพู กระจัดกระจายรอบบริเวณ นอกจากนี้ยังพบหยดเลือดจากที่เกิดเหตุไปยังปากซอยเป็นระยะทาง 300 เมตร
จากการสอบสวน นางจิตรทิพย์ พรหมสุรินทร์ อายุ 55 ปี รองประธานชุมชนวัดสะแกงาม พบศพเป็นคนแรก ให้การว่า เมื่อเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมา ตนขี่รถ จยย.ออกจากบ้านพักซอยสะแกงาม 28 จะมุ่งหน้าไปซื้อกับข้าวที่ตลาดบางกระดี่ เพื่อเตรียมไปขายอาหารตามสั่งในโรงงานเอสเค ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน จู่ๆ นึกขึ้นได้ว่าลืมกุญแจเปิดเข้าโรงงานเอาไว้ที่บ้าน จึงขับรถ จยย.ย้อนกลับไปเอาโดยลัดเข้าทางท้ายซอยสะแกงาม 26 พบศพผู้ตายนอนอยู่ในสภาพจมกองเลือด
จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งตนคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเนื่องจากเลือดยังสด ประกอบกับซอยแห่งนี้เปลี่ยวมากตั้งอยู่หลังเมรุเผาศพวัดสะแกงาม และโรงเรียนวัดสะแกลามห่างกันแค่ 200 เมตร ตามปกติหลังสองทุ่มขึ้นไปก็ไม่มีรถหรือผู้คนใช้ซอยนี้สัญจรผ่านไปมาแล้ว
ด้านตัวแทนของบริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่าผู้ตายเป็นพนักงาน รายวัน เพิ่งมาทำงานเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายเคยมีแฟนแต่เลิกรากันไปแล้ว จากแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้ตายได้ทะเลาะกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่ง เป็นแฟนของเพื่อน จากนั้นได้โพสต์ด่ากันในเฟซบุ๊ค
ขณะที่ พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีความเป็นไปได้ที่จะมีมากกว่า 1 คน ส่วนสถานที่ลงมือฆ่าปาดคอนั้นน่าจะเป็นสถานที่พบศพเนื่องจากบริเวณนั้นมีกองเลือดเป็นจำนวนมากและพบเส้นผมหลุดเป็นกระจุกใหญ่ สำหรับหยดเลือดที่หยดเป็นทางยาวเจ้าหน้าจะนำมาตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นของคนร้ายหรือผู้เสียชีวิต ส่วนจะฆ่าข่มขืนหรือไม่นั้นต้องรอผลผ่าพิสูจน์จากทางแพทย์ อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมีความแค้นกับผู้ตาย เพราะเนื่องจากลงมือฆ่าแล้วจับแก้ผ้าเพื่อประจานก็เป็นได้
นอกจากนี้ยังมีแนวทางการสืบสวนทราบว่า หลังจากที่ผู้เสียชีวิตเลิกงาน ได้มีนายเน มิน อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า ที่เป็นคนงานแผนกเดียวกันกับผู้ตาย ซึ่งพักย่านบางบอน ได้ขับ จยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขี่ออกไปโดยมีคนผู้ตายซ้อนท้ายออกไปจากโรงงาน เวลาประมาณ 20.10 น. และพบว่าทั้งคู่ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้มแห่งหนึ่งหน้าปากซอยสะแกงาม 30 ขณะที่รับประทานอาหารผู้ตายได้เล่นไลน์ตลอดเวลาทำให้เกิดการยื้อแย่งโทรศัพท์ ก่อนทั้งคู่จะเช็คบิลออกจากร้านจนกระทั่งพบว่า น.ส.ทุเรียน ถูกฆ่าตาย
สำหรับนายเน มิน ทำงานที่โรงงานนี้มากว่า 3 ปี และมีภรรยาสาวชื่อ น.ส.เซน สัญชาติเดียวกัน ซึ่งกำลังท้องแก่ประมาณ 8 เดือน แล้วเคยมีปากเสียงกับผู้ตาย แต่ไม่รู้เรื่องอะไร โดยหลังจากเกิดเหตุทั้ง 2 ได้หายตัวไป ทั้งนี้ทางตำรวจสันนิษฐานว่าปมสังหารครั้งนี้เกิดจากเรื่องชู้สาว และเรื่องส่วนตัว แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้งได้ ต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา: banmuang
0 comments:
Post a Comment