น่าสังเวช-ยิ่งเวทนาแท้ .. คือคำนิยามจาก “ครอบครัวผู้สูญเสีย”ต่อการตั้งโต๊ะเรียงหน้ากระดานแถลงผล จากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ“น้องเมย”นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 .. คำยืนยันของคณะกรรมการฯที่มี พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธาน ยืนยันว่า“น้องเมย”เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันไม่ได้เกี่ยวกับการ“ธำรงวินัย”ก่อนตายเพียงไม่กี่วัน .. ถือเป็นผลสอบสวนประเภท เปลืองไฟ เปลืองแอร์ เปลืองกระทั่งกระดาษ เอ 4 ที่เอามาใช้พิมพ์รายงาน .. ด้วยข้อมูลที่แถลงออกมาก็ยกเอาเหตุของการเสียชีวิตมาจาก “ใบมรณบัตร”ที่ออกมาตั้งแต่ต้น ว่าเป็นภาวะ“หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” ..ที่พยายามย้ำอย่างนั้น ก็เหมือนการโบ้ยว่าผู้ตายมี “ปัญหาสุขภาพ”เอง ทั้งๆที่รู้เต็มอกว่าภาวะ “หัวใจล้มเหลว”ที่แพทย์ระบุถึงนั้นเป็นแค่ “ปลายเหตุ”เหมือนๆ กับมุกตลกฝืดๆ ที่ว่า “ไม่หายใจ”นั่นแหละ .. คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจาก “แก้ผ้าเอาหน้ารอด”จนอาจ (แกล้ง) หลงลืมไปว่า สิ่งที่ “ครอบครัวน้องเมย”และสังคมใคร่รู้คือ “สาเหตุที่แท้จริง”ของการเสียชีวิตต่างหาก ..
ที่น่าตลกก็คณะกรรมการฯชุดนี้ กลับให้น้ำหนัก “คำบอกเล่า”ที่เซตสคริปต์กันมาเหมือนกันเด๊ะ มากกว่า“หลักฐานทางวิทยาศาสตร์” .. มีอย่างที่ไหน สอบสวนตั้งนานทำได้แค่สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน 40 กว่าปาก แล้วมาสรุปว่าไม่มีการ “ซ่อม - ซ้อม”ที่ส่อไปในทาง “ทำร้ายร่างกาย”แต่ “น้องเมย”อ่อนแอเองด้วยภาวะ “หอบทางอารมณ์”ที่กระทั่งหมอ ก็ต้องร้อง งง เด้ๆ .. ถามกลับว่า แล้วใน 40 กว่าปากที่ไปสอบสวนมา มี“รุ่นพี่น้องเมย”ที่เคยออกมาสารภาพว่า มีส่วนทำให้ “น้องเมย”ต้องเสียชีวิต แต่ไม่ทั้งหมด รวมอยู่ด้วยไหม .. ยิ่งไปกว่านั้น คณะกรรมการฯยังเอา “คำบอกเล่า” มาหักล้าง “ผลชันสูตรศพ”ที่ระบุว่า ร่างของผู้ตายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง รวมซี่โครงที่หักด้วย .. คณะกรรมการฯ “แก้ต่าง”ให้เสร็จสรรพว่า ก่อนเสียชีวิต “น้องเมย”ตกบันได 8 ขั้น ซึ่งเป็น“ข้อมูลใหม่”เพียงเรื่องเดียวที่ได้มาจากการสอบสวนร่วมเดือน .. ไม่เพียงเป็นข้ออ้าง “บ้องตื้น”ราวกับคนฟังรับประทานหญ้าเป็นอาหารเท่านั้น ยังเกิดคำถามด้วยว่า ตกบันได 8 ขั้น หรือ 8 ชั้น กันแน่ จนทำให้ต้องถึงแก่ความตาย ..
ด้วยท่าทีของทางกองทัพที่เต็มไปด้วยเครื่องหมาย-ข้อข้องใจมากมาย ตลอดจนความน่ากังขาจากกรณีคืนศพโดยไร้อวัยวะภายใน และไม่แจ้งให้ครอบครัวทราบก่อน มาถึงผลสอบของคณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นโดย “บิ๊กต๊อก”พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กลับตอกย้ำความเป็น “แดนสนธยา”ของ “กองทัพไทย”ที่ยึดมั่นถือมั่นใน มอตโต้ “ไม่ขายน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน”ซะเหลือเกิน .. ถึงเวลานี้ “ครอบครัวน้องเมย” รอเพียงผมการตรวจสอบอวัยวะภายในของ “น้องเมย”จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อว่ามีข้อมูลเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดีของน้องเมยในชั้นศาลอย่างแน่นอน อย่างน้อยสภาพ “ตับ-ม้าม” น่าจะบ่งชี้ถึงเหตุการณ์ก่อนถึงแกความตายได้เป็นอย่างดี .. ตรงนี้อาจเป็นเหตุให้จู่ๆ ท่าน ผอ.สถาบันนิติฯ กระทรวงยุติธรรม ออกมายอมรับว่า ไม่มีปัญญาในการสกัดดีเอ็นเอ จากอวัยวะ "น้องเมย" ได้ ทั้งที่เป็นหน่วยงานที่น่าจะเชี่ยวชาญที่สุด กลับส่งต่อไปให้ รพ.รามาฯ ตรวจอีกรอบ คาดใช้เวลา 2 เดือน ทราบผล .. คล้ายเป็นอากัปอาการของการโยน “เผือกร้อน”ให้พ้นตัว ก็ด้วยผลสอบร่างกายชุดแรกที่ระบุว่า มีรอยฟกช้ำและกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 หัก ไม่ได้มาจากการ CPR ก็ออกจากสถาบันนิติฯ นี่แหละ .. รูปการณ์เป็นเช่นนนี้แล้ว ก็ห่วงซะเหลือเกินว่า ถ้าเรื่องไปถึงชั้นศาลจริง ไม่เพียงแต่จะลากคอ“คนผิด”มาลงโทษได้ “เกียรติภูมิ”แห่งกองทัพไทย ที่ยึดมั่นถือมั่นซะเหลือเกินก็อาจไม่เหลือซาก.
ที่มา: manager
0 comments:
Post a Comment