จากกรณี 13 เจ้าบ่าวผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดี น.ส.จริยาภรณ์ หรือน้ำมนต์ หรือพร บัวใหญ่ อายุ 32 ปี ในข้อหาฉ้อโกง โดยทั้งหมดระบุตรงกันว่ารู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ ผ่านทาง เฟซบุ๊ก จนมีความสัมพันธ์และแต่งงานกัน เสียค่าสินสอดนับแสนบาท บางรายถูกฝ่าย ผู้หญิงบอกว่าท้อง จึงต้องยอมแต่งงาน แต่พออยู่กินกันไปได้สักพัก น.ส.จริยาภรณ์หนีหายไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่ เพื่อสืบหาเบาะแสติดตามตัว น.ส.จริยาภรณ์ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว จากการตรวจสอบประวัติคดีอาชญากรรมของ น.ส.จริยาภรณ์ พบหมายจับในคดีฉ้อโกง ลักทรัพย์ในพื้นที่ต่างๆ ถึง 5 หมายจับ คือ จ.เลย จ.จันทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี และ จ.ชุมพร คาดว่า น.ส.จริยาภรณ์ อาจหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน หรือประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อ เท็จจริง
พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. เปิดเผยว่าสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว 4 ราย หลังจากนี้จะตรวจสอบว่าการกระทำของ น.ส.จริยาภรณ์ เข้าข่ายความผิดกฎหมายในข้อใดบ้าง และมีบุคคลอื่นร่วมด้วย หรือรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบปากคำ ผู้เสียหายทั้ง 4 คน พนักงานสอบสวนพอจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยเบื้องต้นทราบว่า น.ส.จริยาภรณ์มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.สระแก้ว พบประวัติพฤติกรรมติดการพนัน ชอบเดินทางไปเล่นพนันที่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ น.ส.จริยาภรณ์ ต้องการเงินไปเล่นพนัน
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบฯ เตรียมเรียกตัว น.ส.สร้อยเพ็ชร พารีวัลย์ บุคคลที่ น.ส.จริยาภรณ์ นำชื่อไปใช้ มาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจากบัญชีธนาคารที่ น.ส.จริยาภรณ์ ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ เป็นชื่อบัญชีของ น.ส.สร้อยเพ็ชร และจากการตรวจสอบประวัติ น.ส.สร้อยเพ็ชร พบว่ามีภูมิลำเนาเดียวกับ น.ส.จริยาภรณ์ อีกทั้งจะเชิญพ่อแม่ของ น.ส.จริยาภรณ์ มาสอบปากคำด้วย เนื่องจากทุกครั้งที่ น.ส.จริยาภรณ์ แต่งงานกับผู้เสียหายนั้น พ่อแม่มาร่วมพิธีด้วยทุกครั้ง จึงเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย
ที่มา: khaosod
0 comments:
Post a Comment