Wednesday, July 26, 2017

Tagged Under:

ปปช.จ่อฟันซ้ำยิ่งลักษณ์ ตายยกครม. เยียวยาแดงมิชอบ2พันล.

By: news media On: 6:40 PM
  • Share The Gag
  • ปปช.จ่อฟันซ้ำยิ่งลักษณ์

    ตายยกครม.

    เยียวยาแดงมิชอบ2พันล.

    แฉวิ่งพล่านยื้อคดีจำนำข้าว

    ดิ้นร้องขอตีความขัด‘รธน.’

    ‘บิ๊กตู่’ปัดยังไม่ได้ยึดทรัพย์

    อ้างยังอยู่แค่ขั้น‘เตรียมการ’

    “ปู” ดิ้นอีกเฮือกหนีตาย “จำนำข้าว” ส่งทนายร้องศาลฎีกาฯยื่นตีความข้อโต้แย้ง พร้อมเริ่มออกทัวร์เดินสายหามวลชน ด้าน “ศรีวราห์” แฉพบเบาะแสแกนนำปลุกระดมผ่านโซเชียลพาม็อบเข้ากรุงกดดันศาลวันอ่านคำพิพากษา “ประวิตร” กร้าวสั่งห้ามขนมวลชนมาให้กำลังใจเด็ดขาด ด้าน “บิ๊กตู่”แจงปมยึดทรัพย์แค่ขั้นเตรียมการ ขณะที่ ป.ป.ช. เตรียมลงดาบซ้ำอีกคดี แต่คราวนี้โดนยก ครม. 34 รายฐานจ่ายเยียวยาเสื้อแดงมิชอบ ชี้ทำเจ๊งยับเกือบ2 พันล้าน

    เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ถูกกล่าวหาปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ยังคงเดินหน้าเรียกร้องขอความในการต่อสู้คดีอย่างต่อเนื่อง

    โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์มอบให้นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งเพิกถอนคำสั่งและกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ จากกรณีศาลฎีกาฯสั่งยกคำร้องขอให้ส่งเรื่องโต้แย้งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 212 ซึ่งระบุเหตุผลการโต้แย้งว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 212กำหนดว่า ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้น ต้องด้วยมาตรา 5 และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นสภาพบังคับตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ศาลจึงไม่อาจใช้ดุลพินิจเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจศาลพิจารณาคดีจะมีอำนาจพิจารณาคำร้องที่จำเลยโต้แย้ง แล้วสั่งยกคำร้องเอง และยืนยันชัดเจนว่า ศาลรัฐธรรมนูญเพียงศาลเดียวเท่านั้นที่มีอำนาจตามกฎหมายสั่งรับหรือไม่รับเรื่องไว้พิจารณา ศาลอื่นไม่มีอำนาจ เพราะอาจขัดหลักนิติธรรมและการดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลางในฐานะตุลาการ

    อ้างเสียสิทธิจำเลยวอนศาลเมตตา

    ทั้งนี้ ท้ายคำร้องดังกล่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังวิงวอนต่อศาลว่า การพิจารณาคดีนี้ ถ้ามีคำพิพากษาจะทำให้คดีถึงที่สุด โดยที่ไม่มีโอกาสขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายได้อีก จะทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เสียสิทธิในกระบวนการยุติธรรมที่คุ้มครองจำเลย แม้การตัดสินใจยื่นคำร้องฉบับนี้สร้างความลำบากใจต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเกรงว่าเป็นการสร้างความยุ่งยากและรบกวนเป็นภาระต่อองค์คณะของศาลฎีกา แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพียงต้องการวิงวอนขอความเมตตาและขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าว

    คาดสั่งคำร้อง“ปู”1ส.ค.

    หลังทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้เพิกถอนคำสั่งและกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบจากกรณีศาลฎีกาฯยกคำร้องขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็น พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 5นั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯและรับคำร้องไว้แล้ว คาดว่าองค์คณะฯน่าจะมีคำสั่งเรื่องดังกล่าววันที่ 1 สิงหาคม ตามที่ศาลนัดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงปิดคดีด้วยวาจา ก่อนมีคำพิพากษาคดีวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ซึ่งกรณีดังกล่าวจะมีผลต่อเปลี่ยนแปลงวันนัดคำพิพากษาหรือไม่ ต้องรอดูความชัดเจนในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

    ขณะที่แหล่งข่าวนักกฎหมายกล่าวถึงการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า เป็นสิทธิของจำเลยตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 212 โดยที่มีการยื่นผ่านกระบวนการของศาลฎีกาฯ ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์จะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรงหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 213 ก็บัญญัติว่า บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้มีสิทธิยื่นคําร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยการกระทํานั้นขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ

    ส่งหมาย”คลัง-บังคับคดี”แจง15วัน

    ความคืบหน้าอีกด้านหนึ่ง กรณีทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาบังคับการอายัดทรัพย์สินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากกรณีกระทรวงการคลังส่งรายการบัญชีธนาคารจำนวน 12 คดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้กรมบังคับคดีอายัดทรัพย์นั้น นายเทอดพงศ์ คงจันทร์ รองโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า ศาลพิจารณาคำร้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์เเล้วมีคำสั่งให้กระทรวงการคลัง ผู้ถูกฟ้องคดีเเละกรมบังคับคดีชี้เเจงรายละเอียดต่อศาลภายใน 15 วัน โดยส่งหมายไปตั้งเเต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นที่ให้หน่วยงานทั้งสองชี้แจงเป็นเหตุผลที่ไปยึดบัญชีเพิ่มเติมดังกล่าว พร้อมความจำเป็นที่ต้องยึดทรัพย์น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมถึงรายละเอียดกระบวนการยึดทรัพย์ของกรมบังคับคดี คาดว่าทั้งสองหน่วยงานจะรวบรวมข้อมูลส่งมาภายในช่วงกลางเดือนสิงหาคมตามกำหนด 15 วันหลังได้หมายศาล

    “ยิ่งลักษณ์”อวยพรวันเกิดพี่ชาย

    วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียังได้โพสต์ภาพคู่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความอวยพรวันเกิดครบ 68 ปีว่า วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดพี่ชาย น้องไม่มีอะไรให้ นอกจากขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้พี่ปลอดภัย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และขอให้พี่ของน้องมีความสุข เพราะพี่ผ่านเรื่องอะไรต่างๆมามากมาย ขอให้เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ น้องรักพี่ค่ะ

    “แม้ว”เบรกแกนนำร่วมวันเกิด

    แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 68 ปี ของนายทักษิณวันที่ 26 กรกฎาคมนั้น ปีนี้จัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยนายทักษิณบอกผ่านคนสนิทว่า ปีนี้ขอจัดงานเล็กๆ ที่มีเฉพาะกลุ่มคนสนิทและคนในครอบครัวเท่านั้น พร้อมร้องขอไม่ให้แกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางมา เนื่องจากกลัวจะถูกนำไปเชื่อมโยงเป็นประเด็นการเมือง

    พท.โต้อย่ามองแง่ร้าย

    ขณะเดียวกัน มีท่าทีจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.)หลังรัฐบาลออกมาปรามถึงการเดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันตัดสินคดีจำนำข้าว 25 สิงหาคม โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษก พท.กล่าวว่า ขอให้รัฐบาล คสช.และเครือข่ายอย่ามองโลกแง่ร้าย ทุกคนรู้สิทธิและหน้าที่ของตัวเองดี ขอให้เชื่อมั่นว่าจะไม่มีการก่อจลาจล สร้างความวุ่นวายแน่นอน ประชาชนต่างคนต่างมา ให้กำลังใจแล้วก็กลับด้วยความเรียบร้อย การพิจารณาคดีที่ผ่านมา 16 ครั้ง เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ อยากให้รัฐบาลเอาเวลาไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชนจะดีกว่า

    นายกฯปรามอย่าละเมิดศาล

    สำหรับท่าทีของรัฐบาลในช่วงที่ศาลจะมีการพิจารณาคดีสำคัญหลายคดีสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวหลังเป็นประธานประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ว่า ทุกคดีสำคัญทั้งหมด ไม่เคยระบุว่าใครผิดถูกเพราะเป็นเรื่องของศาล ขออย่าไปละเมิดศาล แต่การเคลื่อนไหวนอกศาลผิดกฎหมายโดยเฉพาะการปลุกระดมต้องระวัง ถ้าไปพูดสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง จนเกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ก็มีกฎหมายมาตรา 116 อีกทั้ง มีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย ดังนั้น คนที่เขียนในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในเว็บไซต์ต้องถูกดำเนินคดีด้วย

    ยันยึดทรัพย์แค่เตรียมการ

    นายกฯกล่าวต่อว่า ส่วนการยึดทรัพย์เป็นเพียงการเตรียมการของเจ้าหน้าที่ถ้าวันหน้ามีการตัดสินออกมและที่ผ่านมานักการเมืองก็แสดงทรัพย์สินอยู่แล้ว จึงต้องสำรวจตามขั้นตอน แต่ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าผิดจนกว่าศาลจะตัดสิน ถึงจะดำเนินการยึดทรัพย์ได้

    “ไม่ใช่จะไปยึดทรัพย์เขาก่อน แต่เป็นการเตรียมการ ผมบอกให้กรมบังคับคดีไปชี้แจงเพิ่มเติมด้วย กระทรวงการคลังก็ได้ทำข้อมูลไปแล้ว ซึ่งผมบอกไปแล้วว่า อะไรที่ยังไม่ใช่เวลาก็ไม่ต้องพูดมันจะกลายเป็นเหมือนเราไปรังแกเขา  ถ้าไม่ผิดก็จบก็ยึดอะไรใครไม่ได้ แต่ถ้าผิดขึ้นมา ก็ต้องดำเนินการต่อให้ได้แค่นั้นเอง ผมยังไม่ยืนยันใครผิดใครถูก ผมไม่ใช่ศาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    “บิ๊กป้อม”ลั่นห้ามขนมวลชนอุ้ม“ปู”

    ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวถึงกลุ่มคนที่ต้องการมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์วันที่ 25 สิงหาคมว่า ถ้ามวลชนจะมาให้กำลังใจกันเอง ไม่เป็นไร เราไม่ได้ห้าม แต่การให้กำลังใจอยู่บ้านก็ให้กำลังใจได้ ส่วนที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาเชิญชวนประชาชนร่วมให้กำลังใจ จะผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ตนคิดว่าถ้าเป็นเรื่องการเมืองแล้วออกมาเชิญชวนอย่างนี้ ทำไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ต้องเชิญชวน ใครถ้าอยากมาก็มาเอง และย้ำว่าการที่อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคอีสานจะจัดรถให้มวลชนนั้น ไม่สามารถทำได้ ส่วนวันพิพากษาคดีจะจัดพื้นที่รอบศาลให้มวลชนหรือไม่นั้น ต้องถามศาล สำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยวันนั้น ตนจะดูแลเอง เพราะในพื้นที่มีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)ทำหน้าที่อยู่ ศาลสามารถขอความร่วมมือมาได้ว่าจะให้เราช่วยดูแลอย่างไร

    เมื่อผู้สื่อข่าวขอให้อวยพรนายทักษิณ เนื่องในวันเกิดวันนี้ แต่พล.อ.ประวิตรปฏิเสธ

    แฉ2แกนนำระดมพลผ่านโซเชียล

    พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)เผยว่า จะใช้แผนกรกฏ ดูแลรักษาความปลอดภัย บริเวณศาลฎีกาฯก่อนแถลงปิดคดีและตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว จากการติดตามสถานการณ์เบื้องต้นยอมรับว่า พบความเคลื่อนไหวของแกนนำมวลชน 1-2 ราย ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ที่นัดหมายผ่านโซเชียลมีเดีย จึงสั่งให้ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี ( ปอท.) และตำรวจพื้นที่ตรวจสอบว่า เข้าข่ายยุยงปลุกปั่นหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายให้ดำเนินคดีทันที ยืนยันไม่มีการสกัดมวลชนจากต่างจังหวัด แต่จะตรวจเข้มอาวุธ และยังไม่จำเป็นต้องขอใช้คำสั่งคสช.มาตรา 44 หรือคำสั่งพิเศษใดควบคุมสถานการณ์

    จับตาเฟซบุ๊คปู-รับห่วงมือที่3ป่วน

    “สั่งจับตาเฟซบุ๊ค อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์และแกนนำเพื่อไทย ถ้าพบมีข้อความปลุกปั่นมวลชนเข้ามาสนับสนุนในกรุงเทพฯ จะมีความผิด ที่สำคัญเป็นห่วงเรื่องมือที่ 3 ฉวยสร้างสถานการณ์ ส่วนการพูดคุยทำความเข้าใจกับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)เป็นเรื่องทางกองทัพ ผมแค่ส่งสัญญาณผ่านสื่อมวลชน ให้ทุกฝ่ายเคลื่อนไหวในกรอบกฎหมาย”พล.อ.ต.ศรีวราห์กล่าว

    ชวนคนอุบลฯปลูกดาวเรือง27กค.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนร่วมปลูกดอกดาวเรือง เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง รัชกาลที่ 9 ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเดือนตุลาคม โดยระบุว่า ขอร่วมแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการไปร่วมกับชาวจ..อุบลราชธานี เพื่อปลูกดอกดาวเรือง ดอกไม้สีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระองค์ในวันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 14.30 น.

    จ่อฟันซ้ำ“ปู-ครม.”รวม34ราย

    มีความคืบหน้าอีกประเด็นหนึ่งในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯและคณะรัฐมนตรี (ครม.)รวม 34 ราย ละเว้นไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 ทำให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของประเทศจำนวน 1,921,061,629.46 บาท กรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ช่วงปี 2548-2553 โดยไม่มีอำนาจ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ และเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องตนเอง โดยน.ส.สุภา ปิยะจิตติ ป.ป.ช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯกรณีดังกล่าวเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช. ซึ่งคาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะสามารถชี้มูลความผิดได้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อครม. 34 ราย ได้แก่ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ปคอป. 3.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ 4.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและรมว.คลัง 5.พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรองนายกฯ 6.นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ 7.นางนลินี ทวีสิน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ 8.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลอดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ 9.พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม 10.นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีตรมช.คลัง11.นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรมช.คลัง

    12.นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ 13.นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 14.นายธีระ วงศ์สมุทร อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ 15.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์16.นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.คมนาคม17.พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรมช.คมนาคม 18.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมช.คมนาคม 19.นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 20.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

    21.นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ อดีตรมว.พลังงาน22.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์23.นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีตรมช.พาณิชย์24.นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ อดีตรมช.มหาดไทย25.นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีตรมช.มหาดไทย26.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรมว.ยุติธรรม27.นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรมว.แรงงาน28.นายสุกุมล คุณปลื้ม อดีตรมว.วัฒนธรรม29.นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี30.นายสุชาติ ธาดาดำรงเวช อดีตรมว.ศึกษาธิการ31.นายศักดา คงเพชร อดีตรมช.ศึกษาธิการ32.นายวิทยา บุรณศิริ อดีตรมว.สาธารณสุข33.นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีตรมช.สาธารณสุขและ34.ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ อดีตรมว.อุตสาหกรรม



     ที่มา: naewna

    0 comments:

    Post a Comment