อย่างไรก็ตาม ภาพต่อมาชายวัยรุ่นคนดังกล่าวได้ไปยืนคุยกับหญิงสาวชาวไทย 2 คนที่แต่งเซ็กซี่ กำลังนั่งรับประทานโจ๊กอยู่โต๊ะติดกัน และเริ่มมีปากเสียง โดยหนุ่มวัยรุ่นไทยคนนี้ได้กระแทกไปที่โต๊ะของหญิงสาวจนชามโจ๊กได้หกใส่ตัวของหญิงสาว ทำให้หญิงสาวโมโหปากแก้วน้ำใส่หนุ่มวัยรุ่นก่อนมีการต่อว่าต่อขานด้วยถอยคำที่รุนแรง
จากนั้นภาพชายวัยรุ่นเดินบุกเข้าไปทำร้ายหญิงสาว ขณะที่หญิงสาวก็ต่อสู้ตามตาประสา โดยมีเพื่อนของหญิงสาวคอยห้ามปราบกันไว้ รวมทั้งแฟนสาวของชายหนุ่มก็พยายามช่วยห้ามปราม แต่ก็ไม่เป็นผลจนเกิดมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน ทั้งการปาข้าวของบนโต๊ะโจก ชุดพวงเครื่องปรุงปาจนฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บใบหน้าและร่างกายหลายแห่ง
หลังจากนั้นสาวผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.ตุลา สว่างรัตน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จนทราบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียหายมากับเพื่อนสาวอีกคนกำลังนั่งรับประทานโจ๊กอยู่ที่โต๊ะ ได้มีชายไทยวัยรุ่นคนดังกล่าวเดินเข้ามาที่โต๊ะ พร้อมบอกว่ามีเพื่อนสนใจและอยากได้เบอร์โทร แต่ผู้เสียหายได้ตอบปฎิเสธและ “บอกว่าไม่รู้จักกัน ให้ไปไม่ได้” ทำให้หนุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ และพูดว่า “รู้ไหมกูเป็นใคร กูเป็นลูกสารวัตร นามสกุลพูลสวัสดิ์” จนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทดังกล่าว เบื้องต้นได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และประสานให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาตัววัยรุ่นชายคนดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด “พีท ศักดิเดช พูลสวัสดิ์” ได้โพสต์ผ่าน เฟสบุ๊ค Pete Poolsawad โดยระบุว่า..มันไม่ใช่ "พูลสวัสดิ์" มันแอบอ้างผม ลูกน้องเก่าผมเองชื่อ "ปืน" ชื่อจริง "ธนชัย.." ตอนนี้ทำงานอยู่ Central Festival สมุย สันดานมันต่อแหล ใครเจอบอกหน่อยมาหาลูกพี่เก่ามัน มีเรื่องต้อง "คุย" ฝากแชร์ อย่าให้นามสกุลผมต้องเสีย เพราะพวกผมไม่ทำผู้หญิง ไม่ใช่ หน้าตัวเมีย
ฉุนขอเบอร์โทรไม่ได้ หนุ่มหล่อชกหน้าสาว สาดโจ๊ก เตะถีบ เบ่ง “รู้ไหมกูเป็นใคร”
(ดูคลิป) ทุเรศกว่านี้มีมั๊ย หนุ่มหล่อหุ่นแมน มีเรื่องสาวกลางร้านโจ๊ก หลังไม่พอใจขอเบอร์โทรสาวแต่ถูกปฎิเสธ ชวนทะเลาะโต้เถียง ไล่ชกหน้า ต่อยดะ เตะถีบผู้หญิงวิ่งหนีรอบร้าน แถมยังกว้างปาสิ่งของเหมือนเด็ก เบ่งใส่ “‘รู้ไหมกูเป็นใคร กูลูกสารวัตร” สกุลดังคนเกาะสมุย ขณะที่คนสกุลดัง “พูลสวัสดิ์” ออกโรงแจง ไม่ใช่พวกผม ยันพวกผมไม่หน้าตัวเมียทำร้ายผู้หญิง ย้ำใครเจอบอกมาหาลูกพี่เก่ามีเรื่องต้องคุย
ที่มา : banmuang
0 comments:
Post a Comment