Sunday, August 7, 2016

Tagged Under:

คดีหลอน! เรื่องจริงจากแฟ้มคดีฆาตกรรม วิญญาณเมียตามอาฆาตจนต้องมอบตัว

By: news media On: 3:23 AM
  • Share The Gag
  •  วิญญาณหลอน !...สารภาพฆ่าเมีย

              จู่ๆ คดีฆาตกรรมที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานมานานเกือบปีก็คลี่คลายลงอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อคนร้ายถูกจับคดีปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม ยอมจำนนเปิดปากถึงคดีที่เขาก่อขึ้นในอดีต โดยตำรวจไม่ได้เอ่ยปากถามหรือคาดคั้นเลยแม้แต่น้อย และคำสารภาพนี้ก็ทำเอาตำรวจแทบช็อก

              "วิญญาณเมียผมตามหลอกหลอนตลอด วันนี้ผมสบายใจที่สุด ผมขอรับใช้กรรม ไม่หนีไปไหนอีกแล้ว !?!"

              เมฆฝนมืดครึ้มมาแต่ไกล แต่ ด.ต.วิมล แก้วชู ด.ต.สุทัศน์ ทิพย์มโนสิงห์ และ ส.ต.อ.วินัย ชัยแก้ว ผบ.หมู่ กก.2 ทล.4 ก็ยังคงตั้งด่านตรวจผู้กระทำผิดกฎจราจรบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3-4 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ต่อมามีรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีดำ ทะเบียน ผก 4408 ขอนแก่น วิ่งมาด้วยความเร็วในช่องขวาสุด ทั้งสามจึงให้สัญญาณไฟวับวาบเรียกให้หยุดรถชิดขอบทาง

              จากการตรวจสอบเบื้องต้นคนขับชื่อ "สมศักดิ์ พันสระน้อย" อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 437/2 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แสดงท่าทางมีพิรุธจนสังเกตเห็นได้ชัด เมื่อมองป้ายวงกลมหน้ากระจกก็พบว่ามีการแก้ไขดัดแปลงจากวันที่ 8 มกราคม 2552 เป็นวันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 จึงรายงานให้ พ.ต.ท.พัฒนา รอบรู้ สว.ส.ทล.กก.2 ทล.4 ทราบ

              เมื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับรถต้องสงสัยก็ได้ข้อมูลว่า เป็นของ "ดาริกา พันสระน้อย" อายุ 42 ปี ขาดต่อภาษีประจำปี จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจทางหลวง สมศักดิ์ ยิ่งมีท่าทางลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด ตกประหม่า พูดจาวกวน แม้ตำรวจจะขอหมายเลขโทรศัพท์ดาริกาที่เขาบอกว่าเป็นภรรยาก็อ้างว่าไม่สามารถติดต่อได้

              เวลาผ่านไป 10 นาที ระหว่างตำรวจพยายามตรวจสอบประวัติของสมศักดิ์อย่างละเอียด จู่ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมาหน้าตาเฉย ทำเอาตำรวจงุนงงไปตามๆ กัน ?

              "วันนี้ผมสบายใจมากที่สุด ผมอยากชดใช้กรรม ไม่อยากหลบหนีอีกต่อไปแล้ว ผมคิดว่าผมไม่มีตัวตน รถคันนี้ก็ไม่มีตัวตน จะไปต่อทะเบียนก็ไม่ได้ เลยต้องทำเอกสารปลอมขึ้นมา...ผมฆ่าเมียตัวเองที่เกาะพะงัน หนีเพราะกลัวถูกจับ ต่อไปนี้ผมจะไม่หนีอีกแล้ว จะขอชดใช้กรรมที่ก่อ"

              เมื่อตั้งสติได้ตำรวจจึงเข้าปลอบแล้วให้สมศักดิ์อธิบายถึงสิ่งที่เขาเพิ่งจะระบายออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จากนั้น พ.ต.ท.พัฒนา จึงประสานไปยัง สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี แต่ระหว่างรอคำตอบอย่างเป็นทางการ ได้ค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์กูเกิลก็ช่วยให้ทราบความจริงในบางส่วน ซึ่งยืนยันว่าสิ่งที่สมศักดิ์พูดออกมานั้น...เป็นความจริง !?!

              "ผมจำวันที่ฆ่าเมียไม่ได้ รู้แต่ว่าเกิดขึ้นประมาณปลายเดือนกันยายนปีที่แล้ว ช่วงที่นอนหลับพักผ่อน เมียเอ่ยปากขอให้โอนรถกระบะไปเป็นชื่อของแม่เธอ ผมไม่ยอมเลยทะเลาะกันอย่างรุนแรง ผมโมโหมากใช้มือบีบคอจนเมียขาดใจตาย หลังจากนั้นนำศพไปถ่วงน้ำ บริเวณหาดอ่าวบ้านท้องนายปาน รุ่งขึ้นก็ทำทีไปแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน ว่าเมียหาย ต่อมามีชาวบ้านมาพบศพ ก็ไปรับศพมาจัดงานอยู่ 7 วัน โดยไม่มีใครสงสัย...


               ...เวลาผ่านไปผมทำใจไม่ได้ที่พลั้งมือลงไป วิญญาณเมียตามหลอกหลอนผมอยู่ตลอดเวลา ตระเวนรับจ้างทำงานไปตามจังหวัดต่างๆ ก็ยังตามหลอกหลอนจนไม่เป็นสุข จึงตัดสินใจยอมรับผิด" นี่คือสาเหตุที่สมศักดิ์ตัดสินใจบอกความจริงกับตำรวจ แม้ว่าจะไม่สามารถพิสูจน์เรื่องของวิญญาณในแง่วิทยาศาสตร์ได้ ทว่าบันทึกคดีอาชญากรรมของ สภ.เกาะพะงัน ก็เป็นสิ่งบ่งชี้ได้อย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองผัวเมีย

              วันที่ 8 กันยายน 2551 พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน รับแจ้งพบศพบริเวณจุดชมวิวบนยอดเขาบ้านหินงาม หมู่ 7 บ้านโฉลกหล่ำ จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิต คือ ดาริกา พันสระน้อย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ 2 ต.โนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง เลือดไหลออกปากและจมูก ลำคอเขียวช้ำเหมือนกับถูกบีบอย่างรุนแรงจนกระดูกต้นคอหัก

              จากการสอบสวนทราบว่า ดาริกาเดินทางจากขอนแก่นมาหาสมศักดิ์สามีที่ทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างบนเกาะพะงัน ก่อนเกิดเหตุมีพยานพบเห็นทั้งสองที่สนามมวยไทยเกาะพะงันแล้วหายตัวไป กระทั่งมาพบศพดาริกาในเวลาต่อมา



              แนวทางการสืบสวนระยะแรกคือ สมศักดิ์เป็นคนหน้าตาดี มีผู้หญิงมาติดพันหลายคน ต่อมาดาริการะแคะระคายเกรงว่าสามีจะไปติดพันผู้หญิงอื่น จึงเดินทางมาหาบ่อยขึ้น หลังเกิดเหตุสมศักดิ์หายตัวไปจากพื้นที่ ตำรวจเชื่อว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของภรรยา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาถึง 2 ครั้ง แต่ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสมุยเห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอจึงให้ยกคำร้อง

              พ.ต.อ.จรูญ อุชุภาพ ผกก.สภ.เกาะพะงัน เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนเชื่อว่าสมศักดิ์เกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน แต่เมื่อพยานหลักฐานขาดน้ำหนักตำรวจก็พยายามต่อไป พอดีถูกจับในข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม แล้วรับสารภาพในคดีฆ่าเมียตัวเอง เบื้องต้นคงดำเนินคดีแรกก่อน ส่วนคดีฆ่าพนักงานสอบสวนจะนำบันทึกคำรับสารภาพมาประกอบสำนวน แล้วขออนุมัติหมายจับจากศาลอีกครั้ง

    ที่มา: tnews

    0 comments:

    Post a Comment