เสี่ยงโทษหนัก!
แนะรอฟังคำตัดสินที่บ้าน
‘ยิ่งลักษณ์’ตัดพ้อโดนรังแก
ทนายเผยยึดเงิน7บัญชีแล้ว
‘มีชัย’แย้มถ้าโดนโทษจำคุก
ยื่นประกันตัวอุทธรณ์สู้คดีได้
“ยิ่งลักษณ์” ตัดพ้อรัฐบาลลุยใช้อำนาจยึดทรัพย์ทั้งหมด ไม่รอคำตัดสินศาลฎีกา ลั่นไม่ผิด ขอสู้พิสูจน์ความจริง ด้านสมุนปัดขนกองเชียร์ไปผสมโรงวันตัดสินคดี 25 สิงหาคม ในขณะที่ “นายกฯ-มท.1” เตือนกองเชียร์เข้ากรุงสุ่มเสี่ยง ละเมิดศาลโทษหนัก แนะนอนฟัง คำพิพากษาที่บ้าน ด้าน “มีชัย ฤชุพันธ์” อธิบายแม้ยิ่งลักษณ์ แพ้คดีติดคุกก็ยังยื่นขอประกันตัวอุธรณ์คดี ส่วนกรมบังคับคดีประสาน 12 แบงค์ยึดบัญชีเงินฝากอดีตนายกฯ ทนายแย้มโดนยึดแล้ว 7 บัญชี
เมื่อวันที่ 25กรกฎาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงะบุว่า ดิฉันอยากจะสะท้อนถึงความพยายามต่างๆ ในการกระทำที่เสมือนสร้างเป็นเงื่อนไขเพื่อชี้นำคดี ก่อนที่จะมีผลตัดสินของศาลฎีกาฯ ในคดีโครงการรับจำนำข้าว แต่ในที่สุดรัฐบาลก็เลือกที่จะทำเพราะคิดว่าตนมีอำนาจจะใช้อำนาจอย่างไรก็ได้ รวมทั้งไม่รอคำสั่งศาลปกครองที่ดิฉันได้ขอให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ แม้วันนี้ ดิฉันจะถูกอายัดบัญชีธนาคาร และกำลังจะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด จนต้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอทุเลา คงได้แต่บอกว่าดิฉันยังเข้มแข็ง
และพร้อมยืนหยัดต่อสู้ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” ผ่านการแถลงการณ์ปิดคดีด้วยวาจาต่อศาลอย่างหมดใจ ในวันที่ 1สิงหาคมนี้ค่ะ ซึ่งดิฉันก็จะทำอย่างดีที่สุด ดิฉันขอเปลี่ยนกำลังใจจากแฟนเพจและพี่น้องประชาชน มาเป็นพลังให้ดิฉันได้มีความเข้มแข็งและอดทนค่ะ
พท.ปัดจัดตั้งม็อบเชียร์ยิ่งลักษณ์
นายอำนวย คลังผา อดีตส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ชาวนาเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศซึ่งเขาได้รับประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าว วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังทุกข์ใจเพราะจะมีการตัดสินคดีจำนำข้าววันที่ 25 ส.ค. เขาก็ต้องการมาให้กำลังใจ
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวการจัดตั้งมวลชนมาให้กำลังใจ นายอำนวย กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการจัดตั้งมวลชน คนที่มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เขามาด้วยใจ ที่ผ่านมาก็มีการให้กำลังใจบริเวณศาลโดยตลอดไม่เคยมีความวุ่นวาย แทนที่ฝ่ายความมั่นคงจะเป็นห่วงเรื่องนี้ควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาลจะดีกว่า
สมช.เตือนม็อบเชียร์ปูสุ่มเสี่ยง
วันเดียวกัน พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ในวันพิพากษาคดี นส.ยิ่งลักษณ์ หน่วยงานด้านความมั่นคงและการข่าวได้ประชุมหารือกันโดยละเอียดเพื่อหาแนวทางไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นอยู่ตลอด
ประเด็นดังกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุว่าได้ชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าประเทศชาติต้องการความสงบเรียบร้อย แม้การมาให้กำลังใจจะเป็นเจตนาดี แต่ก็มีความสุ่มเสี่ยงจะเกิดอะไรขึ้นได้
“ผมคิดว่าศาลต้องเป็นที่พึ่งสุดท้ายของในทุกๆ เรื่อง ของทุกๆ คน ไม่ว่าใครทั้งสิ้น ยายมีตามา มีคดีความก็ไม่มีใครต้องมาเชียร์ให้กำลังใจ เขาก็เดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราต้องเชื่อมั่นในระบบ ผมเองก็เข้าใจว่าบางคนคิดอย่างไร แต่เอาประเทศชาติเป็นหลักก่อนดีกว่า ขอให้สงบเรียบร้อย” รมว.มหาดไทย กล่าว และว่ายังไม่ได้จับตาแกนนำคนใดเป็นพิเศษ
‘บิ๊กป้อม’เตือนแห่ให้กำลังใจปู
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวเตือนผู้ที่ปลุกระดมมวลชนไปให้กำลังใจ นส.ยิ่งลักษณ์ ในวันพิพากษาว่า การจะให้กำลังใจไม่จำเป็นเป็นต้องออกมาที่ศาล สามารถให้กำลังใจที่ไหนก็ได้ และเชื่อว่าจะไม่มีความวุ่นวายเพราะเรามั่นใจ
เรื่องที่จะตัดสินเป็นเรื่องของอดีตที่ผ่านมา ที่ทำมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน และกระบวนการพิจารณารัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเป็นเรื่องของศาลที่จะตัดสินตามหลักฐานพยาน ดังนั้นคนที่จะออกมาให้กำลังใจต้องดูว่าออกมาแล้วจะเกิดความสับสนและเกิดความขัดแย้งนั้น ไม่น่าจะทำได้
เมื่อถามว่าหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกพิพากษาให้จำคุกจะเป็นการปลุกกระแสต่อต้านรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของคดีความ ไม่ใช่เรื่องที่จะให้คนมารวมตัวกันว่าหากถูกตัดสินผิดแล้วต้องมาชุมนุมกัน มันไม่ใช่
เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องลดแรงต้านการปลุกระดมในโซเซียลมีเดียหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ข้อขัดแย้งต่างๆเป็นเรื่องที่เกิดจากอดีตที่ผ่านมา วันนี้เรามาร่วมมือกันสร้างความปรองดองที่รัฐบาลนี้ได้เริ่มทำ
บอกถ้าน้องชายโดนก็ต้องโดน
เ มื่อถามว่านอกจากจะมีการพิพากษาคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 25 ส.ค.นี้แล้ว ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก็จะมีการพิพากษาคดีที่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมก็ไม่เห็นจะไปเรียกใครมารวมตัว วันนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มการดูแลอะไร ทุกอย่างจะเป็นเหมือนกัน สิ่งที่ทำเป็นความผิดหรือไม่ กระบวนการยุติธรรมเดินหน้ามาตลอดเช่นเดียวกับคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ สื่อจะถามอย่างนี้ได้อย่างไร ถ้าเช่นนั้นผมก็จะถามว่าหากพล.ต.อ.พัชรวาทโดน ผมก็ต้องลุกฮือบ้างหรือ ถ้าโดนก็โดน”
บิ๊กตู่เตือนละเมิดศาลโทษหนัก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ว่า คดีของ นส.ยิ่งลักษณ์ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ไม่ใช่ คสช.ไปตัดสินเอง
“วันนี้อยากให้สังคมได้เข้าใจ ถ้าใครเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากผิดก็ต้องถูกลงโทษ หากไม่ผิดก็ไม่ถูกลงโทษ ก็เท่านั้นเอง จะมาต่อต้านนอกศาลอย่านี้ไม่ได้ ซึ่งต้องดูว่าหมิ่นศาลอะไรกันหรือเปล่า เห็นว่าทางฝ่ายศาล ฝ่ายกระบวนการยุติธรรม กำลังดูอยู่ พูดจาให้ร้ายอะไรต่าง ๆ หรือหมิ่นศาลไม่ได้นะ”นายกรัฐมนตรี กล่าว
และแสดงความเห็นห่วงประชาชนที่ไปร่วมในวันพิจารณาคดีต้องระวังด้วย ถ้าไปร่วมแล้วเดือดร้อนขึ้นมา ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเหมือนกัน เพราะมันผิดกฎหมาย รัฐบาลคงไม่ไปสกัดประชาชนที่จะเข้ามา แต่คิดว่าทุกคนต้องสกัดใจตัวเองมากกว่า ว่าเราจะไปทำไม จะได้ประโยชน์อะไรตรงไหน ไม่ว่าจะไปมากหรือน้อย หรือจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ตาม มันไม่มีผลต่อการตัดสินคดี แล้วจะไปทำไม ศาลจะตัดสินก็ตัดสินไป ถ้าไม่ผิดจะเข้าไปสู้กระบวนการพิจารณาของศาลได้หรือไม่ มันต้องมีอะไรผิด ไม่ผิดคงเข้าไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จี้แกนนำให้ส่งสารประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งใดที่เป็นความขัดแย้งเบา ๆ ลงบ้าง ช่วงนี้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ แม้ท่านจะบอกว่าเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง ตนก็เป็นห่วงยิ่งกว่าท่าน ตนเป็นห่วงที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย แล้วใครจะเดือดร้อน ไอ้คนแกนนำเดือดร้อนบ้างไหม กว่าจะดำเนินคดีได้นานหรือไม่ แต่คนที่ติดคุกก่อนคือใคร ประชาชนโดนติดคุกก่อนใช่หรือไม่ สงสารประชาชนเขาบ้าง และประชาชนก็ต้องห้ามใจตัวเองบ้าง อย่างให้เขาพาไปโน้นมานี่ ฉะนั้นหากใครมาก็จะต้องตรวจสอบว่าจะมาอย่างไร ถ้ามาเองก็คงเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว แต่ถ้ามีคนไปรับไปเกณฑ์ เอารถไปรับมา อย่างนี้ไม่ได้ถือว่าผิดกติกา อย่าสร้างความวุ่นวายเลย เขตศาลต้องระวัง โทษมันแรง
‘มีชัย’ยันแพ้คดียังยื่นอุทธรณ์ได้
วันเดียวกันนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ถ้า นส.ยิ่งลักษณ์ แพ้คดี เกี่ยวกับการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โครงการจำนำข้าว ก็มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ได้ตามรัฐธรรมนูญใหม่ แต่จะอุทธรณ์ในข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริงนั้น จะต้องรอดูว่าในวันนั้น ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ผ่านความเห็นชอบของสนช. จะมีผลบังคับใช้แล้วหรือยัง หากมีผลแล้วก็ให้เป็นไปตามกฎหมายนั้น คือสามารถอุทธรณ์ได้ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย แต่หากกฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ ก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการยื่นอุทธรณ์ แต่ต้องรอพ.ร.ป.มีผลบังคับใช้ก่อนอยู่ดี เพราะตามพ.ร.ป.เดิมที่ให้สิทธิอุทธรณ์ได้เฉพาะกรณีที่มีหลักฐานใหม่ ซึ่งถือว่าให้สิทธิน้อยกว่ารัฐธรรมนูญ
ถูกจำคุกก็ยื่นประกันได้
นายมีชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามยังไม่จำเป็นต้องยื่นอุทธรณ์ในทันที เพราะเพิ่งทราบคำตัดสิน คงไม่สามารถเขียนได้ในทันที และมีเวลาให้ยื่นได้ภายใน 30 วัน ซึ่งคิดว่าพ.ร.ป.ดังกล่าวน่าจะมีผลบังคับใช้ทัน ส่วนหากถูกตัดสินให้จำคุก ก็มีสิทธิขอประกันตัวได้ทันทีอยู่แล้ว แต่การจะอนุญาตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
“สิทธิในการอุทธรณ์มันมีตามรัฐธรรมนูญ แต่วิธีการจะยื่นอุทธรณ์อย่างไรก็ต้องไปดูตามกฎหมาย แต่ทีนี้กฎหมายยังไม่ออก ก็อาจต้องรอไประยะหนึ่งจนกว่ากฎหมายจะออก หรือไม่ก็ศาลต้องใช้ดุลยพินิจในการรับหรือไม่รับ ซึ่งเป็นเรื่องของศาล แต่ไม่ต้องใช้กฎหมายเก่า ที่อุทธรณ์ได้เฉพาะข้อเท็จจริง เพราะถือว่าจำกัดมากกว่ารัฐธรรมนูญ รออีก 1-2เดือนก็น่าจะออกมาแล้ว”นายมีชัย กล่าว
เดินหน้ายึดทรัพย์ส่งเข้าคลัง
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กล่าวการยึดทรัพย์ นส.ยิ่งลักษณ์นั้น กรมบังคับคดีจะต้องประสานกับทางธนาคาร ที่มีเงินฝาก 12 บัญชีตามที่คณะกรรมการสืบทรัพย์แจ้งมา
ทั้ง 12บัญชีของน.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่สามารถทำธุรกรรมได้ โดยธนาคารจะตรวจสอบดูว่า มีเงินอยู่ในบัญชีเท่าไร เมื่อตรวจสอบเสร็จจะส่งให้กรมบังคับคดี และกรมบังคับคดีจะส่งทรัพย์สินที่อายัดมาให้กระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ผู้เสียหาย
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การยึดทรัพย์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ช่วงนี้ พอดีกับช่วงที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกำลังจะตัดสินคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค. รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ทุกเรื่องกระทรวงยุติธรรมเดินไปตามเนื้อผ้า ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ เคยปฏิบัติกับกรณีอื่นอย่างไรก็ทำไปในมาตรฐานเดียวกัน
ถอนเงินออกไปก่อนคุมไม่ได้
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการสืบทรัพย์ นส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อชดใช้ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้มีการส่งบัญชีเงินฝาก 12 บัญชีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ให้กรมบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ ถือเป็นการทำตามหน้าที่ ซึ่งได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ส่วนระหว่างทางมีการถอนเงินออกไปไม่สามารถยึดได้ก็เป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี เพราะคณะกรรมการสืบทรัพย์ไม่มีอำนาจ
ทนายเผยถูกอายัดเเล้ว7บัญชี
นายนพดล หลาวทอง ทนายความนางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว ว่า เราได้ไปยื่นคำร้องขอทุเลาบังคับคดีต่อศาลปกครองไปเมื่อวันที่19กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขอให้ศาลปกครองสั่งให้ธนาคารหยุดอายัดบัญชีธนาคารทันที ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ที่ขอให้คุ้มครองชั่วคราว ทั้งนี้เท่าที่ทราบพบว่าก่อนมีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองทางธนาคารเเจ้งเรื่อง น.ส.นิ่งลักษณ์ ถูกอายัดบัญชีทั้งหมด7บัญชี เป็นบัญชีของธนาคารกรุงเทพฯทั้งหมด
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment