ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (21ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและหุ้นกลุ่มพลังงาน และหลังจากที่หลายบริษัทประกาศว่าจะนำเม็ดเงินที่ประหยัดได้จากมาตรการปรับลดภาษีไปลงทุนเพิ่มขึ้น และเพิ่มค่าจ้างให้แก่พนักงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในไตรมาส 3 สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 55.64 จุดหรือ 0.23% ปิดตลาดที่ 24,782.29 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.32 จุดหรือ 0.20% ปิดที่ 2,684.57 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก 4.40 จุดหรือ 0.06% ปิดที่ 6,965.36 จุด
ทั้งนี้ บริษัทเอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล, คอมแคสต์, โบอิ้ง, เอทีแอนด์ที และเวลส์ ฟาร์โก ประกาศว่า บริษัทจะเพิ่มค่าแรง และโบนัสให้แก่พนักงาน รวมทั้งเพิ่มงบในการใช้จ่าย และลงทุน หลังสภาคองเกรสให้การรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย มาจากการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ผ่านการอนุมัติของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6%
ขณะเดียวกัน จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา
ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี และจะถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสนับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้าย สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.2% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3% แต่เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557 และดีดตัวขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งมีการขยายตัว 3.1%
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 อยู่ที่ระดับ 3.0%
ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2557 ที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 3% หรือมากกว่า เป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ที่มา: bangkokbiznews
0 comments:
Post a Comment