บุคคลที่ใช้นามแฝงว่า ฮี ยอนลิม อ้างว่าบิดาผู้ล่วงลับของเธอเคยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเกาหลีเหนือ เล่าว่านักดนตรีทั้ง 11 คนถูกมัดไว้กลางสนาม จากนั้นก็ใช้ปืนต่อสู้อากาศยานยิงเข้าใส่และตามด้วยใช้รถถังบดขยี้ จนร่างเละแหลกเหลว
สตรีวัย 25 ปีรายนี้เปิดเผยต่อว่ามีประชาชน 10,000 คนถูกบังคับให้มาดูการประหารชีวิตอันน่าสยดสยอง ซึ่งเกิดขึ้นที่สนามกีฬาของโรงเรียนนายร้อยในเปียงยาง ไม่นานหลังจาก คิม จองอึน ขึ้นสืบทอดอำนาจในฐานะผู้นำสูงสุดต่อจากบิดาของเขา ที่ถึงแก่อสัญกรรมในปี 2011
ฮี ยอนลิม ซึ่งหลบหนีไปยังเกาหลีใต้ หลังพ่อของเธอเสียชีวิต เปิดเผยเรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวระหว่างให้สัมภาษณ์กับเดลิมิร์เรอร์ สื่อมวลชนของอังกฤษ "พวกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงสั่งให้เราออกจากห้องเรียน และเดินทางไปยังโรงเรียนนายร้อยในเปียงยาง" ทั้งนี้ผู้หญิงรายนี้ต้องใช้นามแฝง สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย
"ที่นั่นมีสนามกีฬา เป็นแบบที่มีอัฒจันทร์โดยรอบ พวกนักดนตรีถูกพาออกมา มัดมือมัดเท้า คลุมศีรษะและดูเหมือนจะถูกปิดปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียง ไม่มีการร้องขอความเมตตาหรือแม้กระทั่งเสียงกรีดร้อง สิ่งที่ฉันเห็นมันติดตา ฉันอาเจียนตลอดทั้งวัน พวกเขาถูกลงโทษด้วยปืนต่อต้านอากาศยาน" ฮี ยอนลิมเผย
เธอเล่าต่อว่า "วันนั้น ฉันยืนอยู่ห่างจากเหยื่อราว 200 ฟุต กระสุนปืนนัดหนึ่งถูกยิงออกมา เสียงมันดังสนั่น น่าสยดสยอง จากนั้นก็มีการยิงใส่ร่างนักดนตรีคนอื่นๆทีละคน ร่างของพวกเขาระเบิดกระจาย เลือดกระเด็นไปทั่ว ต่อมารถถังของกองทัพก็เคลื่อนเข้ามาและแล่นเหยียบขยี้เศษชิ้นส่วนบนพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแทบจะไม่เหลือชิ้นส่วนใดๆ"
คำกล่าวอ้างที่ไม่สามารถยืนยันได้นี้ ตรงกับรายงานข่าวเมื่อปี 2013 ที่อ้างว่ามีการประหารชีวิตเหล่าสมาชิกของวงออร์เคสตราอุนฮาซู ซึ่ง รีโซลจู ภรรยาของคิม เป็นสมาชิกของวงด้วย
หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนของญี่ปุ่น อ้างในตอนนั้นว่าสมาชิกของวงอุนฮาซูและ Wangjaesan Art Troupe ถูกประหารหลังจากต้องสงสัยว่าผลิตหนังโป๊ โดยว่ากันว่าการประหารมีขึ้น เพราะ คิม กลัวชื่อเสียงของภรรยาจะเสื่อมเสีย
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น นิตยสารโชซุน อิลโบของเกาหลีใต้ รายงานเช่นกันว่ามีการประหารนักดนตรีหลายสิบคน ในนั้นรวมถึง ฮยอน ซอง-วอล นักร้องและคนรักเก่าของคิม
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวดังกล่าวกระพือเสียงโวยวายมาจากเปียงยาง โดยสำนักงานข่าวกลางเกาหลีเหนือ(เคซีเอ็นเอ) กล่าวหาสื่อมวลชนเกาหลีใต้ตีพิมพ์เนื้อหาอันเป็นเท็จและรายงานข่าวมุ่งร้าย
ต่อมาเอเอฟพีรายงานว่า ฮยอน ซอง-วอล ได้ปรากฏตัวผ่านสถานีโทรทัศน์ในปี 2014 ปี ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่และดูสบายดี
ที่มา: manager
0 comments:
Post a Comment