Monday, March 23, 2015

Tagged Under:

สยองหนุ่มจยย. ฟ้าผ่าดับ ขณะขี่กลางถนน สยองในคืนฝนถล่มกรุง อุตุฯเตือนระวังอีก3วัน

By: news media On: 3:39 AM
  • Share The Gag
  • ลูกเห็บ-พายุฤดูร้อนบุก เชียงใหม่ลุ้นไล่ฝุ่นควัน
    พายุฤดูร้อนถล่มกรุงกลางดึก ทำน้ำท่วมขังหลายจุดขณะหนุ่มสกลนครเคราะห์ร้าย ขี่จยย.บนถนนพระราม 2 เจอฟ้าผ่าดับ อุตุฯ เตือน พายุฤดูร้อนถล่มภาคเหนือ กลาง อีสาน และตะวันออก พิจิตร-พิษณุโลกโดนแล้ว พายุ-ลูกเห็บถล่มบ้านเรือนเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน ผอ.สำนักพยากรณ์อากาศชี้ผลจากพายุจะช่วยสถานการณ์หมอกควันในเชียงใหม่ให้เบาบางลง
    เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 13 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณประเทศไทย ตอนบนยังคงมีอากาศร้อน ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 22-26 มี.ค. บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงได้ 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
    นายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผอ.สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ลักษณะเช่นนี้จะส่งผลดีกับพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ แพร่ ซึ่งยังเกิดสถานการณ์หมอกควันทำให้กลุ่มควันลดน้อยลง ส่วนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือในพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนอง จะส่งผลทำให้ลดความร้อนต่อสภาพอากาศและช่วยลดความแห้งแล้งให้กับพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านได้บ้าง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหลังจากวันที่ 27-28 มี.ค.นี้พายุฝนฟ้าคะนองจะลดน้อยลงเนื่องจากอากาศเย็นเริ่มคลายตัวแล้ว
    รายงานจากสำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง ระบุว่า เช้าวันที่ 22 มี.ค.สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 29-255 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานที่บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.เมืองน่าน, อ.เมืองพะเยา, อ.เมืองลำปาง, อ.เมืองเชียงราย, อ.แม่สาย จ.เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่, อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
    วันเดียวกัน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า หากเปรียบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ (พีเอ็ม 10) ในช่วงเช้าวันนี้ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังเกินค่าปกติ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เช่น จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย ค่าพีเอ็ม 10 ยังสูงกว่า 200 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
    ม.ล.ปนัดดากล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ตนไปประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 24 มี.ค. เพื่อเร่งหามาตรการแก้ไขและป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งนายกฯ กำชับให้ทุกหน่วยงานร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งตนจะไปให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศสิงคโปร์ที่ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ชีนุกและกำลังพลมาร่วมปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าด้วย
    ที่ว่าการอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กล่าวหลังเป็นประธานประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ว่า พื้นที่อำเภอเชียงดาวเป็นพื้นที่ป่าไม้และภูเขาสูง การเข้าไปในพื้นที่ค่อนข้างที่จะลำบาก อย่างไรก็ตามการมาติดตามการทำงาน การสนธิกำลังอย่างเป็นระบบ สามารถเข้าไปจัดการในพื้นที่ได้ดีพอสมควร นอกจากนี้ยังส่งเจ้าหน้าที่เกาะติดพื้นที่เกิดไฟป่าบ่อยครั้งใน 14 หมู่บ้านของ อ.เชียงดาว เพื่อกดดันช่วยลดการเผาจากปีที่แล้ว และจับกุมผู้เผาป่าอย่างจริงจัง จ.เชียงใหม่ จับแล้ว 8 ราย สถานการณ์หมอกควันไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ ล่าสุดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังสูงเกินค่ามาตรฐาน อยู่ที่ 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน สถิติจุดความร้อน หรือฮอตสปอต ใน จ.เชียงใหม่ ของมาตรการเฝ้าระวังหมอกควันและฝุ่นละออง ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.ถึงเมื่อวานนี้ พบการสะสมกว่า 1,800 จุด กระจายอยู่ทั้ง 24 อำเภอ ยกเว้นอำเภอสารภี ซึ่งไม่มีพื้นที่ป่า พบมากที่สุดที่อำเภอแม่แจ่ม กว่า 300 จุด
    ที่ จ.ตาก นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สั่งการให้นายจำรัส กันทะวงศ์ รักษาการแทนนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าสายลวด ระดมเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงฉีดพ่นละอองน้ำตามถนนสายต่างๆ ในรอบเขตเทศบาลตำบลท่าสายลวดและในเขตเทศบาลนครแม่สอด โดยเฉพาะสนามบินอำเภอแม่สอด เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญของการคมนาคมขนส่งของอำเภอแม่สอด ซึ่งในเขตเทศบาลตำบลท่าสายลวดและเทศบาลนครแม่สอดมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ หมอกควันไม่สามารถถูกลมพัดไปที่อื่นได้จึงสะสมปริมาณเพิ่มมากขึ้น
    ที่ จ.พิจิตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสภาพอากาศร้อนจัดและอุณหภูมิสูงติดต่อกันนานหลายวัน เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.เกิดพายุโซนร้อนมีฝนฟ้าคะนองตกลงมาครอบคลุม และมีลูกเห็บกระหน่ำพื้นที่ 7 อำเภอในจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วยอำเภอเมืองพิจิตร สากเหล็ก โพธิ์ประทับช้าง ตะพานหิน บึงนาราง สามง่าม และโพทะเล โดยพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายทั้งบ้านเรือนประชาชนเกือบ 200 หลังคาเรือน และสถานที่ราชการเป็นจำนวนมาก อาทิ วิทยาลัยสารพัดช่างพิจิตร ลมพายุได้พัดโรงอาหารขนาดใหญ่ความยาว 80 เมตร กว้าง 10 เมตร พังลงมาทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 3,500,000 บาท อีกทั้งยังทำให้ไฟดับทั่วเมืองพิจิตร
    นายประกาศิต ยูวะเวศ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิจิตร กล่าวว่า ได้เร่งสำรวจความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน หลังคาสังกะสี กระเบื้อง รวมทั้งฝาบ้าน พังเสียหาย 7 ชุมชน รวมกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะชุมชนประตูน้ำคลองท่าหลวง เสียหายหนักไม่สามารถเข้าอยู่ได้ 5 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นทับเส้นทางถนนเข้าออกหมู่บ้านชุมชนหลายสิบจุด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาช่วยอำนวยความสะดวกโดยการตัดต้นไม้ที่กีดขวางกลางถนน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถสัญจรไปมาได้ สรุป 6 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองพิจิตรได้รับความเสียหายเกือบ 80 หลังคาเรือน
    ที่ จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมามีพายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดพิษณุโลก อาทิ อำเภอนครไทย ชาติตระการ เนินมะปราง และวังทอง ทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายหลายหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่ ต.พันชาลี อ.วังทอง เสียหายกว่า 210 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 1 พันไร่ นอกจากนี้วัดดงจันทร์ ต.วังพิกุล อ.วังทอง ก็ถูกพายุพัดหลังคาศาลาเก็บของภายในวัดพังเสียหาย ข้าวของกระจัดกระจาย
    วันเดียวกันนี้ ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.ว่า ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา มีฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ กทม. อาทิ ตลิ่งชัน บางพลัด ดุสิต พระนคร บางกอกน้อย วัฒนา คลองเตย สวนหลวง พระโขนง บางนา ประเวศ โดยปริมาณฝนสูงสุดในเขตบางกอกน้อย อยู่ที่ 103 มิลลิเมตร โดยในเขตบางกอกน้อยไม่มีรายงานน้ำท่วมขัง
    นอกจากนี้มีรายงานน้ำท่วมขัง 5-15 เซนติเมตร ในพื้นที่เขตชั้นใน ดังนี้ เขตราชเทวี บริเวณถนนศรีอยุธยา ช่วงแยกพญาไท-โรงเรียนสันติราษฎร์ และช่วงหน้าวังสวนผักกาด-แยกพญาไท เขตพระนคร ถนนสนามไชย บริเวณหน้าวัดโพธิ์ เขตสาทร บริเวณสวนพลู ซอย 6 โดยสำนักการระบายน้ำได้ใช้เวลาระบายน้ำจนแห้งปกติภายใน 1 ชั่วโมง ส่วนในวันนี้มีฝนอ่อนในเขตหนองจอกและคลองสามวา อยู่ที่ 1.5 มิลลิเมตร
    นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัด กทม. กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนช่วงวันที่ 20-23 มี.ค.นี้ ประเทศไทยจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น ซึ่งในพื้นที่ กทม.อาจจะเกิดฝนตกและมีลมกระโชกแรงอันเนื่องมาจากพายุฤดูร้อน ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำได้จัดเตรียมแผนปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วม อาทิ การขุดลอกคูคลอง การล้างท่อระบายน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำไหล ในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมทั้งจัดเตรียมกระสอบทราย 5.1 ล้านใบ ตลอดจนติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่จุดอ่อน 23 จุด และในพื้นที่อื่นๆ 1,590 เครื่อง ซึ่งขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 987 เครื่อง ใน 495 แห่ง
    นายสัญญากล่าวต่อว่า ได้ให้สำนักงานเขตแจ้งเจ้าของป้ายโฆษณาตรวจสอบการใช้งานและความมั่นคงของป้าย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงกับป้ายโฆษณา ทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากป้ายเนื่องจากพายุฤดูร้อน อาจมีผลทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หักและโค่นล้มทับที่อยู่อาศัยหรือทำลายทรัพย์สินประชาชนเสียหายได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดพายุฝนตกกระหน่ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ
    เวลา 01.45 น. วันที่ 22 มี.ค. เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตอยู่กลางถนนพระราม 2 ขาเข้ากรุงเทพฯ ช่องทางด่วนหลักกิโลเมตรที่ 43 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพชายสวมเสื้อเชิ้ตลายเทา กางเกงยีนส์ขายาว สภาพนอนคว่ำหน้า หัวกะโหลกแตก เสื้อผ้ากางเกงถูกไฟไหม้ และตามลำตัวก็มีแผลที่เกิดจากไฟไหม้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายชัยมงคล พอพระ บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 83 หมู่ที่ 1 ต.นาซอ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร อายุ 29 ปี ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายสภาพถูกไฟไหม้ทั้งคันเหลือแค่ซาก กลายเ ป็นโครงเหล็ก ตัวถังของรถระบุเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ไม่ทราบรุ่น หมายทะเบียน ข 1222 สมุทรสงคราม
    เบื้องต้นจากการสอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีเสียงฟ้าร้องและมีฟ้าแลบ อยู่ๆ ก็เห็นสายฟ้าผ่าลงบนถนนพระราม 2 ขณะที่ผู้ตายขับรถผ่าน แล้วรถของผู้ตายก็ล้มลง จากนั้นก็เกิดไฟไหม้รถจักรยานยนต์และร่างของผู้ตาย ขณะนั้นเองมีรถตู้วิ่งมาด้วยความเร็วทับร่างชายเคราะห์ร้ายแล้วขับหนีไป
    วันเดียวกันนี้ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้อาคารเรียนโรงเรียนวัดใหม่นพรัตน์ (หรือวัดดอนกลาง) หมู่1 ต.เนินพระปรางค์ อ.สองพี่น้อง ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารเรียนแบบไม้ยกพื้นสูง เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นเพลิงไหม้อาคารเรียนเสียหายเกือบทั้งหมด เป็นห้องเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาล 2, ป.2, ป.3, ป.4, ห้องพัสดุ และห้องผู้บริหาร อุปกรณ์การเรียนจำนวนมากถูกไฟไหม้เสียหาย
    สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพายุฝนตกหนักและเกิดฟ้าผ่าใกล้กับห้องพัสดุ จากนั้นได้มีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่รถดับเพลิงมาระดมช่วยดับไฟ แต่เพลิงได้ลุกไหม้อาคารเรียนจนเสียหาย สำหรับอาคารเรียนหลังดังกล่าวมีอายุมากกว่า 50 ปี เบื้องต้นคาดว่าค่าเสียหายมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากฟ้าผ่า แต่อย่างไรก็ดียังต้องรอการตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้งว่าเกิดจากอะไรกันแน่

    ทั่มา,http://www.khaosod.co.th/

    0 comments:

    Post a Comment