Tuesday, December 27, 2016

Tagged Under:

ปีใหม่เงินสะพัด1.5แสนล้าน

By: news media On: 11:21 PM
  • Share The Gag
  • ปีใหม่เงินสะพัด1.5แสนล้าน เคาท์ดาวน์4วัน2.8หมื่น

    “น.1”ล้างใบสั่งให้คนกรุง ปรับแค่100-เว้นพวกเมา

    ม.หอการค้าไทยคาดปีใหม่เงินสะพัดกว่า 1.5 แสนล้านบาท จากผลพวงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เผยผลงานรัฐบาลสอบผ่านฉลุย ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ได้คะแนน 7 เต็ม 10 ส่วน ททท.ชี้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 4 วัน จะมีเงินสะพัดกว่า 2.84 หมื่นล้านจากบรรดานักท่องเที่ยว ขณะที่ บ.ข.ส.แจ้งปรับ 54 เส้นทาง ขึ้นภาคเหนือเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนช่วงปีใหม่ ด้านคนกรุงเฮ ของขวัญปีใหม่จากตำรวจ ล้างใบสั่งลดเหลือ 100 ยกเว้นเมาจับ

    ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่เริ่มคึกคักทั่วไทยผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (27 ธ.ค.) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2560 ว่ามีความคึกคักด้วยมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลคาดว่าจะมีเงินสะพัดรวมที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อน 7.21% โดยแบ่งเป็นเงินสะพัดกรณีจากฐานปกติ มูลค่า 1.29 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4% ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ทำการสำรวจในรอบ 10 ปี และเงินสะพัดเพิ่มเติมจากมาตรการของรัฐอีก 20,744 ล้านบาท
              ด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจการให้คะแนนการทำงานรัฐบาลชุดนี้ ว่าคะแนนในความตั้งใจของรัฐบาลชุดนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 6.67 คะแนน แต่คะแนนผลการดำเนินการอยู่ที่ 6.27 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 โดยให้คะแนนความตั้งใจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด 7.04 คะแนน แต่คะแนนผลดำเนินการอยู่ที่ 6.32 คะแนน รองลงมาคือ การแก้ปัญหาคอรัปชั่น แก้ปัญหาสังคม แก้ปัญหาความขัดแย้ง และแก้ปัญหาภัยพิบัติ ตามลำดับ
              ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า คาดการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.59-3 ม.ค.60 รวม 4 วัน จะมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเที่ยวไทยประมาณ 375,500 คน เพิ่มขึ้น 5% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 5,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีใหม่ปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยบวกด้านการบิน คือ มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้าไทยทั้งสิ้น 65 เที่ยวบิน รวม 16,389 ที่นั่ง โดยบินเข้ากรุงเทพมากที่สุด 39 เที่ยวบิน รองลงมา คือ ภูเก็ต 23 เที่ยวบิน เชียงใหม่ 3 เที่ยวบิน โดยเป็นเที่ยวบินที่มาจาก 11 ประเทศ และมากที่สุดคือ จีน รัสเซีย สวีเดน และญี่ปุ่น
              สำหรับตลาดคนไทยเที่ยวไทยช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้ คาดว่าจะเกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศราว 4 ล้านคน คิดเป็นรายได้ 1.93 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 18 ล้านคน สร้างมูลค่ากว่า 3.6 พันล้านบาท และเมื่อรวมทุกกิจกรรมจากทุกกลุ่มตลาดท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่คาดว่าจะมีเงินสะพัดราว 2.84 หมื่นล้านบาท
              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ.ข.ส. แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถหมวด 2 สู่จังหวัดภาคเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้ประชาชนและลดปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันนี้-9 ม.ค.60 พลตำรวจเอกอำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) กล่าวว่า ด้วยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 จะมีประชาชนเดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ติดขัด
    ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทาง บ.ข.ส.จึงได้ทำหนังสือไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอเปลี่ยนเส้นทางเดินรถหมวด 2 ภาคเหนือชั่วคราว จำนวน 54 เส้นทาง ที่มีผู้โดยสารเต็มจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 9 ม.ค.60 เวลา 24.00 น. ดังนี้
              1.เริ่มต้นจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ไปตามถนนกำแพงเพชร 2 ขึ้นทางพิเศษศรีรัช ลงกาญจนาภิเษก ไปตามทางหลวงหมายเลข 9 แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 12 และเดินรถตามแนวเส้นทางเดิม เพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
              2.เริ่มต้นจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ไปตามถนนกำแพงเพชร 2 แยกซ้ายไปถนนรัชดาภิเษก แยกขวาไปตามประชาชื่น แยกซ้ายขึ้นทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษอุดรรัถยา แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 9 แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 12 และเดินรถตามแนวเส้นทางเดิมเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง สำหรับเส้นทางเดินรถ หมวด 2 ภาคเหนือ ที่อนุญาตให้เปลี่ยนเส้นทางเดินรถชั่วคราว มีจำนวน54เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-น่าน, กรุงเทพฯ-แพร่, กรุงเทพฯ-แม่สาย, กรุงเทพฯ-เชียงของ, กรุงเทพฯ-สระบุรี และกรุงเทพฯ-คลองลาน เป็นต้น

              สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ขอให้ประชาชนเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และขอให้ซื้อตั๋วโดยสารที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ ส่วนผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าขอให้ตรวจสอบจุดขึ้นรถที่ระบุหน้าตั๋วโดยสารให้ชัดเจนก่อนออกเดินทาง และหากต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม โทร.Call Center 1490 เรียก บ.ข.ส.ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์ www.transport.co.th
              ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าเที่ยวชมความสวยงามของพรรณไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่จัดแสดงอยู่ภายในพื้นที่ ทั้งสวนกลางแจ้งและในส่วนจัดแสดงต่างๆ เช่น ที่เรือนไม้ดอก ที่มีการรวบรวมและจัดแสดงกล้วยไม้และไม้ดอกสีสันสวยสดนานาชนิดไว้อวดโฉมให้นักท่องเที่ยวชื่นชมอย่างเพลิดเพลินใจ หรือที่เรือนพืชเมืองหนาว ที่มีการสาธิตและจัดแสดงการเพาะปลูกพืชเมืองหนาว ทั้งสตรอเบอร์รี่ และพืชผักต่างๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าได้สั่งการถึง บก.น. 1-9 มอบของขวัญเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ให้กับประชาชน อย่างน้อย 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการตรวจสภาพรถก่อนเดินทาง 14 จุด และกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) 2.โครงการทำดีมีข้าวให้ แจกให้กับผู้ขับขี่ที่ไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร 3.โครงการ Police i lert U เป็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้สนับสนุนงานจราจร เช่น เกิดอุบัติเหตุ รถชน รถเสีย การจราจรติดขัด ฯลฯ สามารถแจ้งเหตุ ระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุ เพื่อความสะดวกและให้บริการประชาชนได้รวดเร็วทันเหตุการณ์ และ 4.โครงการปีใหม่รีเซตใบสั่ง เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ถูกออกใบสั่ง และยึดใบขับขี่มาเสียค่าปรับในอัตราต่ำสุดที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ไม่น้อยกว่า 100 บาท
            สำหรับโครงการรีเซตใบสั่งนั้น ประชาชนที่โดนใบสั่งและยึดใบขับขี่ไปในปี 2559 และเกรงว่าจะถูกปรับในราคาแพงสามารถมาขอร่วมโครงการได้ เพื่อจะได้มีใบขับขี่ไว้ใช้หากเดินทางไปต่างจังหวัด โดยข้อหาที่สามารถปรับขั้นต่ำได้ในราคา 100 บาท ดำเนินการได้เฉพาะในความผิดที่กำหนดโทษปรับไว้ไม่เกิน 1,000 บาท อาทิ อุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ ไม่พกใบขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
            ส่วนความผิดในข้อหาที่สร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่น ส่งผลกระทบด้านการจราจรไม่ว่าจะเป็นจอดรถกีดขวาง จอดรถในที่ห้ามจอด ขับรถบนทางเท้า นำรถที่ด้อยสมรรถนะมาขับ และเมาแล้วขับ ไม่สามารถขอเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ประชาชนสามารถไปขอร่วมโครงการปีใหม่ รีเซตใบสั่งได้ทั้ง 88 สน.ใกล้บ้าน และที่ บก.จร. ซึ่งจะเริ่มโครงการตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 4 ม.ค.60

    ที่มา: banmuang

    0 comments:

    Post a Comment