เมื่อวันที่ 2 กันยายน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตเปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง“ประชาชนคิดอย่างไรกับการไม่มาฟังคำตัดสินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนศาลออกหมายจับ”
จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีโครงการจำนำข้าวโดยแจ้งว่าป่วยน้ำในหูไม่เท่ากันซึ่งศาลพิจารณาแล้วว่า ไม่มีใบรับรองแพทย์ จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับ พร้อมกับริบเงินประกันจำนวน30ล้านบาท ขณะที่มีกระแสข่าวออกมาว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางหลบหนีไปต่างประเทศแล้วเพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ต่อกรณีดังกล่าวโดยสอบถามความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,271 คน ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน 2560
โพลล์ห่วง’ปู’หนีการเมืองร้อน
พบว่าอันดับที่ 1 ร้อยละ 71.2 ประชาชนเห็นว่าการที่ไม่มาฟังคำตัดสินคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนถูกศาลออกหมายจับ กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง คนให้ความสนใจอย่างมาก อันดับที่ 1 ร้อยละ 67.51 อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาสู้คดีตามกฎหมาย อันดับที่2ร้อยละ 63.49 ระบุว่าอาจเป็นการปิดฉากทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำตัดสินคดีนั้น พบว่า อันดับที่ 1ประชาชนร้อยละ 84.89ระบุว่าเพราะกลัวถูกลงโทษ ศาลไม่ให้ประกันตัว ต้องติดคุกร้อยละ 76.63 ระบุว่าไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม กฎหมายสองมาตรฐาน ร้อยละ 64.75 มองว่าอาจเกิดความวุ่นวาย กระทบกระทั่งกัน
ส่วนกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยอย่างไรพบประชาชนร้อยละ67.98 ระบุว่าทำให้ขาดผู้นำ ต้องหาคนใหม่มาแทน ร้อยละ 61.92 มองว่าฐานคะแนนความนิยมอาจลดลง ร้อยละ 52.08 ระบุว่าไม่กระทบ เพราะเป็นเพียงนอมินีอยู่แล้ว สมาชิกภายในพรรคน่าจะสานต่อได้
แนะรัฐบาลเร่งตาม’ปู’ดำเนินคดี
เมื่อถามว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรจะดำเนินการอย่างไรกับกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์พบว่าอันดับ1ประชาชนร้อยละ82.93 ระบุว่าเร่งติดตาม ตรวจสอบข้อเท็จจริง นำตัวกลับมาดำเนินคดี ร้อยละ70.02 ระบุว่าตัดสินอย่างเป็นธรรม พิจารณาความผิดตามพยานหลักฐาน ร้อยละ66.88 ระบุว่าชี้แจงให้ประชาชนและต่างประเทศเข้าใจในสถานการณ์บ้านเมือง
สำหรับ”บทเรียนทางการเมือง”ที่ได้จากกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาฟังคำตัดสินคดีจนศาลออกหมายจับนั้น ประชาชนร้อยละ71.91 ระบุว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมามีนักการเมืองหลบหนีคดีหลายคน ร้อยละ 69.63 ระบุว่าการทำงานมีช่องโหว่ มีความผิดพลาด ต้องรอบคอบให้มากขึ้น และร้อยละ 59.09 ระบุว่าควรรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เน้นสร้างความปรองดอง
โพลล์ชี้จนท.บกพร่องกรณี’ปู’หนี
วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการหลบหนีไม่ฟังคำพิพากษาศาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ทั้งสิ้น 1,222 กลุ่มตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2560
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่าผลจากการสำรวจในครั้งนี้ ต่อการหลบหนีไม่ฟังคำพิพากษาศาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีออกไปจากประเทศไทย ร้อยละ 59.8 รองลงคือ ไม่ ร้อยละ20.6และไม่แน่ใจ ร้อยละ19.6และคิดว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบกพร่องในกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีออกไปจากประเทศไทย ร้อยละ 59.1 รองลงคือ ไม่ ร้อยละ 20.8 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 20.1
เชื่อแม้วบงการ/ฟันธง’ปู’ขอลี้ภัย
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่าการหลบหนีไม่ฟังคำพิพากษาศาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้คำแนะนำ ร้อยละ 57.4 รองลงคือ ไม่แน่ใจ ร้อยละ 23.6 และ ไม่ ร้อยละ 19.0และคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะขอลี้ภัยในต่างประเทศ ร้อยละ 52.0 รองลงคือ ไม่แน่ใจ ร้อยละ30.3 และ ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 17.7
ปชช.รอฟัง’ปู’แจง’หนีทำไม?
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.0 อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงว่า ทำไมหลบหนีไม่ฟังคำพิพากษาศาล รองลงคือ ไม่แน่ใจ ร้อยละ 19.4 และ ไม่ ร้อยละ 17.6
และอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเพื่อรับฟังคำพิพากษาศาล ร้อยละ 57.9 รองลงคือ ไม่แน่ใจ ร้อยละ 21.4 และ ไม่เห็นด้วย ร้อยละ20.7
ป.ป.ช.ชี้’ปู’หนีไม่กระทบคดีชั้นไต่สวน
ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวถึงการไต่สวนคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ค้างอยู่ในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศว่า คดีอื่นๆที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินของเจ้าหน้าที่ ทั้งการไต่สวนพยานหลักฐาน และหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น ยังเดินหน้าต่อตามปกติ
ส่วนการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีไป ทำให้ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาให้ถ้อยคำ หรือ ชี้แจง อาจทำให้คดีสรุปได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหรือไม่นั้น ประธาน ป.ป.ช.กล่าวว่า ก็ต้องดูในรายละเอียดว่าคดีดังกล่าวมีใครเป็นผู้ถูกกล่าวหาบ้างแต่เชื่อว่าในหลายคดีที่ปรากฏชื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหานั้น มีผู้ถูกกล่าวหารายอื่นด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะไต่สวนตามปกติ คงไม่มีผลกระทบอะไรกับคดี หรือทำให้คดีต้องรวบรัดมากนัก ส่วนบางคดีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหารายเดียว จะทำให้ป.ป.ช.สรุปผลคดีนี้ได้เร็วขึ้นใช่หรือไม่นั้น ต้องขอดูในรายละเอียดก่อนว่ามีกี่คดี คดีอะไรบ้างและมีใครเป็นผู้ถูกกล่าวหาบ้าง เท่าที่ทราบ คดีที่มีชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้มีรายเดียวแต่มีคนอื่นเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย
นพดลชี้ถึงไร้’ปู’/พท.เดินหน้าต่อ
ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า แม้พรรคเพื่อไทย จะขาด นส.ยิ่งลักษณ์ แต่พรรคยังเดินหน้าทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป ส่วนกระแสข่าวมีบุคคลจำนวนมากที่จะมาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก เพื่อให้พรรคได้พิจารณาตัดสินใจและเมื่อเวลาผ่านไปคงต้องมาดูสถานการณ์ทางการเมืองขณะนั้นด้วย จึงจะรู้ว่าบุคคลใดเหมาะสมจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
“ผมเชื่อว่าแกนนำและอดีตส.ส.ของพรรค จะคัดเลือกคนที่ดีที่สุด โดยส่วนตัวขอเพียงให้ผู้ที่จะมานำเป็นคนมีความรู้ความสามารถและขณะนี้ยังมีเวลาอีกมากกว่าจะถึงการเลือกตั้งตามโรดแม็พเมื่อทางผู้มีอำนาจเปิดให้พรรคการเมืองสามารถเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมทางการเมืองได้แล้ว ถึงตอนนั้นทางพรรคคงจะได้ประชุมเพื่อหารือกันถึงเรื่องนี้ต่อไป”นายนพดล ย้ำทิ้งท้าย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี โพสต์ภาพและข้อความผ่าน อินสตาแกรม ingshin21ยืนยันพ่อและอา(ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ) รักประชาชนและประเทศชาติกว่าสิ่งใด
ได้โพสต์ว่า”Do you even realize how amazing you are to me? #mmdps cr: @porpidok คนเราอย่าตัดสินกันตอนที่มีความสุข ตอนที่เราทุกข์ คนที่เลือกจะยืนเคียงข้างเรา คือคนที่รักเราจริง ขอบคุณความโชคร้ายในชีวิตที่ทำให้รู้ว่าเราโชคดีแค่ไหน ที่มีครอบครัวที่รักกัน มีเพื่อน ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้าง มีประชาชน ที่ไม่เคยลืม และเข้าใจ ว่าพ่อและอา รักประชาชนและประเทศชาติมากกว่าอะไรทั้งนั้น #ไม่ขอให้ใครเห็นด้วย #ความคิดตัวเอง #igตัวเอง #ไม่เห็นด้วยไม่ว่า #หัวใจประชาธิปไตยเสมอ #ไม่ชอบก็block #ง่ายๆ #ตรงๆ #assimpleasitsounds #เข้าใจตรงกันนะแจ๊ะ” และมีรายงานข่าวว่า หลังจาก’น้องอุ๊งอิ๊ง’ได้โพสต์ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างเข้ามาให้กำลังใจ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมถึงคนในครอบครัวชินวัตรทุกคน
บุญทรงเครียดต่อเนื่อง
นายนรินทร์ สมนึก ทนายความของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 42 ปีและไม่ได้รับการประกันตัว หลังจากยื่นประกันตัวครั้งที่ 2 กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนได้เข้าเยี่ยมนายบุญทรงพร้อมกับทีมทนายความ ซึ่งนายบุญทรงยังมีอาการเครียด เนื่องจากยังไม่ได้ประกันตัว ซึ่งเป็นปกติธรรมดา รวมทั้งยังมีโรคประจำตัวหลายโรค ซึ่งก็ให้กำลังใจกันไป
โดยระหว่างการพูดคุยได้ปรึกษากันต่างๆหลายประเด็น ส่วนการยื่นประกันตัวอย่างที่เราเคยบอกไว้ว่าจะยื่นพร้อมคำอุทธรณ์ที่กำลังประชุมเเนวทางกันอยู่
สำหรับการเพิ่มหลักทรัพย์จะมีการเพิ่มเท่าใดนั้น ก็จะต้องพิจารณากันก่อน ซึ่งทีมทนายก็มีการพิจารณาเรื่องหลักประกันกันอยู่ เเต่ในครั้งต่อไปอาจจะยื่นหลักทรัพย์เท่าเดิมไปก่อน ซึ่งก็ต้องมองหลายๆเเนวทาง เนื่องจากคดีนี้ก็มีจำเลยหลายคนที่ยื่นประกันตัวด้วย ส่วนเรื่องครอบครัว นางปอยใจระพี ภรรยานายบุญทรงก็ได้มาเยี่ยมสม่ำเสมอ ซึ่งนางปอยใจ เองก็มีความเข้มเเข็ง อดทนเเละคอยเป็นกำลังใจให้นายบุญทรง ส่วนเรื่องคดีความเรื่องการอายัดบัญชีเงินฝากของนายปอยใจระพี เเม้จะมีการถอนฟ้องอธิบดีกรมบังคับคดีกับพวกตามที่นายบุญทรงร้องขอเเล้ว เเต่ก็ยังสู้คดีกันในศาลปกครอง ซึ่งได้ยื่นคำทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครอง ไปเเละอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในศาลปกครอง
ที่มา: naewna
0 comments:
Post a Comment