Thursday, December 21, 2017

Tagged Under:

ชุดขาว Vs เจ้าบุญทุ่ม "เอล กลาซิโก้"ยกแรก...หลังแก้วร้าว

By: news media On: 6:14 PM
  • Share The Gag
  • เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่โลกจับตามองไปยังสเปน

    เมื่อประเด็นการขอเป็น"เอกราช"ของ คาตาลุนญ่า ร้อนแรงจนเป็นข่าวอันดับ 1 ของโลก

    ทำเอาหลายคน"เสียมวย"ไปเยอะ เพราะเผลอตัวเผลอใจ ดันไปด่าสโมสรบาร์เซโลน่า ว่า ต้องการออกจาก ลา ลีกา สเปน จนถึงกับต้องแยกประเทศกันเลยล่ะหรือ???

    สำหรับผม ถือว่าความคิดเหล่านั้นคือ ความผิดพลาดแห่งทศวรรษกันเลยทีเดียว

    ประเด็นที่แท้จริง ขอหยิบยกมาให้อ่านอีกครั้งนั่นก็คือ ความรู้สึกหยิ่งในชาติพันธุ์ของตัวเองมีอยู่ทั่วโลก หมายเหตุแห่งชาติพันธุ์ เป็นประเด็นทุกแห่งหนมาโดยตลอด โดยเฉพาะที่ คาตาลุนญ่า หรือ คาตาโลเนีย

    เป็นที่ทราบว่า ทั้งคาตาลัน และ บาสก์ ต้องการ “จะแยก” จากสเปน มานานแล้ว เนื่องจากทั้งสองแคว้นนี้มีภาษา และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันเป็นแบบฉบับเฉพาะของตนเองที่ชัดเจน ทำให้ต้องการมีอิสระในการปกครองตนเองมากขึ้น จากศูนย์กลางของรัฐชาติ ที่กรุงมาดริด

    ประเด็นแห่งความร้าวฉาน ความแตกแยกเกิดขึ้นมานาน แต่หนักสุดๆ ก็น่าจะเป็นช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เมื่อโลกเริ่มไร้พรมแดน การสื่อสารเข้าถึง

    ความขัดแย้งในยุคดิจิตอล จะบอกว่า “ฟุตบอล”นี่แหละเป็นตัวจุดฉนวน ก็ว่าได้!!!

    ย้อนกลับไปในวันที่ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน ลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบรองชนะเลิศ กับ เยอรมนี

    มูลเหตุแห่งความร้าวลึกถูกเปิดแผลขึ้นชัดเจนเมื่อ เทศบาลนครบาร์เซโลน่า เมืองหลวงของแคว้นคาตาโลเนีย สั่งห้ามฉายเกมนัดดังกล่าว ทางจอโทรทัศน์สาธารณะประจำเมือง

    บวกกับกระแสที่มีการจับภาพได้ว่า นักเตะทีมชาติสเปนบางคน ยังมีธงประจำแคว้นคาตาโลเนีย ติดไว้ด้านบนของถุงเท้า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก หรือในตอนที่ สเปน ได้แชมป์โลก การ์เลส ปูโยล กับ ชาบี เอร์นานเดซ วิ่งถือธงคาตาโลเนีย ฉลองไปทั่วสนาม

    จากนั้นในปี 2012 ในวันชาติคาตาโลเนีย วันที่ 11 กันยายน ทั่วโลกจับตามอง การเดินขบวนเรียกร้องไปตามท้องถนนของชาวคาตาโลเนีย



    เกี่ยวกับการขอ “แยกประเทศ”

    การเดินขบวนเรียกร้องในครั้งนั้น มีบุคคลสำคัญของวงการฟุตบอลสเปน และบาร์เซโลน่า อย่างน้อย 2 คน เข้าไปมีส่วนร่วม

    คนแรกคือ ซานโดร โรเซลล์ ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า คนที่สองคือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจ้าของแทคติค “ติกิ-ตาก้า” อันเลื่องชื่อ ซึ่งตอนนั้น เป๊ป เป็นกุนซือบาร์ซ่า

    น่าสนใจก็คือ ชาเบียร์ ตริอาส นายกเทศมนตรีนครบาร์เซโลน่า ยืนยันทันทีว่า ถ้าได้รับเอกราชปกครองตัวเองและเป็นเอกเทศจากสเปน บาร์เซโลน่า จะไปร่วมเล่นใน ลีก เอิง ของ ฝรั่งเศส ก็ไม่เห็นแปลก

    กระทั่งธันวาคม 2013 รัฐบาลสเปน ได้ประกาศที่จะยับยั้งแผนการของพรรคการเมืองในคาตาโลเนียจัดการลงประชามติเพื่อหาฉันทานุมัติในการประกาศอิสรภาพแยกตัวจากสเปน โดยมีประธานาธิบดีคาตาโลเนีย “อาร์ตูร์ มาส” เป็นผู้นำ ในเดือนพฤศจิกายน 2014 ปรากฏว่า ประชาชนมากกว่า 2 ล้านคนได้พร้อมใจกันลงประชามติเชิงสัญลักษณ์สนับสนุนกระบวนการแยกประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2014

    ประธานาธิบดี อาร์ตู มาส แห่งแคว้นคาตาโลเนีย กล่าวถึงผลประชามติว่าเป็น “ความสำเร็จอย่างงดงาม” เมื่อผู้ลงคะแนนส่วนใหญ่เห็นชอบให้แคว้นที่ร่ำรวยแห่งนี้แยกตัวเป็นอิสระ

    แม้จะไร้ผลทางกฎหมายเพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญสเปนสั่งห้ามไว้ก่อนแล้วก็ตาม เพราะฝั่งสเปนทั้งพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอย่าง มาริอาโน ราฆอย และพรรคโซเชียลลิสฝ่ายตรงข้ามได้ประกาศชัดนานแล้วที่จะไม่สนับสนุนการลงประชามติของ คาตาโลเนีย

    ใครจะไปยอม เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดา แผ่นดินใหญ่ไม่อยากจะเสียใครไปแน่ เพราะจาก 17 แคว้นทั่วประเทศ

    คาตาโลเนีย สำคัญอย่างที่สุด

    นี่เป็นแคว้นใหญ่อันดับ 2 ของสเปน เป็นเมืองอุตสาหกรรมผลิตสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุด สร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจร้อยละ 20 ของประเทศ มีฐานะที่ร่ำรวย และถูกเรียกเก็บภาษีสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ รวมถึงมีอำนาจปกครองตนเองในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

    แน่นอนว่า มันจะส่งผลต่อเสถียรภาพของทางการเมืองและเศรษฐกิจสเปน อย่างไม่ต้องสงสัย



    น่าสนใจก็คือประชาชนแห่งคาตาโลเนีย ถึง 90% ลงประชามติโหวต คำว่า “Yes” เพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน

    สถานการณ์ตึงเครียด และมีความวุ่นวายอย่างหนักทางการเมือง เมื่อรัฐบาลกลางสเปน ส่งกองกำลังเข้าสลายการลงประชามติ และภาพที่ปรากฏออกไปทั่วโลก็คือ การใช้กระบองทุบตีประชาชน มีการยิงปืนด้วยกระสุนยาง และการใช้แก๊สน้ำตา เพื่อสลายฝูงชน

    จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 800 คนเลยทีเดียว

    เหตุการณ์บานปลายไปถึงฟุตบอลในศึกลา ลีกา สเปน คู่ระหว่าง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นตาตาโลเนีย เปิดบ้านพบลาส ปัลมาส เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ต้องลงเตะกันโดยปิดสนามไม่มีผู้ชมบนอัฒจันทร์ หลังมีความพยายามขอยกเลิกเกมแต่ไม่เป็นผล

    บาร์ซ่าพยายามเรียกร้องให้ลา ลีกา เลื่อนเกมแข่งขันนัดนี้ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น แต่บอร์บริหารของลีก กลับปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว พร้อมขู่ว่าถ้าไม่ลงเตะจะปรับแพ้นัดนี้ 0-3 และจะตัดแต้มอีกถึง 6 คะแนนด้วยกัน

    ลงท้าย “เจ้าบุญทุ่ม” จึงตัดสินใจแข่งตามโปรแกรมเดิมต่อไป โดยปิดสนามไม่มีแฟนบอลเข้ามาชม

    อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้นเพียงสัปดาห์เดียว ทุกอย่างกลับมาสงบเมื่อเหตุการณ์พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือประชาชนนับแสนคนรวมตัวกันบนถนนในนครบาร์เซโลนา เมืองเอกของแคว้นกาตาลุนญา ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เพื่อเดินขบวนคัดค้านการแยกตัวจากสเปน สะท้อนความขัดแย้งรุนแรงในประเด็นการแยกตัวของแคว้นหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในสเปน

    กลุ่มผู้ประท้วงที่ร่วมเดินขบวนถือธงชาติสเปน และธงคาตาลัน พร้อมป้ายข้อความระบุว่า “คาตาลุนญาคือสเปน” และ “อยู่รวมกันเราแข็งแกร่ง” กลุ่มต่อต้านการแยกตัว และแกนนำการชุมนุม ระบุว่า การรวมตัวครั้งนี้เป็นคะแนนเสียงเงียบที่เป็นเสียงข้างมากของชาวคาตาลันที่ไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวคือรวมกันเราอยู่ ดีกว่าแยกหมู่เรา(อาจ)ตาย

    ยังผลให้ สเปน รอดตัวอย่างหวุดหวิดจากวิกฤติครั้งนี้
    อย่างไรก็ตาม ไม่ต่างอะไรกับ"คลื่นใต้น้ำ" ไม่มีใครรู้ว่าจะปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ แต่ถ้าดูแล้วไม่ใกล้ไม่ไกล ก็คือเกม"เอล กลาซิโก้" ในวันเสาร์นี้ที่ซานดิอาโก้ เบอร์นาเบว ระหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ไม่ต้องถามกันว่า "มีมั๊ย"เชื่อว่างานนี้ "มีแน่"

    อยากให้จับตา เคราร์ด ปีเก้ แกนนำคนสำคัญของคาตาลัน ที่ออกตัวแบบไม่ติดเบรค จนถึงทุกวันนี้ ปีเก้ ไปเล่นที่ไหน ก็ยังมีเสียงโห่ไล่หลังอยู่ตลอด และแน่นอนว่า เกมนี้เขาต้องโดนอีกแน่
    ปกติศึกนี้ก็ได้รับการจับตาอยู่แล้ว เพราะการที่สองมหาอำนาจลูกหนังของประเทศและของโลกโคจรมาเจอกัน2 นักเตะที่ดีที่สุดในโลกแบบต้องตัดสินด้วยภาพถ่ายอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กับ ลีโอเนล เมสซี่ ปะทะฝีแข้งกันอีกคราเรอัล มาดริด เพิ่งเป็นแชมป์ทีมโลกมาหมาด ๆ แต่ต้องเจอกับ บาร์ซ่า ที่นำห่างเป็นจ่าฝูงผสมกับการเมืองที่ยังคุกกรุ่น เหมือนภูเขาไฟรอวันปะทุถ้าไม่ดูคู่นี้ ถือว่าผิดจริงๆ


    ที่มา:  naewna

    0 comments:

    Post a Comment